ข่าว

“อุ๋ย บุดดาเบลส”รู้เรื่องของเขา แล้วจะอึ้ง!!

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ที่จริงคนฟังเพลงสายแรปจะรู้กันมานานแล้วว่า ถ้าพูดถึง อุ๋ย วงบุดดาเบลส (Buddha Bless) หรือ นที เอกวิจิตร ผู้ชายวัย 37

คนนี้่จัดว่ามีความรู้เรื่องธรรมะ พุทธศาสนาเป็นอย่างดี แม้ขนาดชื่อวงก็หมายถึง “พรจากพระพุทธเจ้า”

แต่วันนี้ เมื่ออุ๋ย เปิดฉากปะฉะดะกับวัดพระธรรมกาย หรือสำนักจานบิน จนเรียกแขกได้ตรึมแล้ว อุ๋ย ยังไปออกรายการ ต่างคนต่างคิด ทางช่อง AMARIN TV ดีเบตกับ กับ “อัยย์ เพชรทอง” ประธานองค์กรพลังชาวพุทธ กัลยาณมิตรวัดธรรมกาย จนทำเอาอีกฝั่งหงายเงิบด้วยเถียงสู้ไม่ได้

ตามมาด้วยตัวเลขโพลล์ออกมาชี้วัดความเชื่อถือจากการดีเบต ซึ่งเป็น Poll social ในหัวข้อที่ว่า ท่านเชื่อใคร? โดยงานนี้กลุ่มตัวอย่างให้อุ๋ยเกือบหมดทั้งใจ 96.73 ต่อ 1.08 

ทันใดนั้น คนไทยไม่ใช่แค่เฉพาะนักฟังเพลง แต่เกือบทุกคนหันมาสนใจเรื่องราวของอุ๋ยมากขึ้น ว่าทำไมเขาถึงเข้าใจเรื่องธรรมะอย่างลึกซึ้งขนาดนี้

คำตอบที่ทำเอาทุกคนอึ้ง คือ “อุ๋ยมาไกลกว่าที่คิดมาก” เพราะไม่เพียงแค่ข่าวทั่วไปที่เรารู้ว่า อุ๋ยเพิ่งบวชถวายเป็นพระราชกุศลเมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เป็นเวลา 1 เดือน กับ พระอาจารย์นวลจันทร์ กิตติปัญโญ ซึ่งหนุ่มอุ๋ย ยังได้เดินทางไปยังประเทศอินเดียระหว่างที่บวช เพื่อศึกษาธรรมมะ

แต่ที่จริงแล้ว เรื่องธรรมะนั้น อุ๋ยเคยเล่าไว้กับ นิตยสาร Secret ว่า ได้รับการปลูกฝังมาตั้งแต่วัยเด็กโดยแม่ของเขาเอง

โดยเดิมที อุ๋ยก็เป็นเด็กธรรมดาทั่วไป มีเกเรบ้าง แต่แม่ของเขาก็จะให้อุ๋ยหมั่นทำบุญใส่บาตร ไหว้พระมาตั้งแต่เด็กๆ

หรือสมัยเรียนชั้นประถม โรงเรียนก็ให้เดินจงกรม นั่งสมาธิบ่อยๆ แต่ด้วยวัยที่ยังเด็กทำให้อุ๋ยไม่อินเท่าไหร่

จนกระทั่งเกิดเหตุไฟไหม้บ้าน!!! จุดนั้น คือจุดเปลี่ยนที่สำคัญที่สุด

เพราะเมื่อเขาได้เห็นว่าพ่อแม่ คนในครอบครัวมีความทุกข์เป็นอันมาก ด้วยความที่อยากทำให้ทุกคนสบายใจจึงหันเข้าทางธรรม

โดยเขาเล่าว่า ตนนั้นเคยได้ยินมาว่า “การปฏิบัติธรรมได้บุญมากกว่าสร้างวัดทั้งหลังอีก คิดไปคิดมาลองไปทรมานตัวเอง ทำอะไรที่ขัดอกขัดใจดูบ้างก็น่าจะดี"

ที่สุดเมื่อลองแล้ว ปรากฏว่าอุ๋ยติดใจ!! จนถึงขั้นไปบวชศึกษาพระธรรมอย่างจริงจังหนึ่งพรรษา และตัดสินใจไม่แตะต้องของมึนเมาอีกเลย

ที่เด็ด คือ เขาได้เคยใช้ธรรมะ เยียวยาความเจ็บปวดจากโรคมะเร็งระยะสุดท้ายของพ่อบุญธรรม โดยบอกเล่าวิธีการแยกความเจ็บปวดออกจากใจ ที่เขาเพิ่งฝึกมากจาก การเข้าปฏิบัติธรรมที่ “บ้านพุฒมณฑา” ปากช่อง นครราชสีมา

โดยการฝึกปฏิบัติ “การแยกความเจ็บปวด” ออกจากใจ มีหัวใจของการปฏิบัติ คือ อย่าผลักความเจ็บปวดไป หรืออย่าหนีความเจ็บปวด แต่ให้ทำเหมือนเราเป็นเพื่อนกัน และเมื่อเราอยู่กับความเจ็บปวดได้ เราก็จะไม่ทุกข์ ยิ่งถ้าสำหรับผู้ป่วยระยะสุดท้าย การฝึกแบบนี้เป็นเรื่องที่สำคัญ

ซึ่งที่สุด สิ่งนี้ก็ช่วยได้มาก เพราะได้ทำให้พ่อบุญธรรมสงบลง จนกระทั่งเสียชีวิตหลังจากนั้นไม่นาน โดยอุ่ยเล่าว่า ก่อนเสียชีวิต พ่อบุญธรรมของเขาบอกกับเขาว่า

“ถ้าคิดว่าปาป๊ามีบุญคุณกับอุ๋ย นี่คือการตอบแทนที่ดีที่สุดมากกว่าอะไรทั้งนั้น”

ถึงตรงนี้ เราจึงได้รู้ว่า อุ๋ย บุดดาเบลส ถ้าพูดเรื่องธรรมะ เขาไม่เป็นรองใคร และยังใช้ธรรมะนำทางชีวิตในเกือบทุกด้านอีกด้วย

เพราะไม่เพียงเรื่องที่ว่ามาข้างต้น หรือเรื่องที่ว่าเขามักไปทำบุญที่วัดปากน้ำ ภาษีเจริญแล้ว

ยังมีเรื่องของผลงานที่เราจะรู้ดีว่าเนื้อหาเพลงทุกเพลงของ บุดด้าเบลส จะอิงคำสอนของพุทธศาสนาและธรรมะ

จนทำให้วงนี้เคยได้รับรางวัลจากสภาองค์กรพระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย คือ รางวัล ต้นโพธิ์ทอง โดยเพลงที่ทำให้ได้รับรางวัล คือ ใจเย็น , ลำยอง, ชิงหมาเกิด และ ยาเสพติด

ที่สำคัญ ยังมีในเรื่องของความรักครั้งอดีต ที่อุ๋ยใช้ธรรมะในการเยียวยาความเจ็บปวดจากภาวะอกหักรักคุด กับนางหนึ่งในแก๊งค์นางฟ้า ด้วยวิธีการที่ฝึกปฏิบัติมานั่นเอง

คือ การไม่หนีความเจ็บปวด แต่เอามันมาเป็นพลังในการแต่งเพลง “ลืมไปก่อน” จนดังปัง! ฟังได้ฟังดีกันมาจนทุกวันนี้

บอกแล้วว่า เรื่องธรรมะ หนุ่มอุ๋ยทำให้ทุกคนอึ้ง จนลืมผู้ชายอย่างเขาไม่ลงเลยทีเดียว

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ