จี้ล่าเก๋งชนแล้วหนีสาวขี่จยย.กระเด็นสลบ

               22 ก.พ. 60  จากกรณีโลกโซเชียลได้มีการแชร์คลิปภาพวงจรปิด เหตุการณ์รถเก๋งเลี้ยวชนรถจักรยานยนต์ที่ขับชิดเลนซ้ายเต็มแรง บริเวณหน้าศูนย์ราชการจังหวัดบุรีรัมย์ จนทำให้รถจักรยานยนต์กระเด็น คนขับขี่สลบ แต่รถเก๋งคันดังกล่าวไม่ลงมาดูหรือช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ขับรถมุ่งหน้าเข้าไปในศูนย์ราชการจังหวัดเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น จากนั้นมีรถยนต์และรถจักรยานยนต์ ขับเข้า-ออกศูนย์ราชการจังหวัดผ่านผู้บาดเจ็บไปมา แต่ก็ไม่มีคนลงมาช่วย กระทั่งมีพลเมืองดีขับรถกระบะสี่ประตูลงมาดู และโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่นำส่งโรงพยาบาล

               หลังจากมีการแชร์คลิปภาพเหตุการณ์ดังกล่าว มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก ส่วนมากประณามคนขับรถเก๋งที่ไร้น้ำใจชนแล้วหนีไม่ลงมาดูคนเจ็บ รวมทั้งต่อว่ารถที่ขับผ่านไปหลายคันแต่ไม่สนใจ ซึ่งจากคลิปผู้บาดเจ็บนอนสลบอยู่นานกว่าจะมีรถของพลเมืองดีที่จอดลงมาดูและโทรศัพท์แจ้งหน่วยกู้ชีพมาช่วยนำส่งโรงพยาบาลบุรีรัมย์ โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดเวลาประมาณ 13.22 น. วันที่ 20 ก.พ. ที่ผ่านมา

               ล่าสุด สอบถามข้อมูลจากทางโรงพยาบาลจึงทราบชื่อคนขับขี่รถจักรยานยนต์ที่ถูกรถเก๋งชนบาดเจ็บคือ น.ส.อัฐริยา บุญปก อายุ 21 ปี นักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี ปี 1 สาขาธุรกิจระหว่างประเทศ ขณะนี้ยังรักษาตัวอยู่ที่ตึกศัลยกรรมหญิงชั้น 3 โรงพยาบาลบุรีรัมย์ ได้รับบาดเจ็บบริเวณศีรษะ ใบหน้า แขน ขา และสะโพก ทั้งยังมีอาการมึนงงจำอะไรไม่ค่อยได้ เนื่องจากสมองได้รับการกระทบกระเทือน และยังต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด

               น.ส.อัฐริยา ซึ่งพอพูดคุยได้เล็กน้อย เล่าว่า วันเกิดเหตุได้ขับรถจักรยานยนต์กลับจากซื้อยาแก้ภูมิแพ้ในตัวเมือง กำลังจะกลับที่พักใน ต.สวายจีก พอถึงจุดเกิดเหตุรถเก๋งก็เบียดเข้ามาชนจากนั้นก็สลบไปมารู้สึกตัวอีกทีก็อยู่ที่โรงพยาบาลแล้ว พอมาเห็นคลิปในภายหลังว่าคนขับรถเก๋งไม่ได้ลงมาดูหรือช่วยเหลือกลับขับรถหนีก็รู้สึกเสียใจ จึงอยากฝากถึงรถเก๋งให้ออกมาแสดงความรับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วย

               นางอารีย์ บุญปก อายุ 49 ปี แม่ของนักศึกษาสาวที่ถูกรถเก๋งชน กล่าวว่า ทันทีที่เห็นคลิปก็ถึงกับน้ำตาไหลเพราะสงสารลูกที่ต้องนอนสลบอยู่กลางถนน แต่ไม่มีใครคิดจะลงมาช่วยเหลือ กระทั่งมีพลเมืองดีลงมาช่วยแจ้งเจ้าหน้าที่นำส่งโรงพยาบาล จากเหตุการณ์ที่เกิดเหตุก็อยากฝากถึงคนขับรถเก๋งควรจะออกมาแสดงความรับผิดชอบบ้าง หากชนแล้วก็ควรจะลงมาดูมาช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาลเพื่อแสดงความมีน้ำใจ ครอบครัวก็อาจจะไม่เอาเรื่อง แต่หลังจากเห็นคลิปที่ชนแล้วขับรถหนีไปเลยไม่สนใจลูกสาวที่ต้องนอนเจ็บอยู่กลางถนน จึงได้เข้าแจ้งความให้ดำเนินคดีกับคนขับรถเก๋งคันดังกล่าวแล้ว พร้อมอยากฝากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยติดตามตัวคนขับรถเก๋งที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็วด้วย