ข่าว

ศาลนัดตรวจหลักฐานคดีฉ้อโกงฯ สหกรณ์คลองจั่น

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ศาลนัดตรวจหลักฐานคดีฉ้อโกงฯสหกรณ์คลองจั่น 1.1 หมื่นล้าน ต้น พ.ค.นี้ หลังรวมคดีอัยการฟ้อง“อดีตผู้จัดการฝ่ายการเงิน”กับ“ศุภชัย ศรีศุภอักษร -อดีตกรรมการบริหาร 11คน

          20 ม.ค. -- ศาลนัดตรวจพยานหลักฐาน คดีหมายเลขดำ อ.3339/2559 ที่อัยการสำนักงานคดีพิเศษ 4 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน คลองจั่น , นายมณฑล กันล้อม อดีตประธานสหกรณ์ฯ , นายลภัส โสมคำ อดีตกรรมการ , นางทองพิน กันล้อม อดีตกรรมการ , นายณัฐวัฒน์ ปิยพัชร์เมธี อดีตผู้จัดการสหกรณ์ , นายอารีย์ แย้มบุญยิ่ง ผู้จัดการสหกรณ์ , น.ส.ศรัณยา มานหมัด อดีตรองผู้จัดการสหกรณ์ ,นางสาววาริศา เอกชัยจินดาวัฒน์ อดีตกรรมการสหกรณ์ ,นางจันทร์ฉาย ขันธะหัตถ์ รองผู้จัดการสหกรณ์ , นายธนากร น่าบัณฑิต อดีตเจ้าหน้าที่สหกรณ์ ,นายกฤษฎา มีบุญมาก อดีตเจ้าหน้าที่สหกรณ์ เป็นจำเลยที่ 1-11 ในความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 และ 343 กรณี ระหว่างเดือน ม.ค.51 - ธ.ค.55 ร่วมกันทำสัญญากู้ยืมเงินระหว่างสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นกับสมาชิกสมทบ ซึ่งเป็นนิติบุคคลหรือคณะบุคคลที่ไม่ได้ถือหุ้นในสหกรณ์ จำนวน 28 ราย รวมเงินสัญญากู้ยืม 11,858,440,000 บาท โดยมิได้มีการกู้ยืมเงินกันจริง และร่วมกันทำบันทึกรายการทางการเงินอันเป็นเท็จ โดยโจทก์ขอให้ลงโทษจำเลยตามกฎหมาย และขอให้จำเลยทั้งหมดร่วมกันคืนเงินให้ผู้เสียหาย รวม 2,254 รายด้วย ซึ่งคดีนี้อัยการยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 11 พ.ย.59 และนัดตรวจหลักฐาน คดีหมายเลขดำ อ.3734/2559 ที่อัยการสำนักงานคดีพิเศษ 4 เป็นโจทก์ ฟ้อง นางวันเพ็ญ ยอดดี อดีตผู้จัดการฝ่ายการเงิน ในความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 และ 343 ซึ่งอัยการยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 15 พ.ย.59 จากพฤติการณ์เดียวกันที่นายศุภชัย อดีตประธานสหกรณ์ฯ กับพวกรวม 11 รายถูกกล่าวหา

          โดยวันนี้ เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้เบิกตัว นายศุภชัย จำเลยที่ 1 มาเรือนจำบางขวาง  , นางทองพิน อดีตกรรมการสหกรณ์ฯ จำเลยที่ 4 และ น.ส.ศรัณยา อดีตรองผู้จัดการสหกรณ์ฯ จำเลยที่ 7 และ มาจากทัณฑสถานหญิงกลาง สำหรับจำเลยอื่นที่เหลือได้รับการประกันตัวเดินทางมาศาลเช่นกัน เมื่อถึงเวลานัดอัยการโจทก์แถลงว่า เนื่องจากก่อนหน้านี้อัยการได้ส่งสำนวนที่มีความสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหาบางรายที่ถูกกล่าวหาว่าร่วมกระทำผิดในคดีนี้ กลับไปให้พนักงานสอบสวบคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เพื่อพิจารณาว่าจะมีความเห็นแย้งกับอัยการหรือไม่ ดังนั้นในวันนี้จึงไม่สามารถยื่นเอกสารที่เกี่ยวกับสำนวนคดีเพื่อประกอบการตรวจหลักฐานได้  จึงจะขอเลื่อนนัดตรวจพยานหลักฐานออกไปก่อน

            ศาลพิจารณาแล้วอนุญาตให้เลื่อนไปตรวจพยานหลักฐานอีกครั้ง วันที่ 1 พ.ค.นี้ เวลา 09.00 น. ส่วนที่อัยการขอรวมสำนวนคดีนายศุภชัยกับพวกและนางวันเพ็ญพิจารณาเป็นสำนวนเดียวกันนั้น ศาลอนุญาตให้รวมคดีทั้งสองสำนวนเข้าด้วยกัน  โดยให้ยึดสำนวนคดี อ.3339 /2559 เป็นสำนวนคดีหลัก

            ภายหลังนายวันชัย บุนนาค ทนายความนายศุภชัย จำเลยที่ 1 กล่าวถึงกรณีสหกรณ์ฯ ในฐานะผู้เสียหาย ได้ยื่นคำร้องขอถอนอุทธรณ์ คดีที่อัยการยื่นฟ้องนายศุภชัย ความผิดฐานยักยอกทรัพย์ คดีหมายเลขดำ อ.1739/2558 ที่ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุก นายศุภชัย 14 ปี 24 เดือน เนื่องจากนายศุภชัยได้นำเงินมาชดใช้เป็นค่าเสียหายให้กับสหกรณ์ฯ ว่า ในวันที่ 21 มี.ค. นี้ ศาลอาญาได้นัดพร้อมคู่ความรวมทั้งผู้แทนสหกรณ์ฯ ผู้เสียหาย เพื่อสอบถามถึงรายละเอียดดังกล่าว เพื่อจะเสนอให้ศาลอุทธรณ์พิจารณาต่อไป ว่าจะมีคำสั่งอย่างไร โดยการเสนอชดใช้ค่าเสียหายจำนวน 34,752,150 บาท โดยเป็นเงินที่รวมกับดอกเบี้ยของเงินต้นความเสียหายทั้งหมด 27 ล้านบาทดังกล่าวนั้นก็เป็นประสงค์ของนายศุภชัย ที่เมื่อมีเงินแล้วก็พร้อมจะคืนให้กับสหกรณ์เพื่อเยียวยาสมาชิก ซึ่งความผิดยักยอกทรัพย์นี้ก็เป็นความผิดอันยอมความกันได้ หากผู้เสียหายไม่ติดใจ อย่างไรก็ดีหากศาลอุทธรณ์อนุญาตถอนอุทธรณ์ได้ แต่นายศุภชัย ยังไม่ได้รับการปล่อยตัวเนื่องจากยังถูกคุมขังคดีอื่น โดยยืนยันว่าเหตุที่ดำเนินการดังกล่าว จะไม่มีผลต่อคดีอาญาอื่น รวมถึงคดีฟอกเงินที่นายศุภชัยถูกยื่นฟ้องและยังถูกพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ทำสำนวนคดี ซึ่งคดีฟอกเงินที่ถูกกล่าวหามีประมาณ 9 สำนวน ที่ดีเอสไอส่งให้อัยการพิจารณา 3 สำนวน โดยอัยการได้ยื่นฟ้องมาแล้ว 1 สำนวน

            นายชาติพงษ์ จีระพันธุ รองอธิบดีอัยการคดีพิเศษ เปิดเผยด้วยว่า วันนี้ในการตรวจพยานหลักฐานคดีที่นายศุภชัยกับพวกร่วมกันฉ้อโกงฯ นั้น อัยการก็ได้ขอศาลอนุญาตให้รวมสำนวนพิจารณาคดีเดียวกับที่อัยการยื่นฟ้อง นายศุภชัย , น.ส.ศรัณยา และนางทองพิน (คดีหมายเลขดำ ฟย.47/2559 กรณีทำสัญญากู้ยืมเงินระหว่างสหกรณ์ฯ กับสมาชิกสมทบซึ่งเป็นนิติบุคคลหรือคณะบุคคลที่ไม่ได้ถือหุ้นในสหกรณ์ฯ รวม 28 ราย จำนวนเงินตามสัญญากู้ยืม 11,858,440,000 บาทโดยไม่มีการกู้ยืมเงินกันจริง ) ความผิดฐานฟอกเงินด้วยเนื่องจากพฤติการณ์สืบเนื่องกัน เพื่อความสะดวกในการสืบพยานหลักฐานด้วย

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ