ข่าว

พนง.บินไทยจี้บิ๊กตู่ใช้ม.44สอบทุจริตเจ้าจำปี

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

พนักงานการบินไทย ชุมนุมเรียกร้อง “บิ๊กตู่” ใช้ม.44 ตรวจสอบการทุจริตและจี้ประธานบอร์ดลาออก จ่อยื่นป.ป.ช.-สตง. สอบบัญชีในทางลึก

          เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ กลุ่มพนักงานการบินไทยที่เรียกตัวเองว่า คนบินไทยจิตอาสา กว่า 100 คน ได้มารวมตัวกันบริเวณหน้าอาคารศูนย์ปฏิบัติการการบินไทย ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยนายนเรศ ผึ้งแย้ม ตัวแทนพนักงานบริษัทการบินไทย เปิดเผยว่า  การรวมตัววันนี้เพื่อต้องการสะท้อนถึงปัญหาการทุจริตและประพฤติมิชอบของคณะผู้บริหารบริษัทการบินไทยทั้งระบบ ที่ผ่านกระบวนการการจัดซื้อจัดจ้างในบริษัท มีการทุจริตคอร์รัปชั่น พวกเราพนักงานรับรู้และทราบกันดีว่าเกิดขึ้นตั้งแต่การจัดซื้อจัดจ้างวัสดุอุปกรณ์ขนาดเล็กเช่นไม้จิ้มฟัน ไปจนถึงยานพาหนะขนาดใหญ่คือเครื่องบิน ลักษณะการทุจริตที่เกิดขึ้นในบริษัทนั้น ที่จะเห็นเด่นชัดที่สุดคือเรื่อง การจัดซื้อเครื่องบิน การแปลง ปรับระบบเครื่องบินของบริษัท เป็นต้น

          “อย่างมติลดอายุการใช้งานของเครื่องบินทั้งฝูงของบริษัท การบินไทย เพื่อให้การบินไทยสามารถซื้อเครื่องบินได้อีกสองระยะ จำนวน 75 ลำ คือ ระหว่างปี 2554-2561 จำนวน 37 ลำ วงเงินกว่า 2 แสนล้านบาท และปี 2561-2565 จำนวน 38 ลำ วงเงินกว่า 2.4 แสนล้านบาท มีการบรรจุในแผนฟื้นฟูองค์กรปี 2552-2554 เป็นสาเหตุให้มีการวางแผนปลดระวางล่วงหน้าเครื่องบินเกือบ 50 ลำ ก่อนการหมดอายุการใช้งานจริงที่เฉลี่ยอยู่ที่ 25 ปีสำหรับเครื่องโบอิ้ง และ 20 ปีสำหรับเครื่องแอร์บัส” นายนเรศ กล่าว

          พร้อมกันนี้ ตัวแทนพนักงานการบินไทยยังกล่าวเรียกร้องไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช.  ให้ใช้อำนาจตามมาตรา 44 จัดตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อตรวจสอบการทุจริตเชิงนโยบายจัดซื้อจัดจ้างทั้งหมดของบริษัท การบินไทย ในช่วงที่ผ่านมา และให้ประธานคณะกรรมการและฝ่ายบริหาร บริษัท การบินไทย ที่ร่วมเป็นคณะกรรมการแผนฟื้นฟูบริษัทในช่วงปี 2552-2554 ลาออก เพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อแผนและนโยบายที่ผิดพลาดจนก่อให้เกิดปัญหาการขาดทุนต่อเนื่องและสร้างหนี้สินผูกพันระยะยาว ซึ่งในฝ่ายบริหารชุดนั้น มีประธานคณะกรรมการบริษัทการบินไทยคนปัจจุบัน คือนายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงพลังงาน รวมอยู่ด้วย

          “ทางกลุ่มจะหารือกับสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการบินไทยภายในสัปดาห์นี้  และจะส่งหนังสืออย่างเป็นทางการไปยังสำนักนายกรัฐมนตรี สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เพื่อขอให้ตรวจสอบทางบัญชีผลประกอบการของบริษัทการบินไทย รวมทั้งตรวจสอบการจัดตั้งบริษัทลูก โดยเฉพาะไทยสมายล์ นกแอร์ และวิงสแปน ว่าการดำเนินนโยบายดังกล่าวเป็นไปเพื่อผลประโยชน์โดยรวมของบริษัทหรือเพื่อเอื้อต่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหรือไม่” นายนเรศ กล่าวและยืนยันว่า การรวมตัวกันครั้งนี้ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อผู้โดยสารที่มาใช้บริการในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิแต่อย่างใด

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ