สีสุก ดาวเฮือง “ข้าบ่แม่นเจ้าพ่อ”

          หลังจากสื่อไทยนำเสนอภาพ “สีสุก ดาวเฮือง” ถ่ายคู่พระเอกละครช่อง 7 สี แล้วพาดหัวข่าวว่า ดาราไทยถ่ายรูปกับ “ไซซะนะ แก้วพิมพา” ก็ไม่มีคำชี้แจงใดๆ มาจากเศรษฐีใหม่เมืองลาวรายนี้

          สื่อไทยที่ชิงเล่นข่าวนี้ก่อน ก็ไม่ได้แก้ไขข้อมูลให้ถูกต้อง

          “สีสุก ดาวเฮือง” หรือ “เฮียเตื้อง” เป็นนักธุรกิจดาวรุ่งของลาว ทีวีไทยหลายช่องที่ข้ามโขงไปทำข่าว เกี่ยวกับนักธุรกิจเออีซี ล้วนได้เคยสัมภาษณ์เส้นทางชีวิตธุรกิจของเขามาแล้ว
          สีสุก เป็นเจ้าของคอกม้า และโรงเรียนสอนขี่ม้าแห่งเดียวในนครเวียงจันทน์

          สีสุก เป็นเจ้าของโชว์รูมรถหรู และเป็นผู้ได้รับสัมปทาน “หวยพัดทะนา” และ “หวยทายผลบาน” หรือโต๊ะบอลถูกกฎหมาย

อาณาจักรธุรกิจสีสุกกรุ๊ป



ธุรกิจขายหวยถูกกฎหมาย



ธุรกิจขายรถ
 

          ตั้งแต่เกิดเหตุจับกุม ไซซะนะ แก้วพิมพา ผู้คนในสื่อสังคมออนไลน์ลาวจำนวนไม่น้อย เชื่อว่า สีสุกพัวพันกับขบวนการค้ายาบ้าของไซซะนะ

          นายตำรวจใหญ่ฝั่งไทย ก็หลุดชื่อ “สีสุก ดาวเฮือง” ออกมา แต่ก็ยังหาหลักฐานมาแจ้งข้อกล่าวค้ายาเสพติดไม่ได้

          9 ก.พ.2560 แฟนเพจโทละโข่ง ของ “เฮียกู้ ลาวสตาร์” ได้นำข้อความจากเฟซบุ๊คส่วนตัวของสีสุก แล้วพาดหัวว่า “มาแล้ว! สีสุก ดาวเฮือง โพสข้อความล่าสุดเปิดใจ” พร้อมกับมีภาพของสีสุกคุกเข่าพนมมือไหว้ ต่อหน้าพระพุทธรูป ในพระอุโบสถวัดแห่งหนึ่ง ที่เมืองเฟือง แขวงเวียงจันทน์

          “วันนี้ ข้าพเจ้าสีสุก ดาวเฮือง อยากขอเปิดใจที่ได้อดทนนับแต่วันที่ไซซะนะถูกจับกุมในประเทศไทย ให้สังคมได้รับข้อที่เป็นจริง เรื่องของข้าพเจ้า ที่กำลังเป็นกระแสในโลกสื่อออนไลน์ทุกวันนี้

          “ปัจจุบัน ข้าพเจ้าได้ชีวิตตามปกติ วันนี้ได้มาทำบุญ ถ่ายรูปกับพระที่คนลาวเคารพนับถือ ให้เป็นที่พึ่งทางใจ

          “ก่อนอื่น ข้าพเจ้าอยากเรียกร้องถึงสื่อสังคมออนไลน์ ให้เสพสื่ออย่างมีสติ มีความเป็นจริงเป็นอย่างไร เพราะกระแสข่าวที่ได้กล่าวหาข้าพเจ้าว่า ได้เป็นผู้ที่มีส่วนร่วมค้ายากับไซซะนะนั้น ไม่ใช่ความจริง

          “ข้าพเจ้ายอมรับว่า ได้เป็นเพื่อนกับไซซะนะจริง ในนามไปเล่น ไปเที่ยว และพบปะกันตามงานสังคม

          “สุดท้าย ข้าพเจ้าอยากอ้อนวอนให้สื่อสังคมออนไลน์ อย่าเอาความเป็นเพื่อน กับการถ่ายรูปด้วยกัน มาตัดสินให้ข้าพเจ้าเสียหายในสังคมออนไลน์ และในสังคมลาวที่ข้าพเจ้าได้อาศัยอยู่มาจนถึงครึ่งชีวิต ขอขอบใจทุกคนที่เป็นกำลังใจ”

          นี่คือข้อความที่สีสุกเขียนในสเตตัส และหลังเพจโทละโข่งเสนอสิ่งที่เขาโพสต์แล้ว มีคนลาวคอมเมนท์มากมาย ส่วนใหญ่ยังกังขา และมีส่วนน้อยที่้เห็นอกเห็นใจเขา