ข่าว

“เบนซ์ เรซซิ่ง”จ่อโดนฟอกเงิน-สมคบค้ายา

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ป.ป.ส.-บช.ปส. แถลงแผนชัยยะสยบไพรี 60/2 ยึดทรัพย์ 200 ล้าน พร้อม บุกบ้าน “เบนซ์ เรซซิ่ง” อายัดทรัพย์ จ่อโดนข้อหาสมคบค้ายา-ฟอกเงิน หลังหลักฐานเชื่อมโยง "ไซซะนะ"

          สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) - 2 ก.พ. 60 - ป.ป.ส.-บช.ปส. แถลงแผนชัยยะสยบไพรี 60/2 ยึดทรัพย์ 200 ล้าน พร้อม บุกบ้าน “เบนซ์ เรซซิ่ง” อายัดทรัพย์ จ่อโดนข้อหาสมคบค้ายา-ฟอกเงิน หลังหลักฐานเชื่อมโยงถือครองทรัพย์แทนนักค้าเครือข่าย “ไซซะนะ” ด้านผบช.ปส.พร้อมไล่ล่าไฮโซค้ายา

           เมื่อเวลา 11.00 น. พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผบ.ตร. นายศิรินทร์ยา สิทธิชัย เลขาธิการป.ป.ส และพล.ต.ท.สมหมาย กองวิสัยสุข ผบช.ปส. ร่วมกันแถลงผลปฏิบัติการตามแผนชัยยะสยบไพรี 60/2 เครือข่ายผาขาว ซึ่งเป็นการขยายผลจากการจับกุมนายไซซะนะ แก้วพิมพา ผู้ต้องหาค้ายาเสพติดชาวลาว โดยปฏิบัติการตั้งแต่เวลา 06.00 น. ได้ระดมปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่ 39 เป้าหมาย สามารถจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับได้ 2 ราย คือ นายณัฐพล นาคคำ หรือ บอย และ น.ส.อรันญา สิงห์ผงาด และจับกุมนายชัยวัฒน์ ชูสาย หรือ แป๊ะ พร้อมของกลาง ได้แก่ วัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท ประเภท 2 (เคตามีน) จำนวน 21.72 กก. มูลค่ากว่า 30,030,000 บาท, ยาไอซ์ จำนวน 5.97 กรัม, ยาบ้า จำนวน 1 เม็ด และยาอี จำนวน 2 เม็ด เบื้องต้นยึดทรัพย์สินไว้ 14 รายการ ได้แก่ สร้อยคอทองคำ, สร้อยข้อมือ, แหวนทองคำ, รถยนต์BMW, รถยนต์ Fortune, รถยนต์ตู้ ยี่ห้อโตโยต้า, รถจักรยานยนต์ Big Bike, วัวพันธุ์ จำนวน 63 ตัว และเงินในบัญชี จำนวน 1 แสนบาท รวมมูลค่ายาเสพติดและทรัพย์สินที่ตรวจยึดได้ประมาณ 200 ล้านบาท

          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชุดจับกุมได้รายงานผลการเข้าตรวจค้นตามจุดต่างๆ ผ่านระบบวีดีโอคอนเฟอร์เร้นซ์มายัง ป.ป.ส. โดยในจุดที่เป็นบ้านพักของนายอัครกิตติ์ วรโรจน์เจริญเดช หรือ เบนซ์ เรซซิ่ง สามีของนางเอกสาว แพท ณปภา ตันตระกูล พบปืน 2 กระบอก เป็นปืนเอชเค บรรจุกระสุน 8 นัด และปืนกล็อก 1 กระบอก โดยปืนทั้ง 2 กระบอกมีกระสุน 15 นัด ปลอกกระสุน 3 ปลอก ซึ่งผบช.ปส.กำชับให้ตรวจสอบรอยขูดลบหมายเลขทะเบียนปืน เบื้องต้นปืนทั้ง 2 กระบอก เป็นปืนมีทะเบียน โดยปืนเอชเคมีหลักฐานได้รับโอนมรดกจากแม่ เมื่อวันที่ 4 ก.พ. 56 แต่ก็มีข้อห่วงใย เพราะปืนเอชเคเป็นอาวุธที่ใช้ในภารกิจจู่โจม ซึ่งส่วนใหญ่มีไว้ใช้ในทางราชการ ส่วนรถยนต์ลัมโบกินี่ หมายเลขทะเบียน กจ 51 กทม. เป็นการขยายผลมาจากการยึดทรัพย์เป็นรถยนต์หรูนับ 1,000 คัน ของนายไซซะนะใน สปป.ลาว ซึ่งมีรถลัมโบกินี 1 คัน หายไป การสืบสวนพบว่าถูกนำเข้ามาในไทย คาดว่ามีการสวมทะเบียนในจ.ลำพูน นอกจากนี้จากฐานข้อมูลเบื้องต้นพบว่าทะเบียนของรถลัมโบกินีซ้ำกับรถโฟลค์ ผบช.ปส.จึงย้ำให้ตรวจสอบว่าเป็นทะเบียนปลอมหรือเกี่ยวข้องกับการสวมทะเบียนรถหรูหรือไม่

          ด้านนายศิรินทร์ยา กล่าวว่า ขณะนี้ นายอัครกิตติ์ หรือเบนซ์ ยังไม่ใช่ผู้ต้องหา แต่เป็นผู้ถือทรัพย์สินแทนนายณัฐพล นาคคำ หรือ บอย ทางป.ป.ส.จึงใช้อำนาจตามพ.ร.บ.มาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ. 2534 และกฎหมายฟอกเงินยึดทรัพย์สินไว้ตรวจสอบ เพราะเชื่อว่าเป็นทรัพย์ที่ได้จากการค้ายาเสพติดที่นายณัฐพล มอบให้นายอัครกิตต์ถือครองแทน สำหรับนายณัฐพลในปี 2555 ถูกป.ป.ส.ยึดทรัพย์เพราะเกี่ยวข้องกับผู้ต้องหาในคดียาเสพติด ซึ่งศาลสั่งให้ทรัพย์สินตกเป็นของกองทุน ป.ป.ส. และในวันนี้นายณัฐพลถูกจับในฐานะผู้ต้องหาคดียาเสพติด และปรากฎหลักฐานการโอนทรัพย์สินไปมาระหว่างนายณัฐพลและนายอัครกิตติ์ต่อเนื่อง 2-3 ปี หากการสอบสวนขยายผลพบหลักฐานว่านายอัครกิตติ์เกี่ยวข้องกับยาเสพติดก็ต้องขอหมายจับนายอัครกิตติ์ด้วย ทั้งนี้ ยืนยันพร้อมให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย และให้โอกาสนายอัครกิตติ์เข้ามาชี้แจงหากชี้แจงที่มาของทรัพย์สินได้ก็จะคืนให้ สำหรับนายอัครกิตติ์ ทราบว่าได้ขับรถออกจากบ้านไปเมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 1 ก.พ. เชื่อว่านายอัครกิตติ์จะต้องติดต่อกลับมา เพราะยังไม่มีสถานะเป็นเพียงผู้ต้องสงสัย ถึงอย่างไรก็เชื่อว่านายอัครกิตติ์คงไม่ทิ้งทรัพย์สิน

 

ทางด้านผบช.ปส. กล่าวถึงกรณีนายไซซะนะให้ข้อมูลว่ามีไฮโซคนดังเข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติดว่า ขณะนี้มีคนบางได้รับทรัพย์สินที่อวตาร ทำให้รวยไม่มีที่มาที่ไป ตำรวจจะเร่งสอบสวนขยายผล ขอเวลาในการทำงาน เพราะตนมีเวลาว่างสำหรับคนพวกนี้ ส่วนนายอัครกิตติ์ถ้าไม่มาพบเจ้าหน้าที่ก็พร้อมติดตามตัวมาให้ได้และจัดเต็มให้ ระหว่างนี้ขอให้อดใจรอปฏิบัติการสยบไพรี 60/3 อาจสนุกกว่านี้เป็นร้อยเท่า สำหรับนายอัครกิตติ์อาจจะถูกตั้งข้อหาสมคบค้ายาเสพติดและร่วมกันฟอกเงิน ส่วนนายณัฐพลมีหลักฐานชัดเจนว่าเป็นผู้ส่งยาเสพติดให้กับนายไซซะนะ

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ