ข่าว

ม.44 ตั้งกรรมการ ป.ย.ป.

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

การพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก - การขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคีปรองดอง


               5 ธ.ค. 59  เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา http://www.mratchakitcha.soc.go.th/ ได้เผยแพร่ คําสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 2/2560 เรื่อง การพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก และ คําสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 3/2560 เรื่อง การขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคีปรองดอง

 

คําสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 2/2560

เรื่อง การพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก

 

               โดยที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติมีนโยบายส่งเสริมและสนับสนุนการจัดตั้งเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษเพื่อส่งเสริมการค้าและการลงทุนและการอํานวยความสะดวกในการประกอบกิจการอันเป็นปัจจัยสําคัญต่อการพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ และเพื่อกระจายการพัฒนาไปยังพื้นที่ต่าง ๆ โดยเหมาะสมกับศักยภาพของพื้นที่อันเป็นการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ทั่วถึง ซึ่งนโยบายดังกล่าวสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลในการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor) ที่ครอบคลุมพื้นที่สามจังหวัดในภาคตะวันออก ได้แก่ จังหวัดฉะเชิงเทรา ชลบุรี และระยอง และเขตจังหวัดอื่นที่ติดต่อหรือเกี่ยวข้อง ซึ่งมีศักยภาพในการพัฒนาด้วยความพร้อมด้านการคมนาคม การขนส่ง โครงสร้างพื้นฐานความต้องการของผู้ประกอบการ การจัดหาทรัพยากรต่างๆ และความเชื่อมโยงกับศูนย์กลางเศรษฐกิจอื่นๆ แต่โดยที่การดําเนินการดังกล่าวอยู่ระหว่างการจัดทํากฎหมายที่เกี่ยวข้อง กรณีจึงมีความจําเป็นต้องกําหนดมาตรการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกขึ้นเพื่อดําเนินการไปพลางก่อนการบังคับใช้กฎหมายว่าด้วยการนี้ เพื่อให้การดําเนินการดังกล่าวเกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมโดยเร็ว อันจะเป็นประโยชน์ต่อการปฏิรูประบบเศรษฐกิจ การยกระดับคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของประชาชนในพื้นที่ตลอดจนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมและการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศโดยรวม

               อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557 หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติโดยความเห็นชอบของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ จึงมีคําสั่ง ดังต่อไปนี้

               ข้อ 1 ในคําสั่งนี้

               “ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก” หมายความว่า พื้นที่ในบริเวณจังหวัดฉะเชิงเทรา ชลบุรี และระยอง และให้หมายความรวมถึงเขตจังหวัดอื่นที่ติดต่อหรือเกี่ยวข้องตามที่คณะกรรมการนโยบายกําหนดเพิ่มเติมโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี

               “การพัฒนาพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก” หมายความว่า การกําหนดและการปรับปรุงการใช้ประโยชน์ในอสังหาริมทรัพย์ และการจัดให้มีกิจกรรมต่างๆ ทั้งภายในและภายนอกระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก เพื่อให้เกิดการบูรณาการอันจะทําให้ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกและพื้นที่ต่อเนื่องมีการพัฒนาอย่างสมบูรณ์และยั่งยืนในทุกมิติ มีระบบสาธารณูปโภคและสาธารณูปการรวมทั้งสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมและจําเป็นต่อการอยู่อาศัย การค้า การลงทุน การท่องเที่ยว การสาธารณสุข การศึกษา และการอื่นที่เกี่ยวเนื่องอย่างเพียงพอได้มาตรฐานสากล และมีความต่อเนื่องเชื่อมโยงกัน  (อ่านต่อทั้งหมด...ที่นี่)

 

คําสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 3/2560

เรื่อง การขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคีปรองดอง

 

               ตามที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติได้กําหนดนโยบายการปฏิรูปประเทศในด้านต่างๆ การรักษาความสงบเรียบร้อย และการสร้างความสามัคคีปรองดองในระยะแรก เพื่อเตรียมการไปสู่การกําหนดยุทธศาสตร์ชาติระยะยาวอันจะทําให้ประชาชนทราบถึงเป้าหมายและทิศทางการพัฒนาและการแก้ปัญหาประเทศในช่วงเวลาต่างๆ อย่างชัดเจนนั้น ต่อมาเมื่อมีการจัดตั้งรัฐบาลแล้ว ก็ได้มอบให้รัฐบาลรับไปดําเนินการในระยะที่สอง ซึ่งหลังจากนั้น มีข้อเสนอจากสภาปฏิรูปแห่งชาติและสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ตลอดจนภาคส่วนต่าง ๆ เช่น กลุ่มสานพัฒนาตามแนวทางประชารัฐ สื่อมวลชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้เคยมีบทบาททางการเมืองในอดีต และผู้ทรงคุณวุฒิ ส่งเรื่องให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ และรัฐบาลพิจารณาดําเนินการเป็นจํานวนมาก นับว่าเป็นความปรารถนาดีต่อส่วนรวม อันควรนํามาพิจารณาอย่างเป็นระบบ มีการกลั่นกรอง จัดลําดับความสําคัญและความเป็นไปได้ แล้วเริ่มดําเนินการไปพลางก่อน ซึ่งเรื่องนี้จะต้องดําเนินการอยู่แล้วภายหลังการประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่แต่แม้จะประกาศใช้ในเวลาต่อไป ก็ยังต้องรอการตรากฎหมาย และการใช้เวลารับฟังความเห็นจากประชาชนเพื่อยกร่างแผนการปฏิรูปประเทศ และยุทธศาสตร์ชาติอีกระยะหนึ่ง รัฐธรรมนูญดังกล่าว จึงได้บัญญัติว่า ในระหว่างนี้ให้หน่วยงานของรัฐดําเนินการโดยอาศัยหน้าที่และอํานาจที่มีอยู่แล้วไปพลางก่อน เพื่อจะส่งต่อให้รัฐบาล และองค์กรที่มีหน้าที่ความรับผิดชอบรับไปดําเนินการในระยะที่สามต่อไป

               คณะรักษาความสงบแห่งชาติพิจารณาแล้ว สมควรกําหนดกลไกให้รัฐบาลสามารถบูรณาการการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคีปรองดอง เพื่อให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญ ยุทธศาสตร์ แผนต่างๆ ของชาติและนโยบายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติและคณะรัฐมนตรีซึ่งได้ประกาศให้สาธารณชนทราบแล้ว อีกทั้งสมควรกําหนดกลไกให้สามารถขับเคลื่อนภารกิจที่จําเป็นและประชาชนรอคอยให้ดําเนินต่อไปได้อย่างรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ ชอบด้วยกฎหมาย ผู้ปฏิบัติมีความรับผิดชอบร่วมกัน ปราศจากการทุจริต และเป็นไปตามหลักธรรมาภิบาล ทั้งสามารถเชื่อมโยงการทํางานกับสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ และสภานิติบัญญัติแห่งชาติ อันจะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนและการปฏิรูปในด้านต่างๆ  (อ่านต่อทั้งหมด...ที่นี่)

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ