ทีมสัตวแพทย์เร่งช่วย "ควายน้ำ" (ควายทะเล) กว่า 1,000 ตัว หลังเกิดน้ำท่วมสูง จมน้ำตายแล้วกว่า 50 ตัว
เขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อย - กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ร่วมกับ คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย และนายสัตวแพทย์ภัทรพล มณีอ่อน (หมอล็อต) ได้เข้าติดตาม ช่วยเหลือ กรณีควายน้ำหรือควายทะเล ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม
ถึงแม้ว่าควายเหล่านี้ จะว่ายน้ำ อยู่ในน้ำ ดำน้ำกินหญ้าได้ก็ตาม แต่กรณีที่น้ำท่วมสูง ขาควายหยั่งน้ำไม่ถึง ลอยน้ำตลอด ทำให้กล้ามเนื้ออ่อนล้า หมดแรง ทำให้จมน้ำตายมาแล้วกว่า 50 ตัว และอาจจะมีทยอยตายเรื่อยๆ โดยเฉพาะ ลูกควายเผือกที่กำลังอยู่ในวัยกินนม
ทีมงานได้เข้าช่วยเหลือควายที่ประสบเหตุดังกล่าว ด้วยการลงเรือเข้าพื้นที่ไปช่วยเหลือควายที่อยู่บนเกาะเนินดิน ที่ทางเขตห้ามล่าอนุญาตให้ทำเป็นเนินสูง เพื่อให้ควายทั้งหมดประมาณ 1,000 ตัว ได้หนีน้ำอย่างปลอดภัย
ผลการประเมินสุขภาพ พบว่า ควายทั้งหมดสุขภาพค่อนข้างแย่ ร่างกายซูบผอม อิดโรย โดยเฉพาะลูกควายเผือกเกิดใหม่หลายตัวเป็นเพราะขาดอาหารเป็นเวลานาน ไม่สามารถลงดำน้ำกินหญ้าได้ มีความเครียด ซึ่งภาวะเครียดนี้เอง อาจส่งผลให้ควายดังกล่าวเกิดโรคติดต่อกันได้
จึงได้ทำการให้ยาบำรุงและรักษาสุขภาพ ให้ก้อนเกลือแร่ และประสานไปยังปศุสัตว์จังหวัดพัทลุงซึ่งสนับสนุนเรื่องอาหารกับควายในพื้นที่ทะเลน้อยดีอยู่แล้ว ไปเพิ่มที่เกาะนั้นด้วย
นอกจากนั้น ยังได้ให้การแนะนำ และเตรียมความพร้อม เพื่อลดการสูญเสีย กับกรณีที่มีการพยากรณ์ว่าจะมีฝนตกหนักในอีก 2 - 3 วันข้างหน้า
ทำไมเราถึงต้องเข้าช่วยเหลือควายทะเลเหล่านี้
เพราะเป็นควายฝูงสุดท้ายที่ดำรงชีวิตในน้ำ โดยมีคุณประโยชน์กับระบบนิเวศในพื้นที่เขตห้ามล่าสัตว์ทะเลน้อย เช่น ไฟป่าลดลง เพราะควายจะเดินบุกตามป่า ป่าเตียนหมด ไม่เหิดไฟป่าในหน้าแล้ง
เส้นทางที่ควายน้ำเดินหากิน จะเป็นร่องทางเดินเรือ ร่องนั้นก็จะมีปลา ช่วงฤดูน้ำลดก็จะเป็นแหล่งอาหารของนกน้ำ ซึ่งช่วงนี้ นกมาวางไข่ ซึ่งพื้นที่นี้เป็นพื้นที่ที่มีความหลากหลายของชนิดพันธุ์นกน้ำเป็นอย่างมาก
ควายกินหญ้าใต้น้ำ ช่วยรักษาความลึกของน้ำ เกิดเป็นทางน้ำช่วยระบายน้ำลงทะเลสาบสงขลา น้ำก็จะไม่ค่อยเสีย เป็นต้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง