ฝากขัง“ อดีตพ่อบ้านคนทำสวนศาลอาญา” ปืนขึ้นศาลลักทรัพย์ จนท.

            ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ช่วงบ่ายวันที่ 12 ม.ค.60 ร.ต.ท.สถาพร บุญสมบัติ พนักงานสอบสวน สน.พหลโยธิน ควบคุมตัวนายวราพงษ์ หรือปุ๊ สอนน่วม อายุ 37 ปี อดีตพ่อบ้านศาลอาญา (อดีตคนทำสวน)ผู้ต้องหาคดีลักทรัพย์และบุกรุกในเวลากลางคืน มายื่นคำร้องฝากขังครั้งแรกเป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 12–23 ม.ค.นี้ เนื่องจากต้องสอบพยานเพิ่มอีก 7 ปาก และรอผลการตรวจลายนิ้วมือผู้ต้องหาจากกองทะเบียนประวัติอาชญากร โดยพนักงานสอบสวน ก็ได้คัดค้านการประกันให้ตัวผู้ต้องหาด้วย

            โดยคำร้องระบุพฤติการณ์สรุปว่า เมื่อช่วงเช้ามืดวันที่ 2 ม.ค. ที่ผ่านมา นายวราพงษ์ ผู้ต้องหาได้เข้าไปที่ศูนย์หน้าบัลลังก์ชั้น 9 ศาลอาญา งัดลิ้นชักโต๊ะได้รับความเสียหาย แล้วเอาเงินสดไป 5,000 บาท , สร้อยข้อมือทองคำ 1 เส้น ราคาประมาณ 5,000 บาท , สร้อยคอทองคำ 1 เส้น ราคาประมาณ 20,000 บาท , พระพิฆเนศทองคำ 1 องค์ ราคาประมาณ 5,000 บาท รวมทรัพย์สินมูลค่า 40,000 บาท พร้อมขโมยคีย์การ์ดของ น.ส.กนกวรรณ ต้นสิน ไปเปิดเข้าห้องแผนกคดีค้ามนุษย์ แผนกคดีทุจริต และแผนกคดียาเสพติดบริเวณชั้น 9 อาคารเดียวกัน และงัดลิ้นชักรื้อค้นทรัพย์สิน ลักเอาเหรียญที่ระลึกรัชกาลที่ 9 จำนวน 2 เหรียญ ราคาประมาณ 100 บาท , เหรียญเงินราคา 100 บาท , ธนบัตรราคา 1,000 บาท จำนวน 1 ใบ และพระเครื่องรวม 5 องค์ ราคาประมาณ 3,000 บาท รวมทรัพย์สินมูลค่า 4,200 บาท จากนั้นผู้ต้องหาได้ใช้คีย์การ์ดเปิดห้องบริเวณชั้น 10 รื้อค้นทรัพย์สินในห้องดังกล่าวได้รับความเสียหาย และลงมาห้องไฟฟ้าที่ชั้น 1 ลักเอาวิทยุสื่อสารราคาประมาณ 3,000 บาท ก่อนหลบหนี

           ต่อมาเจ้าหน้าที่ศาลอาญาได้แจ้งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของศาลว่ามีคนร้ายงัดแงะและรื้อค้นทรัพย์สินภายในศาลอาญา พร้อมทั้งรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และแจ้งความดำเนินคดีต่อพนักงานสอบสวน กระทั่งพนักงานสอบสวนได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดและติดตามจับกุมผู้ต้องหาได้ และแจ้งข้อกล่าวหาว่า ลักทรัพย์ในเวลากลางคืนในสถานที่ราชการ โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์โดยผ่านสิ่งเช่นว่านั้นเข้าไปด้วยประการใดๆ และโดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม บุกรุกในเวลากลางคืน และทำให้เสียทรัพย์ ซึ่งผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา

         ทั้งนี้ ศาลได้สอบถามผู้ต้องหาแล้วไม่คัดค้าน จึงอนุญาตให้ฝากขังผู้ต้องหาได้