ข่าว

ผู้เคยถวายงานฯกับกิจวัตรประจำวันที่พระบรมมหาราชวัง

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

“ท่านผู้ใหญ่ท่านนี้ มาถึงที่สนามหลวงตั้งแต่ฟ้ามืดทุกวันและจะมายืนเพื่อแสดงคารวะและรำลึกถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศทุกๆครั้งที่มา”

         ภาพของประชาชนจำนวนมากที่เดินทางมาสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพล ณพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทยังคงปรากฏให้เห็นอย่างต่อเนื่องและไม่มีทีท่าว่าจะลดน้อยลงไปเพราะหลายคนถือว่าขอสักครั้งในชีวิตที่ได้มาถวายความจงรักภักดีกับอดีตพระมหากษัตริย์อันเป็นที่รัก  บางคนก็มาถวายอาลัยมากกว่าหนึ่งครั้งเท่าที่จะมีกำลังทำได้

ผู้เคยถวายงานฯกับกิจวัตรประจำวันที่พระบรมมหาราชวัง
ภาพจากเฟซบุ๊ก Saguan Wongwitoonwid

          แต่เมื่อไม่นานมานี้ “โลกออนไลน์”ได้ส่งต่อภาพชายชราผู้หนึ่ง กำลังยืนคำนับที่บริเวณพระบรมมหาราชวังที่ประตูวิมานเทเวศร์ซึ่งเจ้าของเฟสบุ๊ค Saguan Wongwitoonwid ผู้อยู่หลังเลนส์ภาพนั้นบรรยายว่า“ท่านผู้ใหญ่ท่านนี้ มาถึงที่สนามหลวงตั้งแต่ฟ้ามืดทุกวันและท่านจะมายืนที่ตำแหน่งนี้เพื่อแสดงคารวะและรำลึกถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศทุกๆครั้งที่มา”

         ภายหลังเราทราบว่าชายชราคนนี้ก็คือ นายประเสริฐ สมะลาภา อดีตปลัดกรุงเทพมหานครและหมดข้อสงสัยเลยว่า ทำไมเขาถึงเดินทางมาเช้ามืดเกือบทุกวันเพื่อยืนถวายอาลัย

 

         นั่นเป็นเพราะ...เขาเคยถวายงานรับใช้ใต้เบื้องพระยุคลบาทพระบาทสมเด็จพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลเมื่อครั้งรับราชการ 

         และวันนี้( 9ธ.ค.)ก็เป็นอีกวันที่เขาได้มาที่บริเวณพระบรมมหาราชวังอย่างที่เขาได้เคยทำเป็นประจำ

         “ที่จริงผมมาสักการะพระบรมศพตั้งแต่สัปดาห์แรกของการเสด็จสรรคตของท่านและได้เข้าไปในพระบรมมหาราชวังแล้ว3ครั้งและยืนคำนับข้างนอก25ครั้งซึ่งผมก็ระลึกถึงพระองค์ท่านตลอดและทำอย่างนี้เสมอมาเพียง แต่วันไหนป่วยจริงๆก็คงไม่ได้มา”อดีตปลัดกทม.เริ่มเล่าถึงที่มาของการมาถวายอาลัยเกือบทุกๆวัน

ผู้เคยถวายงานฯกับกิจวัตรประจำวันที่พระบรมมหาราชวัง
ผู้เคยถวายงานฯกับกิจวัตรประจำวันที่พระบรมมหาราชวัง
ผู้เคยถวายงานฯกับกิจวัตรประจำวันที่พระบรมมหาราชวัง

          เขา ยังเล่าอีกว่า เมื่อก่อนนั้นจะไปยืนถวายอาลัยอยู่ที่กลางสนามหลวงแต่เมื่อลองเดินสำรวจจึงพบว่าบริเวณประตูวิมานเทเวศร์เหมาะที่สุดจึงเลือกจุดนี้เป็นที่ถวายอาลัยประจำ

         อดีตปลัดกทม.วัยเกษียณ ยังบอกว่า ตลอดของการมาบริเวณท้องสนามหลวง ตนได้เห็นภาพบรรยากาศของการช่วยเหลือซึ่งกันและกันของคนไทยที่เกื้อกูลต่อกัน และขอชื่นชมเจ้าหน้าที่อาสาสมัครทุกคนถ้าประเทศเรายังคงลักษณะนี้ต่อไป ประเทศไทยไปได้ดีอย่างแน่นอนซึ่งถ้าตนเห็นอะไรที่เป็นจุดบกพร่องก็จะช่วยบอกเจ้าหน้าที่และเป็นกำลังใจให้เสมอ ได้เห็นภาพการทำงานของผู้คนโดยไม่เกี่ยงกันก็ชื่นชมถือเป็นภาพที่ดีของประเทศไทย

        ในส่วนของประสบการณ์การถวายงานใต้เบื้องพระยุคลบาทอดีตพระมหากษัติย์อันเป็นที่รัก นายประเสริฐ เล่าให้ฟังว่า มีหลายอย่างที่ได้จากประสบการณ์วันวานที่ผ่านมาซึ่งมีรายละเอียดเยอะ

        "แต่ผมขอพูดถึงสิ่งสำคัญที่ได้จากพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพล คือ ความมีเมตตาธรรมจากการที่ได้ถวายงานใกล้ชิดท่านทั้งร่วมแก้ปัญหาการระบายน้ำ การแก้ปัญหาจราจร ตลอด20ปีผมไม่เคยถูกดุแต่ได้รับการแนะนำสั่งสอนอย่างมีเมตตาซึ่งผมได้นำส่วนนี้เองไปยึดถือปฏิบัติต่อผู้ใต้บังคับบัญชาและเพื่อนร่วมงานใกล้ชิดเพื่อให้งานที่มีประสิทธิภาพสูงสุดด้วย ระหว่างที่ร่วมงานกับพระองค์ท่านมีสิ่งหนึ่งที่ท่านเน้นก็คือการดูแลทุกข์ทางใจที่ทำให้ประชาชนมีความวิตกกังวลต่อปัญหาที่เกิดขึ้นการทำงานของเราก็ต้องคอยอธิบายรายละเอียดให้ประชาชนทราบว่า จะทำอะไรบ้าง ขณะนี้ทำอะไรอยู่และงานจะเสร็จเมื่อไหร่เมื่อผู้คนได้ทราบเขาก็มีความหวังและคลายกังวล”
ผู้เคยถวายงานฯกับกิจวัตรประจำวันที่พระบรมมหาราชวัง
ภาพจาก  Kanok Ratwongsakul Fan Page

         นายประเสริฐ ยังเล่าต่ออีกว่า เมื่อก่อนตนนั้นก็ไม่ค่อยเข้าใจในแนวคิด“ทุกข์ทางใจ”ซึ่งจริงๆแล้วถือเป็นเรื่องที่สำคัญมากโดยพระองค์ท่านให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ว่าประชาชนคิดอย่างไร กังวลเรื่องอะไร โดยเฉพาะคนที่อยู่ในพื้นที่กักน้ำในช่วงมีปัญหาน้ำท่วม คงจะมีความทุกข์มาก จึงจำเป็นที่ต้องหาวิธีชดเชยและคอยอธิบายทุกคนว่า จะต้องได้รับความเห็นอกเห็นใจด้วยกัน

        เมื่อถามย้อนไปถึงความรู้สึกทราบข่าวการสูญเสียครั้งใหญ่ของคนไทย นายประเสริฐ เล่าว่า ขณะที่ท่านยังคงประชวรอยู่ ก็ยังคงรู้สึกว่าพระองค์อยู่ใกล้ๆแต่พอเกิดเหตุการณ์เมื่อวันที่13ต.ค.ขึ้นก็รู้สึกว่าเป็นความสูญเสียที่ยากจะปรับตัวได้ต้องใช้เวลาแม้จะผ่านไปแล้วเกือบ2เดือนแล้วก็ตามโดยวิธีที่ทำให้ตนคลายทุกข์ทางใจได้ ก็ต้องมาใกล้ๆพระองค์ท่าน มาให้เห็นว่าพระองค์ท่านยังอยู่ตรงนี้ เหมือนเราได้บอกถึงความตั้งใจไป ตนเชือว่าพระองค์ท่านรับทราบได้

         “ที่ผ่านมา ผมเคยกราบบังคมทูลว่า ขออย่าทรงกังวลพระทัยเพราะทุกฝ่ายจะร่วมมือกันซึ่งสิ่งที่ท่านกังวลพระทัยมากคือเรื่องความสามัคคีของคนในสังคม ส่วนตัวผมเองก็จะขอเป็นพลเมืองดีต่อไป ถ้าพบว่าอะไรที่ช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสกว่าก็จะทำและจะภาวนาในจิตใจเสมอ”อดีตปลัดกทม.ผู้เคยถวายงานใกล้ชิดพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพล กล่าวทิ้งทาย
ผู้เคยถวายงานฯกับกิจวัตรประจำวันที่พระบรมมหาราชวัง
          หลังจากที่เขาเสร็จสิ้นภารกิจประจำวันแล้ว “ชายชราผู้นี้”ก็เดินกลับพร้อมบุตรชายที่คอยมาดูแลในวันนี้ ซึ่งเขาเองก็เป็นหนึ่งในหลายคนที่มีความคิดถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ

         ทั้งนี้ การต้องการแสดงออกถึงความรักต่อพระองค์ท่าน อาจไม่จำเป็นต้องทำให้อลังการเกินความสามารถ 

         แต่ถ้าทำตามกำลังที่เรามี เพียงแค่นี้คนรอบข้างก็สัมผัสได้ถึงความตั้งใจของเราได้ไม่ยาก

         เปรียบเหมือน “การปิดทองหลังพระ” ที่พระองค์ท่านทำเป็นตัวอย่างให้เราดู

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ