ข่าว

รองปลัดยธ. ส่ง ดีเอสไอ รื้อคดีรับจ้างติดคุกแทน

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

รองปลัดยธ.ส่งดีเอสไอรื้อคดีรับจ้างติดคุกแทนนายทุนโรงแปรรูปไม้เถื่อน ย้ำเอาคนผิดมาลงโทษ แนะปฏิรูประบบศาลต้องไต่สวนแม้จำเลยสารภาพ

          กระทรวงยุติธรรม - 8 ธ.ค.59-รองปลัดยธ.ส่งดีเอสไอรื้อคดีรับจ้างติดคุกแทนนายทุนโรงแปรรูปไม้เถื่อน ย้ำเอาคนผิดมาลงโทษ แนะปฏิรูประบบศาลต้องไต่สวนแม้จำเลยสารภาพ ด้านจำเลยทำใจโดน 3 ข้อหา. ละเมิดอำนาจศาล เบิกความเท็จ ให้การเท็จ

           นายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ประธานเครือข่ายต่อต้านการบ่อนทำลายชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ พร้อมนางวิกุล โพธิ์ไชย อายุ 42 ปี ชาวจ.มุกดาหาร เข้ายื่นหนังสือถึงนายธวัชชัย ไทยเขียว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม ผ่านศูนย์บริการร่วมฯ เพื่อขอให้ช่วยสืบสวนสอบสวนขบวนการตั้งโรงงานแปรรูปไม้เถื่อนและช่วยเหลือผู้ถูกหลอกให้ติดคุก กรณีที่ได้รับการร้องขอจากนางวิกุลว่า นายชวนณรงค์ คำปาน ( สามี ) ถูกดาบตำรวจรายหนึ่งว่าจ้างติดคุกแทนนายทุนคดีตั้งโรงงานแปรรูปไม้เถื่อน โดยให้นายชวนณรงค์แสดงตัวเป็นเจ้าของไม้แปรรูปและอ้างว่ารับโทษเพียงเล็กน้อย แลกกับค่าจ้างเป็นเงิน 200,000 บาท ที่ผ่านมาได้โอนเงินให้ล่วงหน้า 100,000 บาท โดยสามีของนางวิกุลเห็นว่าติดคุกไม่นานแลกกับเงิน 200,000 บาท จึงยอมตกลง ต่อมาตำรวจสภ.เมืองมุกดาหารจับกุมดำเนินคดี ซึ่งสามีนางวิกุลก็ให้การรับสารภาพ ศาลสั่งจำคุก 4 ปี 3 เดือน ขณะนี้จำคุกมานาน 5 เดือนแล้ว ทั้งนี้นางวิกุล เห็นว่าเรื่องดังกล่าวไม่เป็นธรรมอีกทั้งสามีน่าจะถูกหลอกให้หลงเชื่อเพราะที่บ้านมีฐานะยากจน อย่างไรก็ตาม เพิ่งทราบในภายหลังว่าโรงงานดังกล่าวเคยถูกจับกุมเป็นข่าวใหญ่ไปก่อนหน้านี้ด้วย

                                         รองปลัดยธ. ส่ง ดีเอสไอ รื้อคดีรับจ้างติดคุกแทน

           นายสงกานต์ กล่าวต่อว่า นางวิกุลระบุว่าต้องการเข้าขอความเป็นธรรมเพื่อช่วยเหลือสามีและพร้อมจะรับโทษจากการเข้าแจ้งความเท็จและเบิกความเท็จและละเมิดอำนาจศาล ขณะนี้คดีอยู่ในชั้นอุทธรณ์ ที่ผ่านมาเคยยื่นหนังสือขอความช่วยเหลือไปแล้วหลายหน่วยงานแต่ไม่มีความคืบหน้า จึงตัดสินใจร้องมายังเครือข่ายฯและเข้าขอความช่วยเหลือจากกระทรวงยุติธรรม เนื่องจากเห็นว่ากรณีดังกล่าวมีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้อง โดยเฉพาะบุคคลที่เป็นผู้ติดต่อว่าจ้างให้สามีนางวิกุลไปติดคุกแทน โดยจะขอให้ช่วยเหลือการประกันตัวเพื่อออกมาต่อสู้คดี

           ด้านรองปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า เบื้องต้นหากเป็นไปตามข้อเท็จจริงที่ร้องก็ถือว่าผู้ร้องมีความผิดและต้องรับโทษในสิ่งที่ได้กระทำลงไป หลังจากนี้จะประสานให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) รับไปพิจารณาดำเนินการ และจะดูแลเรื่องการจัดหาทนายความ ที่ผ่านมาอาจมีการพูดถึงเรื่องรับจ้างติดคุกแทนกันแต่ก็ยังไม่มีหลักฐานชัดเจน กรณีนี้ถือเป็นกรณีแรกที่ออกมาเปิดเผยเองว่ามีการรับจ้างติดคุกจริง จำเป็นต้องมีการไปตรวจสอบข้อมูลย้อนหลังทั้งหมดเพื่อนำผู้กระทำผิดตัวจริงมาลงโทษ และดำเนินการกับผู้เกี่ยวข้อง อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่าสิ่งที่เกิดขึ้นส่วนหนึ่งมาจากกระบวนการยุติธรรมที่จำเป็นต้องมีการปฏิรูปให้ดีขึ้น กรณีนี้เป็นเพราะผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ ขณะที่ศาลเมื่อรับสารภาพก็ไม่มีการไต่สวนเพิ่ม โดยกระบวนการยุติธรรมตั้งแต่เริ่มต้นถือเป็นจุดสำคัญที่จะให้ความเป็นธรรมกับผู้ต้องหา โดยเฉพาะการสืบสวนหาพยานหลักฐานของผู้กระทำผิดในกรณีนี้หากตรวจสอบก็จะพบว่าผู้ต้องหาเป็นเพียงผู้มีฐานะยากจนคงไม่มีศักยภาพในการครอบครองไม้หวงห้ามราคาแพงจำนวนมากได้.

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ