ข่าว

รัฐระดมกำลังช่วยชาวนาเกี่ยวข้าวจมน้ำ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ชาวนาชัยภูมิระทมหนัก !! ค่าแรงเกี่ยวข้าวทะลุ 600 บาท ด้านผู้ว่าฯระดมกำลังเจ้าหน้าที่ช่วยเกี่ยวข้าวที่ถูกน้ำท่วมจมเสียหาย

 

          15 พ.ย.59 ที่จังหวัดชัยภูมิกำลังประสบปัญหาน้ำท่วมขังในนาข้าว ส่งผลให้ชาวนาในเขต อ.เมือง และอ.เนินสสง่า ได้รับความเดือดร้อน เพราะข้าวที่ใกล้เก็บเกี่ยวกว่าหมื่นไร่เริ่มเน่าตาย ไม่สามารถจ้างรถเกี่ยวข้าวมาช่วยเกี่ยวได้ เพราะระดับน้ำท่วมขังในที่นามีระดับน้ำสูงกว่า 1 เมตร จึงต้องใช้แรงงานคนอย่างเดียว ที่ตระเวนหาจ้างมาได้ในขณะนี้ก็หากยากและมีไม่เพียงพอ และราคาค่าจ้างแรงงานก็สูงขึ้นวันละ 600 บาทต่อคน จนชาวนาสู้ต้นทุนไม่ไหว

          ด้านนายชูศักดิ์ ตรีสาร ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ พร้อมด้วย พ.ต.อ.สมพจน์ ขอมปรางค์ รักษาการผู้บังคับการตำรวจภูธรจ.ชัยภูมิ พร้อมด้วยกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย และนักศึกษาจากสถาบันราชภัฎชัยภูมิ ได้เตรียมจัดโครงการทำดีเพื่อพ่อในหลวง ร.9 เพื่อร่วมกับทุกภาคส่วนสนธิกำลังคนกว่า 100 คน เพื่อออกสำรวจให้ความช่วยเหลือเร่งด่วนกับชาวนา ในพื้นที่ที่ถูกน้ำท่วมนาข้าวใกล้เน่าตาย

          “จะเริ่มลงพื้นที่ช่วยเหลือชาวนาในวันที่ 17 พ.ย.59 เป็นต้นไป โดยจัดเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ช่วยชาวนาดำน้ำเกี่ยวข้าวในเขตรอยต่อต.นาฝาย และต.ห้วยต้อน อ.เมือง จ.ชัยภูมิ เป็นการเร่งด่วนเป็นจุดแรกนำร่อง และกระจายกำลังตามโครงการทำดีเพื่อพ่อ ในหลวง ร.9 ดังกล่าวออกให้ความช่วยเหลือชาวนาที่ประสบปัญหาขาดแรงงานในพื้นที่ที่ได้รับความเดือดร้อนในเขตอ.เนินสง่า ด้วย” นายชูศักดิ์ กล่าว

 

 

เชียงใหม่จัดโครงการ ‘ตำรวจภูธรภาค 5 ช่วยชาวนาไทย’

 

          เมื่อเวลา 09.00 น.วันนี้ (15 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณลานอินทนนท์ ตำรวจภูธรภาค 5 พล.ต.ต.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ รักษาราชการแทน ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5  พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 5 และผู้ค้ารายใหญ่และผู้ค้ารายย่อย รวม 17 รายที่ได้ร่วมอุดหนุนซื้อข้าวจากชาวนา ร่วมเปิดพิธีตามโครงการ “ตำรวจภูธรภาค 5 ช่วยชาวนาไทย” 

          พล.ต.ต.พูลทรัพย์ เปิดเผยว่า โครงการดังกล่าวจัดขึ้นตามที่นายกรัฐมนตรีได้มีนโยบายและมาตรการช่วยเหลือชาวนาไทยและการักษาเสถียรภาพราคาข้าวปีการผลิต 2559-2560 ให้เป็นไปด้วยความยั่งยืน อีกทั้งด้วยาภาวะปัญหาเศรษฐกิจในปัจจุบันที่ส่งผลให้ราคาข้าวในท้องตลาดตกต่ำ ด้วยปัจจัยต่างๆ ได้ส่งผลกระทบต่อราคาข้าว ไม่ว่าจะเป็นปัจจัยการผลิต สภาพอากาศ ตลอดจนกลไกการตลาดจากการถูกกดราคา จึงเกิดเป็นปัญหาต่อราคาข้าวของเกษตรกร ซึ่งหากมีโครงการที่ดี ที่เกี่ยวข้องกับการซื้อข้าวจากเกษตรกรโดยไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง ก็จะทำให้เกษตรกรขายข้าวได้ในราคาที่สูงขึ้น

          โดยสำหรับการดำเนินการของโครงการนั้น ทางตำรวจภูธร ภาค 5 ได้มีการเข้าสำรวจข้อมูลตามโรงสีข้าวชุมชนและแหล่งการผลิตข้าวชุมชน ในเขตพื้นที่รับผิดชอบ ของตำรวจภูธร ภาค 5 รวมถึงการสำรวจจากข้าราชการตำรวจที่ทางครอบครัวเป็นเกษตรกรปลูกข้าว และได้มีการจัดตั้งโครงการขึ้น เพื่อเปิดโอกาสให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ได้เข้ามาใช้สถานที่ของหน่วยงานในสังกัดของ ตำรวจภูธรภาค 5 ตามความเหมาะสม เพื่อจัดจำหน่ายข้าวให้แก่ข้าราชการตำรวจและประชาชนที่มาติดต่อราชการ ถือเป็นส่งเสริมการขายข้าวของเกษตรกรอีกทางหนึ่ง ซึ่งการดำเนินงานนั้นจะเริ่มตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2559 ไปจนถึงเดือนกันยายน 2560 รวมระยะเวลาการจัดทำโครงการนาน 11 เดือน

          พล.ต.ต.พูลทรัพย์ กล่าวต่อว่า ในวันนี้นั้นได้มีผู้ซื้อข้าวรายใหญ่และรายย่อย ที่ร่วมอุดหนุนซื้อข้าวจากชาวนาในโครงการตำรวจภูธร ภาค 5 ช่วยชาวนาไทยแล้วกว่า 17 ราย อาทิ โรงเรียนวารี จำนวน 2,000 กิโลกรัม, โรงเรียนวชิราลัย 1,000 กิโลกรัม, โรงแรมร่มเย็น 1,000 กิโลกรัม, กก.สส.3 บก.สส.ภ.5 950 กิโลกรัม และอื่นๆ แบ่งเป็นข้าวหอมมะลิ จำนวน 17.710 ตัน , ข้าวสารเหนียว 1,225 กิโลกรัม โดยมีเกณฑ์การขายข้าวตามราคาที่กำหนด คือ ราคาข้าวสารหอมมะลิกิโลกรัมละ 26.72 บาท ข้าวสารเหนียวกิโลกรัมละ 22.22 บาท รวมปริมาณสุทธิการซื้อขายขาวในวันนี้กว่า 18.935 ตัน คิดเป็นเงินทั้งสิ้น 482,520 บาท 

          พร้อมกันนี้ขอเชิญประชาชนผู้สนใจร่วมอุดหนุนเกษตรกรไทย ซื้อข้าวจากชาวนาไม่ผ่านพ่อค้าคนกลางในราคายุติธรรม ได้ตามจุดต่างๆ ที่ร่วมโครงการของทางตำรวจภูธรภาค 5 คือ บริเวณเชียงใหม่ 89 พลาซ่า ทุกวันพฤหัสบดี เวลา 11.00 -17.00 น. , บริเวณตลาดเจดีย์เหลี่ยม ทุกวันศุกร์ เวลา 15.00-18.00 น. และตำรวจภูธรภาค 5 รวมถึงหน่วยงานสังกัดตำรวจภูธร ภาค 5 ทุกพื้นที่ ทุกวันในเวลาราชการ

 

 

พิจิตร - ราคาข้าวขยับตัวสูงขึ้น ชาวนาเริ่มขาดแคลนรถเกี่ยวข้าว

 

          เกษตรกรชาวนา อำเภอวังทรายพูน จังหวัดพิจิตร เร่งนำข้าวหอมมะลิ เข้าทำการขายให้กับโรงสี และ ชุมนุมเกษตรกรชาวนาในพื้นที่อำเภอวังทรายพูน หลังจากราคารับซื้อขาย ข้าวหอมมะลิ เริ่มมีการปรับตัวสูงขึ้นจากเดิม ตันละ 100-200 บาท โดยราคารับซื้ออยู่ที่ ตันละ 6,000-6,400 บาท ซึ่งอยู่ที่คุณภาพของข้าวและความชื้น 

          ขณะที่เจ้าหน้าที่กระทรวงพาณิชย์และจังหวัดพิจิตร ทำการเปิดตลาดนัดข้าวเปลือก เพื่อเพิ่มช่องทางการช่วยเหลือชาวนาในการขายข้าวเปลือก โดยตลอดระยะเวลาเปิดโครงการ 3 วัน สามารถรับซื้อข้าวเปลือกของชาวนาในพื้นที่อำเภอวังทรายพูน และพื้นที่ใกล้เคียง ไปแล้วกว่า 3 พันตัน

          นายชม หม่องพม่า ชาวนาอำเภอวังทรายพูน จังหวัดพิจิตร ระบุว่าหลังจากที่ข้าวหอมมะลิ ได้อายุเก็บเกี่ยวกันจำนวนมาก ทำให้ชาวนากำลังประสบปัญหาขาดแคลนรถเกี่ยวข้าว ที่มีไม่เพียงพอต่อพื้นที่นาข้าว ขอให้ผู้ดำเนินการด้านธุรกิจรถเกี่ยวนวดข้าว ช่วยนำรถมาเก็บเกี่ยวให้กับชาวนา เนื่องจากข้าวที่ได้อายุเก็บเกี่ยว หากปล่อยไว้นาน จะทำให้ข้าวแห้งกรอบและจะทำให้ราคาข้าวลดลง

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ