ข่าว

“ลูกชาวนา ได้เวลาช่วยพ่อ” ระดมสมองแก้ราคาข้าวตกต่ำ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ม.เกษตร จัดเวที “ ลูกชาวนา ได้เวลาช่วยพ่อ ” สร้างเครือข่าย นำข้าวสารจากเกษตรกรมาขายโดยตรง แก้ปัญหาราคาข้าวตกต่ำ หวังภาคประชาชน-นโยบายรัฐบาลจำนำยุ้งฉาง ช่วยชาวนา

           30 ต.ค.59 ที่คณะเศรษฐศาสตร์ ม.เกษตรศาสตร์ จัดลงทะเบียนของลูกชาวนา พร้อมทั้งบุคคลทั่วไป และสื่อมวลชน เพื่อร่วมการเสวนา แลกเปลี่ยนความคิดเห็นในการเตรียมความพร้อม ในเวที “ ลูกชาวนา ได้เวลาช่วยพ่อ ” ที่จะช่วยเหลือให้นำข้าวที่ขณะนี้มีราคาต่ำจากเกษตรกรมาขายโดยตรงเพื่อไม่ให้ราคาต่ำลงไปอีก

          วันนี้ มีกลุ่มที่ลงทะเบียนในนามลูกชาวนา รวม 27 รายที่ได้มีการแจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับพันธุ์ข้าว , พื้นที่เพาะปลูก และปริมาณข้าวที่จะผลิตออกมาด้วย โดยครั้งนี้ยังมีนายประพัฒน์ ปัญญาชาติรักษ์ ประธานสภาเกษตรกรแห่งชาติ ซึ่งอดีตเคยดำรงตำแหน่ง รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) , นายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด ที่ขณะนี้ได้สนใจเกี่ยวกับการปลูกข้าว และกลุ่มบุคคลที่ดำเนินการเกี่ยวกับข้าวบรรจุถุง อาทิ ข้าวหอมมะลิสังข์หยด บรรจุ จ.พัทลุง , ข้าวหอมมะลิไรซ์เบอรี่ ร่วมงานด้วยพร้อมกับบุคคลทั่วไปรวมกว่า 100 คน                                                     

          นายเดชรัต สุขกำเนิด หัวหน้าภาควิชาเศรษฐศาสตร์เกษตรและทรัพยากร คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เป็นผู้จัดดำเนินการประชุมเตรียมพร้อมครั้งนี้ กล่าวอธิบายหลักการ “ ลูกชาวนา ได้เวลาช่วยพ่อ ” ที่จะนำข้าวสารที่ขณะนี้มีราคาถูก มาจากเกษตรกรโดยตรงเพื่อกระจายสู่พื้นที่ต่างๆ ว่า คำว่า “ ลูกชาวนา ” ไม่ใช่แบรนด์สินค้า แต่เป็นแนวคิดและเป็นเครือข่ายที่จะช่วยเหลือเกษตรกรขายข้าว โดยมหาวิทยาลัย ไม่ได้มีข้าวในมือ หรือเก็บค้างในสต็อก แต่ที่ผ่านมาจะเป็นลักษณะของการที่มีผู้มาติดต่อแล้วเราช่วยดำเนินการประสานสอบถามกับกลุ่มเกษตรกรนำข้าวมาขายให้โดยตรง ขณะที่เวลานี้มีโรงสีข้าว 3 แห่ง ที่พร้อมจะช่วยเหลือเกษตรกรในการช่วยสีข้าว คือ โรงสี จ.สุพรรณบุรี , จ.เชียงราย และ จ.พะเยาว์

 

   “ลูกชาวนา ได้เวลาช่วยพ่อ” ระดมสมองแก้ราคาข้าวตกต่ำ

 

          ทั้งนี้แนวคิดการช่วยเหลือ เราก็อยากให้เกษตรกรพัฒนาที่จะสร้างแบรนด์สินค้าของตนเองได้ในอนาคตด้วย ขณะที่การทำข้าวสารบรรจุถุงขายโดยตรงเองนั้น นายธวัชชัย ไทยเขียว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม ก็ให้ความเห็นแล้วว่าไม่เป็นความผิดทางกฎหมายเรื่องการขายตรง แต่การผลิตของลูกชาวนา เราก็อยากให้มีมาตรฐานเรื่องของคุณภาพข้าวที่ต้องศึกษา เรียนรู้วิธีการเก็บรักษา รวมทั้งฉลากสินค้าที่เราควรจะต้องให้มีรายละเอียด เช่น วิธีการหุง วันหมดอายุ ตามประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่องมาตรฐานสินค้าข้าว พ.ศ.2540 และ ประกาศกรมการค้าภายใน เรื่องรับรองมาตรฐานข้าวหอมมะลิบรรจุถุง โดยเป้าหมายเราอยากให้ทุกคนมีแบรนด์เป็นของตัวเอง ซึ่งขณะนี้ตนก็ทำเพจในเฟซบุ๊ก ชื่อ “ ลูกชาวนาได้เวลาช่วยพ่อ ” เป็นอีกหนึ่งช่องทางในการสื่อสารที่จะกระจายข้าว และในการช่วยกันแก้ปัญหาด้วย                                               

          “ วันนี้ จัดเวที ระดมความคิดเห็นเพื่อเสนอแนวทางในการทำการตลาดข้าว ซึ่งนอกจากแนวทางที่เคยทำมาแล้ว ก็ยังมีแนวทางใหม่ เรื่องแอพพิเคชั่น และเว็บไซต์ที่จะมาเชื่อมโยง รวมทั้งหน่วยงานราชการที่ให้ความสนใจจะเปิดพื้นที่ เหมือนกับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ที่ได้ประสานงานครบทุกคณะที่จะมาช่วยรองรับข้าวจากลูกชาวนา ” นายเดชรัต ระบุ  

          หัวหน้าภาควิชาเศรษฐศาสตร์เกษตรฯ กล่าวด้วยว่า  เกษตรกร รวมทั้งลูกชาวนา ก็มีปัญหาว่าไม่รู้จะนำข้าวไปสีที่ไหน ซึ่งขณะนี้มีโรงสีเข้ามาช่วยเหลือ ก็ขอขอบคุณที่เข้ามาเพราะการบริการช่วยสีข้าวนี้ จะทำให้การขายของข้าวสารของเกษตรกรมาถึงผู้บริโภคในกรุงเทพฯ ได้ง่ายขึ้นกว่าเดิมมาก สำหรับเรื่องราคาในกลไกเรื่อง ลูกชาวนาช่วยพ่อนั้นก็เน้นราคาต้นทาง ส่วนราคาข้าวขาว ราคา 6,000 บาทต่อตันก็อยากให้ขยับขึ้นมาเป็น 8,000 บาทต่อตันโดยเชื่อว่าน่าจะทำได้ภายใต้ต้นและกลไกที่วางแผนร่วมกัน 

          "ผมเชื่อว่า เราจะหยุดกระแสที่รีบขายข้าวในราคาต่ำได้ ส่วนนโยบายของรัฐบาลเรื่องรับจำนำยุ้งฉาง ก็ต้องรอดูราคาว่า จะออกมาอย่างไร ถ้าทั้งภาคประชาชนและรัฐบาลช่วยกัน ผมคิดว่าเราอาจช่วยราคาข้าวไม่ตกต่ำอย่างที่เป็นปัญหาในขณะนี้ได้ ” หัวหน้าภาควิชาเศรษฐศาสตร์เกษตรฯ ระบุ                                                       

           ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับบรรยากาศในเวทีแลกเปลี่ยนความเห็นเรื่องการตลาดข้าว เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรและแก้ปัญหาราคาข้าวตกต่ำครั้งนี้ กลุ่มที่ลูกชาวนาได้กล่าวถึงปัญหาการเก็บรักษาข้าว การตากข้าวไล่ความชื้น และปัญหามอดในเมล็ดข้าว รวมทั้งปัญหาที่จัดเก็บข้าวในสต็อก ซึ่งมีการกล่าวถึงทุนสนับสนุนจากหน่วยราชการช่วยเหลือเกษตรกร โดยกลุ่มข้าวหอมมะลิสังข์หยด บรรจุ จ.พัทลุง เคยรับทุนสนับสนุนมาดำเนินสร้างห้องอบข้าวพลังงานแสงอาทิตย์ 

                         

     “ลูกชาวนา ได้เวลาช่วยพ่อ” ระดมสมองแก้ราคาข้าวตกต่ำ

                               

          ด้านนายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นที่ขณะนี้ได้นำข้าวสารบรรจุถุงละ 5 กิโลกรัม ที่ปลูกไว้และจากกลุ่มชาวนา มากระจายในพื้นที่ กทม. โดยใช้เครือข่ายรถแท็กซี่ ที่จะใช้ท้ายรถเป็นสถานที่ขายข้าวคันละ 20-30 ถุง ขณะที่เวลานี้มีแนวคิดอยากให้ภายในซอยบ้านพักของคน จัดพื้นที่นำข้าวสารจากเกษตรกรโดยตรงมาขาย 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ