ข่าว

กทม.สั่ง 50 เขตเสี่ยงฝนหนัก ถึง 4 ต.ค.เฝ้าระวังจุดเสี่ยง

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

กทม.สั่ง 50 เขตเฝ้าระวังจุดเสี่ยงท่วม 4 ต.ค. จี้ เตรียมถุงยังชีพ-รถลากจูง-สุขา เตือนปชช.ริมคลองเปรมฯ-แสนแสบ-ประเวศบุรีรมย์-บางนา-ลาดพร้าว พร้อมรับมือน้ำล้นตลิ่ง


         29 ก.ย.59-นางผุสดี ตามไท รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.) เป็นประธานประชุมเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์ฝนและสถานการณ์น้ำ โดยมีนายอมร กิจเชวงกุล รองผู้ว่าฯกทม. นายสมพงษ์ เวียงแก้ว ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ ประธานกลุ่มเขตทั้ง 6 กลุ่มเขต คณะผู้บริหาร เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม โดยในพื้นที่เขตประเวศมีคลองในพื้นที่ 36 คลอง แบ่งเป็นที่เขตรับผิดชอบ 16 คลอง สำนักการระบายน้ำรับผิดชอบ 20 คลอง พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นที่ราบลุ่มต่ำ ต้องรับการระบายน้ำจากเขตสะพานสูง สวนหลวง และลาดกระบัง ก่อนระบายลงสู่บึงรับน้ำหนองบอน และคลองประเวศ ไปยังประตูระบายน้ำคลองพระโขนง รวมถึงระบายออกไปยังจังหวัดสมุทรปราการ
           นางผุสดี กล่าวว่า ขอความร่วมมือทุกเขตให้ช่วยกันดำเนินการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมให้เป็นไปแนวทางเดียวกัน โดยเฉพาะพื้นที่จุดเสี่ยง ขณะเดียวกันขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักพัฒนาสังคม ลงพื้นที่แจ้งเตือนประชาชน เพื่อเตรียมความพร้อม ส่วนสำนักเทศกิจ และสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จัดเตรียมถุงยังชีพ รถลากจูง เจ้าหน้าที่ประจำจุดต่างๆ ทั่วทุกพื้นที่ ด้านสำนักอนามัย จัดเตรียมยาต่างๆ ส่วนสำนักงานเขตให้จัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์ ในการทำสะพานไม้ให้กับประชาชน สำนักสิ่งแวดล้อม จัดเตรียมตู้สุขาเคลื่อนที่ พร้อมจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังขยะหน้าตะแกรง และสำนักการโยธา จัดเตรียมเครื่องจักร วัสดุและอุปกรณ์ ซึ่งกทม.ต้องเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำจนถึงวันที่ 4 ต.ค.นี้

                            กทม.สั่ง 50 เขตเสี่ยงฝนหนัก ถึง 4 ต.ค.เฝ้าระวังจุดเสี่ยง
            นายสมพงษ์ กล่าวว่า ปริมาณฝนสะสมในพื้นที่กรุงเทพฯ ตั้งแต่วันที่ 1-29 ก.ย. โดยเฉพาะเขตหลักสี่ สายไหม ดอนเมือง อยู่ที่ 490 มิลลิเมตร(มม.) ส่วนในเขตกรุงเทพฯตะวันออก อยู่ที่ 460 มม. ทำให้ปริมาณน้ำในพื้นที่มีจำนวนมาก ทั้งนี้ สถานการณ์ฝนขณะนี้พบว่า ร่องความกดอากาศพาดผ่านกรุงเทพฯ จะทำให้ในวันที่ 30 ก.ย.นี้เป็นต้นไป จะมีฝนตกหนักจึงให้ทุกเขตช่วยเฝ้าระวังด้วย ขณะเดียวกันยังต้องเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์พายุชบาอย่างใกล้ชิด อย่างไรก็ตาม กทม.ขอแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่คลองเปรมประชากร ช่วงพื้นที่เขตหลักสี่ ดอนเมือง คลองแสนแสบช่วงพื้นที่เขตหนองจอก คลองสามวา มีนบุรี คลองประเวศบุรีรมย์ ช่วงพื้นที่เขตลาดกระบัง คลองบางนา ช่วงพื้นที่เขตบางนา ประเวศ และ คลองลาดพร้าว ช่วงพื้นที่เขตสายไหม บางเขนและลาดพร้าว ให้เตรียมความพร้อมไว้ด้วย                           
            นายสมพงษ์ กล่าวต่อว่า ส่วนสถานการณ์น้ำที่จะผ่านกรุงเทพฯ ยังมีระดับไม่สูงมาก แต่จะต้องเฝ้าระวังน้ำที่ถูกปล่อยมาจากจังหวัดชัยนาท 100 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที (ลบ.ม.) ซึ่งจะเข้ามายังประตูระบายน้ำคลอง 13 เขตหนองจอก วันละ 6 ล้านลบ.ม. ซึ่งเขตหนองจอก มีนบุรี คลองสามวา และลาดกระบัง จะต้องเฝ้าระวังน้ำที่เข้ามาด้วย ขณะเดียวกันจะต้องเฝ้าระวังฝนตกในพื้นที่เพิ่มเติม รวมทั้งเฝ้าระวังบ้านประชาชนที่อยู่ริมน้ำเจ้าพระยา ซึ่งขีดความสามารถแม่น้ำเจ้าพระยาอยู่ที่ 2,400-2,500 ลบ.ม. ปัจจุบันระดับน้ำอยู่ที่ 1,600 ลบ.ม. ดังนั้นให้พื้นที่เขตที่อยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ลงพื้นที่ตรวจและดูแลพื้นที่ฟันหลอเช่นกัน อย่างไรก็ตาม การบริหารจัดการน้ำ กทม.ยืนยันว่าจะไม่ปิดประตูระบายน้ำ แต่จะเปิดประตูระบายน้ำในระดับ 10-30 เซนติเมตรเท่านั้น เมื่อกทม.ควบคุมระดับน้ำในพื้นที่ได้แล้ว กทม.จะเปิดประตูระบายน้ำ 1-3 เมตร เพื่อช่วยเร่งระบายน้ำจากจังหวัดใกล้เคียง

                          กทม.สั่ง 50 เขตเสี่ยงฝนหนัก ถึง 4 ต.ค.เฝ้าระวังจุดเสี่ยง
            ด้านนายอมร กล่าวว่า ขณะนี้สำนักการระบายน้ำ (สนน.) เหลือกระสอบทรายอยู่เพียง 400,000 กระสอบเท่านั้น เนื่องจากได้นำไปวางในพื้นที่ฟันหลอและพื้นที่เสี่ยงต่างๆ ดังนั้นขอให้พื้นที่เขตกรุงเทพฯฝั่งตะวันออก เตรียมพร้อมกระสอบทรายด้วย ซึ่งปัจจุบันทุกเขตได้เตรียมพร้อมกระสอบทรายไว้แล้วอย่างน้อย 2 แสนกระสอบ และขอให้ทุกเขตจัดเจ้าหน้าที่ ประจำจุดต่างๆ เพื่อช่วยเหลือประชาชนไว้ด้วย

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ