สอบปมรุ่นพี่ห้ามกลับบ้านทั้งที่พ่อโทรบอกลาก่อนผูกคอดับ

    จากกรณีที่นายอำนวย อายุ 41 ปี อาชีพขับรถรับจ้างใน ต.บางจะเกร็ง จ.สมุทรสงคราม ผูกคอเสียชีวิตภายในบ้านพัก และกลายเป็นประเด็นร้อนในโลกสังคมออนไลน์ เมื่อชาวเน็ตได้แชร์เรื่องราวของ นศ.ปี 1 ที่โพสต์ระบุว่าพ่อได้โทรศัพท์มาหาและพูดเป็นลาง "ลาก่อน" ขณะกำลังซ้อมเชียร์ที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งใน จ.เพชรบุรี แต่พอขอกลับบ้านเพราะเป็นกังวลใจแต่รุ่นพี่ไม่อนุญาต สุดท้ายพ่อผูกคอเสียชีวิตนั้น
    ล่าสุดเมื่อวันที่ 27 กันยายน ผศ.นิวัต กลิ่นงาม อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี เปิดเผยว่า สำหรับข่าวดังกล่าวเกี่ยวข้องกับนักศึกษาชั้นปีที่ 1 สาขาวิชาเทคโนโลยีศิลปะการประกอบอาหาร คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จากการตรวจสอบข้อเท็จจริง เบื้องต้นทราบว่าเหตุเกิดเมื่อวันอาทิตย์ที่ 25 กันยายนที่ผ่านมา โดยนักศึกษาได้มีซ้อมเชียร์ลีดเดอร์ตั้งแต่ช่วงเวลา 10.00-16.00 น. ซึ่งเป็นเวลาซ้อมปกติอยู่แล้ว ก่อนที่จะพากันแยกย้ายกลับที่พัก ซึ่งขณะนั้นยังไม่เกิดเหตุการณ์อะไร จนกระทั่งช่วงเช้าของวันรุ่งขึ้น คือวันจันทร์ที่ 26 กันยายน มารดาของ น.ส.เอ (นามสมมติ)ได้มารับกลับบ้านและทราบว่าบิดาผูกคอเสียชีวิตดังกล่าว
    ส่วนประเด็นที่บิดาของ น.ส.เอ ที่ผูกคอตายซึ่งอาจเกิดจากน้อยใจที่ลูกสาวไม่กลับบ้าน ไม่น่าจะเป็นเหตุจูงใจที่เพียงพอในการจากไปในครั้งนี้ และกรณีที่มีข่าวว่ารุ่นพี่ไม่อนุญาตให้กลับบ้านหลังจากรับโทรศัพท์จากพ่อ จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่ากิจกรรมเลิกช่วงเวลาประมาณ 16.00 น. หากนักศึกษาต้องการกลับบ้านจริงๆก็สามารถกลับได้ แต่ยังไม่ทราบว่าช่วงเวลาที่บิดาของนักศึกษาโทรมาหาเป็นช่วงขณะกำลังฝึกซ้อมหรือช่วงขณะที่นักศึกษาเดินกลับหอพัก โดยมหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรีได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้วถึงกรณีดังกล่าว
    "หากตรวจสอบแล้วพบว่ารุ่นพี่สั่งห้ามไม่ให้ น.ส.เอ กลับบ้านจริง ก็ถือเป็นสิทธิ์มิชอบ โดยรุ่นพี่ไม่มีสิทธิ์ที่จะใช้ความเป็นรุ่นพี่ไปห้ามไม่ให้รุ่นน้องกลับบ้าน ก็คงต้องดำเนินไปตามขั้นตอน ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างตรวจสอบข้อเท็จจริงให้ปรากฏเสียก่อน" ผศ.นิวัต กล่าว
    ก่อนหน้านี้ วันที่ 26 กันยายน พนักงานสอบสวน สภ.เมืองสมุทรสงคราม ได้รับแจ้งเหตุคนผูกคอตาย จึงไปตรวจสอบพบศพนายอำนวย จากการสอบถาม นางเรณู พี่สาวผู้ตาย ให้การว่าเมื่อค่ำวานนี้ผู้ตายได้คุยโทรศัพท์กับตน และพูดตัดพ้อน้อยใจภรรยาที่ได้แยกทางกันอยู่ เนื่องจากได้ทะเลาะเบาะแว้งกันก่อนหน้านี้ถึงสาเหตุที่ผู้ตายดื่มสุราเป็นประจำ นอกจากนี้ ยังบอกด้วยว่าผู้ตายบ่นคิดถึงลูกสาวอายุ 18 ปี ที่ศึกษาอยู่สถาบันการศึกษาใน จ.เพชรบุรี และได้พูดลักษณะคล้ายๆ เป็นการอำลาโดยใช้คำว่า "ขอโทษพี่น้องทุกคนและรักทุกคน"
    ส่วน น.ส.เอ บุตรสาวผู้ตาย ให้การว่า ได้พูดคุยโทรศัพท์กับพ่อขณะที่ตนกำลังซ้อมเชียร์อยู่ ซึ่งมีเวลาคุยไม่มากนักและพ่อได้บอกกับตนว่า "พ่อรักลูกมาก" และทิ้งท้ายด้วยคำว่า "ลาก่อน" ตนไม่สบายใจจะขอกลับบ้าน แต่พี่ๆ ชมรมเชียร์ลีดเดอร์ไม่ให้กลับบ้าน กระทั่งเย็นวันนี้แม่ที่แยกทางจากพ่อไปรับเพื่อกลับบ้าน ก็พบว่าพ่อผูกคอเสียชีวิตแล้ว