"กทม."เตรียมรับมือฝนถล่มกรุงสัปดาห์นี้

                  

 

 

          26 ก.ย. 59 - นายอมร กิจเชวงกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.) กล่าวถึงมาตรการรับมือน้ำฝนภายหลังกรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์วันที่ 25-30 ก.ย.นี้ จะมีฝนทั่วพื้นที่กรุงเทพฯ ร้อยละ 60-70 โดยเฉพาะในช่วงบ่ายและค่ำ ว่า มาตรการหลักสำหรับป้องกันฝนในช่วงตลอดสัปดาห์นี้จะยังคงมาตรการเดิมโดยเฉพาะถนนสายหลัก ที่ผ่านมายังแก้ไขปัญหาได้เป็นที่น่าพอใจ แต่จะเพิ่มเติมในส่วนของตรอก ซอก ซอย หมู่บ้านเก่าที่เป็นจุดเสี่ยงรวมกว่า 300 จุดทั่วกรุงเทพฯ โดยเฉพาะในเขตดอนเมืองที่มีหมู่บ้านเก่ากว่า 30 หมู่บ้าน และในพื้นที่เกษตรกรฝั่งตะวันออก อาทิ ลาดกระบัง มีนบุรี หนองจอก โดยสั่งการให้สำนักการระบายน้ำประสาน กับสำนักงานเขตที่มีจุดเสี่ยง เข้าไปแก้ไข ทั้งการพร่องน้ำในคู คลอง เพิ่มเครื่องสูบน้ำ เพื่อรับน้ำฝน

 

          นายอมร กล่าวต่อว่า โดยเฉพาะวันศุกร์นี้(30 ก.ย.) ที่รองอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยาแจ้งด้วยวาจามาว่า วันดังกล่าวอาจจะมีฝนตกหนักมาก รวมถึงกำชับให้เขตที่ประชาชนมีบ้านเรือนอยู่ริมน้ำ โดยเฉพาะในคลองประเวศบุรีรมย์ คลองมหาสวัสดิ์ คลองแสนแสบ ให้เตรียมรับน้ำที่จะเพิ่มระดับสูงขึ้นจนเข้าขั้นวิกฤต ซึ่งค่าเฉลี่ยฐานค่ากลางน้ำล่าสุดตอนนี้อยู่ที่ 50 เซนติเมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง โดยระดับวิกฤตอยู่ที่ 60 เซนติเมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง หากฝนมีปริมาณมาก น้ำอาจจะล้นตลิ่งและเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนได้ ส่วนบ้านเรือนริมแม่น้ำเจ้าพระยายังไม่น่าห่วง เป็นช่วงน้ำลงฐานน้ำอยู่ที่ 1.5 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง ซึ่งระดับที่จะส่งผลต่อบ้านเรือนคือ 1.70 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง

 

          "ตอนนี้ยังขอให้ประชาชนสบายใจได้ เพราะยังได้มอบหมายให้ สำนักการระบายน้ำ ประสานกับจังหวัดปริมณฑล ทั้งนนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ ในการร่วมกันวางแผนแก้ไขปัญหาน้ำรอระบายจากฝนตกหนักในช่วงสุดสัปดาห์นี้ โดยเฉพาะซอยแบริ่งและพื้นที่เมืองทองธานี"นายอมร

 

          นายอมร กล่าวถึงกรณีที่นายรอยล จิตรดอน ผู้อำนวยการสำนักงานสาวสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร(องค์กรมหาชน) กระทรวงวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี ออกมาระบุว่า กทม.มักจะแก้ไขปัญหาน้ำท่วมแบบเศรษฐี อะไรก็สร้างใหม่ตลอด เน้นสร้างอุโมงค์ ซึ่งตอนนี้ก็ยังสร้างไม่แล้วเสร็จ ว่า กทม.เป็นเมืองหลวง การแก้ปัญหาต้องคำนึงหลายเรื่อง จะให้มาใช้วิธีแก้แบบจังหวัดที่มีพื้นที่เกษตรจำนวนมากคงไม่ได้ ไม่ใช่กทม.ไม่อยากทำ แต่ กทม.เป็นเมืองหลวง มีอาคารพาณิชย์ ตึก หมู่บ้านจำนวนมาก การให้แก้ปัญหาแบบจังหวัดที่พื้นที่เกษตรร้อยละ 80 แต่กทม.พื้นที่สีเขียวมีแค่ร้อยละ 20 คงจะทำไม่ได้ ถ้าทำได้คงทำไปแล้ว หากแก้แบบนั้นประหยัดงบได้จำนวนมาก ก็ต้องขอให้ทุกคนเข้าใจ

 

          ด้านนางเบญทราย กียปัจจ์ ผู้ช่วยเลขานุการผู้ว่าฯกทม. และรองโฆษกกทม. กล่าวว่า ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมามีฝนตกทั่วทั้งพื้นที่ของประเทศ โดยมีปริมาณฝน 100-150 มิลลิเมตร ซึ่งในกรุงเทพฯ มีฝนตกหนักทั่วพื้นที่ โดยเฉพาะที่เขตบางนา ประเวศ ทำให้มีน้ำท่วมขังหลายจุด อาทิ ในถนนสุขุมวิทช่วง ซอยแบริ่ง ซอยลาซาล ซึ่งสำนักการระบายน้ำได้เสริมเครื่องสูบน้ำ ขณะที่คืนวันเสาร์ที่ผ่านมามีฝนตกหนักในพื้นที่กรุงเทพฯตอนบนย่านหลักสี่ ดอนเมืองต่อเนื่องจังหวัดนนทบุรี ทำให้มีน้ำท่วมขังกว่าสิบจุด ซึ่งทั้ง 2 เหตุการณ์เกิดขึ้นบริเวณพื้นที่รอยต่อระหว่างกรุงเทพฯ และปริมณฑล กทม.จึงต้องประสานความร่วมมือ ซึ่งในช่วงบ่ายวันนี้สำนักการระบายน้ำจะหารือกับแขวงการทางและองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาร่วมกัน

 

          นางเบญมราย กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ กทม.ได้เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำในพื้นที่กรุงเทพฯ เนื่องจากมีฝนตกหนักต่อเนื่องทั่วประเทศ ประกอบกับกรมชลประทานได้ปล่อยน้ำลงแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มขึ้น ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แม้ยังไม่ถึงขั้นวิกฤตแต่ก็อยู่ในระดับที่ต้องเฝ้าระวัง เนื่องจากอาจส่งผลกระทบกับประชาชนที่มีบ้านเรือนอยู่นอกแนวคันกั้นน้ำ ส่วนของคลองเปรมประชากรที่มีระดับน้ำค่อนข้างสูง สำนักการระบายน้ำได้ติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำเพิ่มเติม รวมถึงติดตั้งเครื่องสูบน้ำชั่วคราวที่คลองเปรมประชากรฝั่งใต้ เพื่อระบายน้ำในกรณีที่เกิดฝนตกหนัก สำหรับพื้นที่กรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออกนอกแนวคันกั้นน้ำ ย่านมีนบุรี ลาดกระบัง ซึ่งเวลานี้ระดับน้ำใกล้เคียงค่าวิกฤต ทำให้ต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

 

          ขณะที่นางสาววรรณดี สนชัย ผู้อำนวยการเขตดอนเมือง กล่าวว่า ในพื้นที่เขตดอนเมืองถือว่าคลองเปรมประชากรเป็นคลองสายหลักในการระบายน้ำ แต่ขณะนี้ในคลองเปรมประชากรมีปริมาณน้ำเป็นจำนวนมาก ทำให้เป็นอุปสรรคสำคัญในการระบายน้ำขณะนี้ ซึ่งเขตดอนเมืองได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำลงไปเพิ่มเติมบริเวณช่างอากาศอุทิศ หรือในจุดหมู่บ้านอื่นที่มีการร้องขอมา แต่ในบริเวณช่างอากาศอุทิศ 16 ยังเป็นจุดเดียวที่น้ำยังไม่แห้ง แต่ทางสำนักการระบายน้ำได้เร่งระบายน้ำในคลองเปรมประชากร ไปยังคลองบางซื่อ เพื่อระบายออกไปยังแม่น้ำเจ้าพระยา ขณะเดียวกันจังหวัดนนทบุรีก็ได้ช่วยระบายน้ำในคลองเปรม ไปยังคลองรังสิต เพื่อระบายออกไปยังแม่น้ำเจ้าพระยาเช่นกัน ทั้งนี้ ต้องยอมรับในพื้นที่ดอนเมืองมีฝนตกลงมาอย่างหนัก โดยในคืนวันเสาร์ที่ผ่านมีที่ตกหนักในกรุงเทพฯ ซึ่งพบว่าตกหนักในเขตดอนเมืองมากที่สุดถึง 87 มิลลิเมตร

 

          "เมื่อมีฝนมามากเขตก็ต้องเตรียมพร้อมให้มากที่สุด เขตก็รับทราบการแจ้งเตือนจากกรมอุตุฯ แต่ที่ผ่านมาฝนตกลงมาลักษณะเต็มพื้นที่ ไม่มีทางระบายไปจุดอื่น เพราะทุกจุดก็ตกหนักเหมือนกันหมด"นางสาววรรณดี กล่าว

 

          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในชุมชนริมคลองเปรมประชากร เขต ดอนเมือง ต้องเผชิญปัญหาน้ำท่วมที่เอ่อล้นจากคลองเปรมประชากรมาแล้ว 2 วัน หลังจากมีฝนตกหนักในบริเวณตอนบนของกรุงเทพฯ นนทบุรี และปทุมธานี เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 24 ก.ย.ที่ผ่านมา ทำให้น้ำท่วมขังทันที โดยบริเวณกำแพงสังกะสีแสดงให้เห็นถึงระดับน้ำที่ท่วมเข้ามาในวันแรก ซึ่งพื้นที่เขตดอนเมืองมีปริมาณฝนรวมสูงสุดที่ 87 มิลลิเมนร ในขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่เร่งสูบน้ำไปยังคลองรังสิตเพื่อระบายน้ำออกสู่แม่น้ำเจ้าพระยา ส่งผลให้ระดับน้ำลดลง แต่ก็ยังสูง 10 - 20 เซนติเมตร