ฝนโปรยซ.แบริ่งท่วมขัง ปชช.ต้องลุยน้ำเข้าออกซอย

                ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเช้ามีฝนตกลงมาจนถึงช่วงสายวันนี้ (23ก.ย.) ทำให้มีปริมาณน้ำท่วมขังรอการระบายอยู่เป็นผิวการจราจรบนถนนหลายสายบางจุดท่วมสูงถึง 20 ซม. อย่างถนนสุขุมวิขาออกช่วงสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส ซอยแบริ่ง ซึ่งเป็นพื้นที่ติดกับเขตบางนา กทม. และบริเวณสามแยกปู่เจ้าสมิงพรายและช้างสามเศียรพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ ยังมีปริมาณน้ำท่วมขังทำให้การจราจรบนถนนหลายสายชะลอตัวเคลื่อนตัวได้ช้า ทั้งฝั่งขาเข้าและขาออก ทำให้มีปริมาณรถสะสมยาวเข้าเข้าตลาดปากน้ำ เจ้าหน้าที่ตำรวจและกำลังทหาร กองร้อยรสที่ 6 ม.พัน 2950 เข้ามาช่วยในการอำนวยการจราจร
                     ขณะเดียวกันภายในซอยแบริ่งหรือซอยสุขุมวิท 107 มีน้ำท่วมขังสูง 10-20 เซนติเมตร ปริมาณน้ำยังคงท่วมฟุตบาททางเท้าอยู่ ทำให้ปริมาณน้ำไหลทะลักเข้าไปขังอยู่ตามซอยและหมู่บ้านหลายหมู่บ้านสูงกว่า 10 เซนติเมตร โดยเฉพาะหมู่บ้านเปรมฤทัย ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่ปลูกสร้างมานานทำให้มีพื้นที่ต่ำกว่าที่อื่นประชาชนต้องนำกระสอบทรายมาปิดกั้นหน้าบ้านเอาไว้ป้องกันน้ำเข้า 

                     โดยหลายหมู่บ้านได้พยายามช่วยเหลือตัวเองโดยการรวบรวมเงินกันนำไปซื้อเครื่องสูบน้ำขนาดเล็กมาสูบน้ำระบอยออกนอกหมู่บ้าน โดยมีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นช่วยเหลือเรื่องค่าน้ำมันเชื้อเพลิงวันละ 40 ลิตรต่อวันสถานการณ์ในขณะนี้ตลอดทั้งซอยแบริ่งและหมู่บ้านภายในซอยดังกล่าวยังคงมีน้ำท่วมขังอยู่รอการช่วยเหลือจาดภาครัฐ

           ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเช้าวันนี้ โดยเฉพาะช่วงชั่วโมงเร่งด่วนประชาชนต้องเดินทางไปทำงานยากลำบากและเด็กเยาวชน นักศึกษา ที่ต้องเดินทางไปเรียนหนังสือต่างประสบปัญหาการจราจรติดขัดหลายเส้นทาง เนื่องจากมีฝนตกต่อเนื่องจากเมื่อคืนที่ผ่านมาจนถึงช่วงเช้าและบริเวณแยกศรีอยุธยาที่มีน้ำท่วมขังก็เป็นอีกจุดหนึ่งที่มีการจราจรตัดขัดอย่างมาก ส่งผลให้การเดินทางไปทำงานของประชาชนเป็นไปด้วยความยากลำบาก                 

             ขณะที่ศูนย์ป้องกันน้ำท่วมกรุงเทพมหานคร รายงานว่า ได้เกิดฝนตกมาอย่างหนักในหลายพื้นที่ของกรุงเทพมหานคร ตั้งแต่ช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา ส่งผลให้เริ่มมีน้ำท่วมขังรอการระบายในหลายพื้นที่ อาทิ ซอยลาซาน ถนนสุขุมวิท 105 และซอยแบริ่ง ถนนสุขุมวิท 107 มีน้ำท่วมขัง 15-20 ซม. และถนนศรีนครินทร์ ช่วงแยกปู่เจ้าสมิงพราย น้ำท่วมสูง 5-10 ซม. ทำให้รถเล็กผ่านได้ลำบาก ทำให้การจราจรติดขัดเป็นอย่างมาก ถนนในนิคมอุตสาหกรรมฯ บางพลี ขาเข้า จาก ถ.บางนา-ตราด กม. 21 มีน้ำขังสูงมิดล้อ รถเล็กไม่ควรสัญจรผ่าน 

               นอกจากนี้ถนนลาดกระบัง มีน้ำท่วมผิวการจราจรเป็นช่วงๆ ถนนแพรกษา ยาวไปถึงวัดแพรกษา จ.สมุทรปราการ ขณะที่บริเวณถนนรามคำแหง ถนนรัชดาภิเษก เขตห้วยขวาง และถนนพระราม 9 เขต มีนบุรี ถนนสาทร ยังคงมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่องและเริ่มมีน้ำท่วมขังแล้ว แนะประชาชนตรวจสอบเส้นทางและหลีกเลี่ยงจุดที่มีน้ำท่วมขัง

               ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 23 กันยายน กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้าว่า ภาคกลาง ตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างมีฝนตกชุกและมีฝนตกหนักบางพื้นที่ บริเวณจังหวัดราชบุรี สมุทรสงคราม ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด เพชรบุรี ระนอง พังงา และภูเก็ต ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระมัดระวังอันตรายของฝนสะสมและฝนตกหนักในระยะนี้ สำหรับกรุงเทพมหานครและปริมณฑลมีฝนตกหนักบางแห่งในระยะนี้ 

               กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย ว่า ภาคเหนือ มีเมฆเป็นส่วนมาก โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบูรณ์ พิษณุโลก พิจิตร สุโขทัย กำแพงเพชร และตาก อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-31 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

               ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีเมฆเป็นส่วนมาก โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดนครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ และศรีสะเกษ อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-31 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

               ภาคกลาง มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดกาญจนบุรี สุพรรณบุรี ราชบุรี และสมุทรสงคราม อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-31 องศาเซลเซียส ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

               ภาคตะวันออก มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-31 องศาเซลเซียส ลมแปรปรวน ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

               ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดเพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์ อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศาเซลเซียส ตั้งแต่จังหวัดชุมพรขึ้นมา: ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม/ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ตั้งแต่จังหวัดสุราษฏร์ธานีลงไป: ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม/ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร

                ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดระนอง พังงา และภูเก็ต อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-32 องศาเซลเซียส ตั้งแต่จังหวัดภูเก็ตขึ้นมา: ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-40 กม/ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 3 เมตร ตั้งแต่จังหวัดกระบี่ลงไป: ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม/ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

                      กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีโอกาสเกิดฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 80 กับมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.