พศ.แจงห้องพัก"วัดอู่ทรายคำ"เพื่อพระอาพาธเท่านั้น

              ความคืบหน้ากรณีวัดอู่ทรายคำ ต.ช้างม่อย อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ใช้อาคารสูง 3 ชั้น เปิดให้บริการห้องพักลักษณะคล้ายห้องพักโรงแรม และมีสิ่งอำนวยความสะดวกภายในมีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบ ทั้งโทรทัศน์ เครื่องปรับอากาศ เครื่องทำน้ำอุ่นหรือแม้แต่อ่างอาบน้ำ ตลอดจนมีบริการอาหารเช้าด้วยนั้น

             นายณรงค์ ทรงอารมณ์ ผู้อำนวยการ สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า จากการที่มีการโพสต์ข้อความและภาพเป็นจำนวนมากในเพจเฟซบุ๊ก "วัดอู่ทรายคำ"ซึ่งเป็นภาพห้องพักที่มีอยู่ภายในวัดที่มีการตกแต่งอย่างดี มีอุปกรณ์อำนวยคามสะดวกครบ เรื่องดังกล่าวนี้ทางสำนักพุทธศาสนาได้รับทราบข้อมูลแล้ว ในความเป็นจริงวัดอู่ทรายคำที่กำลังเป็นที่สนใจและพูดถึงในโลกสังคมออนไลน์ได้ดำเนินการห้องพักดังกล่าวมาเป็นเวลานานแล้วและมีเพียงไม่กี่ห้อง จุดประสงค์หลักในการทำห้องพักขึ้นมาเพื่อต้องการให้พระสงฆ์ที่อาพาธ และต้องเดินทางเข้ามารักษาตัวที่ในตัวเมืองเชียงใหม่ ได้เข้ามาพักเพื่อความสะดวกในการเข้ารับการรักษา ซึ่งในการมาแต่ละครั้งอาจจะมีญาติโยมติดตามมาด้วย

            นอกจากจะเป็นที่พักสำหรับพระสงฆ์ที่อาพาธแล้ว ยังเป็นที่พักสำหรับญาติโยมที่เข้ามาทำบุญทอดผ้าป่า ทอดกฐิน และต้องการที่พักราคาถูก ซึ่งวัดไม่ได้กำหนดราคาการเข้าพักไว้ แล้วแต่ทางญาติโยมจะร่วมทำบุญ คาดว่าสาเหตุของเรื่องดังกล่าวอาจจะมีจากการที่เจ้าอาวาสได้ทำการรื้ออาคารหลังเก่าหลังหนึ่งภายในวัด อาจจะไปสร้างความไม่พอใจให้กับญาติโยมในบริเวณดังกล่าว จึงได้นำเรื่องห้องพักออกมาร้องเรียน โดยระบุว่าเป็นห้องพักมีสิ่งอำนวยความสะดวกแบบโรงแรมภายในวัด  ซึ่งห้องพักที่นำออกมาร้องเรียนนั้นมีมานานมากกว่า 10 ปีแล้ว ไม่ใช่เพิ่งดำเนินการ

           สำหรับราคาที่พักที่มีการโพสต์ ราคา 500-600 บาทนั้น เป็นการบอกต่อกันไปมากกว่า ซึ่งจริงๆ ไม่ได้มีการระบุไว้ บางรายเข้าพักแล้วร่วมทำบุญมากกว่า 500-600 บาทก็มี ส่วนวัดที่มีที่พักไว้รองรับไม่ได้มีเพียงวัดอู่ทรายคำเพียงที่เดียว ยังมีอีกหลายแห่งที่มีที่พักไว้รองรับรับผู้ที่ต้องการเข้ามาพักในวัด ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มที่เดินทางมาทำบุญ นักกีฬาที่ต้องเดินทางมาพักค้างรอการแข่งขัน รวมไปถึงในช่วงเทศกาล ที่ห้องพักในจังหวัดเชียงใหม่จะมีราคาค่อนข้างสูง ที่พักในวัดจึงเป็นอีกทางเลือกที่กลุ่มนักท่องเที่ยวจะเข้ามาขอพัก จึงอยากให้ญาติโยมที่นำเรื่องไปโพสต์ได้เข้าใจอย่างถูกต้อง หากวัดต้องการที่จะทำเป็นธุรกิจให้เอกชนเข้ามาบริหารจัดการเลยดีกว่า  เพราะเชื่อว่าวัดเองไม่มีความชำนาญในเรื่องนี้

            ด้านนายวัลลภ นามวงศ์พรหม กรรมการประชาสัมพันธ์สภาวัฒนธรรม จังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า จากเรื่องดังกล่าวนี้ หากทางวัดอู่ทรายคำทำในลักษณะที่แสวงหาผลกำไรถือว่าเป็นเรื่องไม่สมควร แต่ในความเป็นจริงแล้ว การดำเนินการในลักษณะเช่นนี้มีหลายแห่งที่ดำเนินการอยู่และเป็นการทำแบบไม่แสดงหากำไร โดยให้ดำเนินการมานานแล้ว โดยการให้พักแบบสงเคราะห์แล้วช่วยทำบุญค่าน้ำค่าไฟ นอกจากนั้นในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวห้องพักในเชียงใหม่มีราคาสูง นักท่องเที่ยวบางกลุ่มไม่สามารถจ่ายได้จึงขอเข้ามาพักในวัดต่างๆ ของเมืองเชียงใหม่ นอกจากนั้นยังมีกลุ่มนักเรียน นักศึกษา รวมทั้งนักกีฬา ที่เข้ามาทำกิจกรรมในเชียงใหม่จะใช้เป็นที่พักในการทำกิจกรรม

           นายสนั่น ช่างปรุง นักวิชาการศาสนา สำนักงานพุทธศาสนา เชียงใหม่ กล่าวว่า หลังจากที่เป็นข่าวในโลกโซเชียลอย่างกว้างขวาง กรณีวัดอู่ทรายคำได้เปิดห้องพักเหมือนโรงแรมให้เข้าพักนั้น จึงได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ ซึ่งในความเป็นจริงทางวัดได้จัดที่พักไว้เพื่อรองรับพระสงฆ์ที่เดินทางเข้ามาในพื้นที่ โดยเฉพาะพระสงฆ์ที่อาพาธและต้องรอรับการรักษาที่พักดังกล่าวไม่ได้มีการโฆษณาประชาสัมพันธ์ เป็นการบอกปากต่อปากของพระสงฆ์ด้วยกันเอง ทางวัดได้เปิดให้พระสงฆ์พักมากกว่า 20 ปีแล้ว เดิมเป็นศาลาการเปรียญไว้ตั้งสวดศพ ต่อมาเมื่อทีพระสงฆ์เข้ามาเพิ่มมากขึ้นจึงได้ปรับเปลี่ยนคามยุคสมัยให้มีความสะดวกมากขึ้น ไม่ได้มีห้องพักหรูหราตามที่เป็นข่าว การที่ข่าวออกไปว่าเป็นโรงแรมนั้น ไม่เป็นความจริง เนื่องจากไม่มีการเรียกเก็บค่าที่พักเป็นรายวัน แล้วทางผู้มีจิตศรัทธาจะบริจาค หากทำเป็นโรงแรมจริงวัดคงได้รับการบูรณะปรับปรุงดีกว่าที่เป็นอยู่

         ส่วนที่มีข่าวว่าทางวัดจะทำการห้องพักเพิ่มขึ้นนั้น ไม่เป็นความจริง สิ่งก่อสร้างที่กำลังมีขึ้นมานั้น จะเป็นที่พักของทางเจ้าอาวาส และพระลูกวัด เนื่องจากวัดอู่ทรายคำเองเป็นวัดที่มีพื้นที่อยู่ประมาณ 1 ไร่ ได้ไม่มีพื้นที่มากพอที่จะทำกิจกรรมใดๆ หรือทำธุรกิจโรงแรมได้ ปัจจุบันเจ้าอาวาสต้องจำวัดอยู่ที่ศาลาพักศพเป็นการชั่วคราว เนื่องจากที่พักเดิมชำรุดทรุดโทรมจึงได้ทำการก่อสร้างใหม่ ส่วนการให้ญาติโยมผู้หญิงเข้ามาพักนั้น ยืนยันว่าไม่มีอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตามหากมีคณะผ้าป่า กฐิน มานั้นอาจจะมีญาติโยมผู้หญิงเข้ามาเป็นกลุ่มที่เดินทางมาทำบุญเท่านั้น ส่วนภาพที่เป็นเท็จที่มีการเผยแพร่ออกไปนั้น ทางคณะกรรมการของวัดจะทำการติดตามเรื่องต่อไป

          ด้านนายจักขุบาล ธนัญชัย ที่ปรึกษาวัดอู่ทรายคำ กล่าวว่า ห้องพักที่วัดมีไว้เพื่อให้พระสงฆ์ที่อาพาธและเดินทางมารับการรักษาที่ในเมืองเชียงใหม่ และไม่สามารถที่กลับได้ทันในวันนั้นหรือต้องรอคิวเพื่อรับการรักษา ได้เข้ามาจำวัดเป็นการชั่วคราว โดยอาจจะมีญาติโยมติดตามมาพักอยู่ด้วย โดยมีห้องพักทั้งสิ้นอยู่ 11 ห้อง เท่านั้น โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ แต่หากต้องการร่วมทำบุญก็แล้วแต่จิตศรัทธาของผู้ที่เข้าพัก

          สำหรับตัวอย่างข้อความที่มีการโพสต์แสดงความรู้สึกในเพจ เฟซบุ๊ก วัดอู่ทรายคำ เช่น “ถึงที่พักแล้วจร้า, ที่พักประจำ หาของกินดิรออะไร” “มาพัก 3 คืน พึ่งจะได้รับของเช้าที่นี่ก็วันสุดท้ายนี่ล่ะ” “ถึงที่พักแล้วครับ...คืนนี้นอนวัดนะรู้ยัง @เชียงใหม่  “คืนนี้นอนที่นี้แล้วกันโรงแรมวัดอู่ทรายคำ”,ห้องรับรองท่านช่างสะอาดสวยงามเหลือเกินครับ เป็นเตียงคู่แต่นอนคนเดียว ไม่มีเพื่อนเลย, เป็นเด็กวัด ก็ต้องนอนวัดสิแต่ดูที่พักวัดนี้ซะก่อน” สำหรับภาพที่โพสต์ลงในเพจนั้น บางภาพเป็นผู้ที่แต่งกายคล้ายพระสงฆ์ บางภาพเป็นห้องพัก และบางภาพเป็นญาติโยมที่เข้าพักในห้องพัก