ข่าว

"บิ๊กต๊อก" สั่งรื้อคดีทุจริตที่ดินภูเก็ต จี้ยึดทรัพย์

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"ไพบูลย์" สั่งรื้อคดี-ยึดทรัพย์คดีทุจริตออกเอกสารสิทธิแถบอันดามัน ส่วนประเด็นผูกคอลั่นไม่เข้าข้างใคร พร้อมตั้งรองอธิบดีดีเอสไอคุมสอบชุดจับกุม-ชุดคุมขัง

 

 

          1 ก.ย.59 พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงกรณีที่มีผู้ต้องหาผูกคอตายระหว่างการควบคุมตัวของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)ว่า ได้รับรายงานจากพ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ ว่า มีเจ้าหน้าที่ของดีเอสไอพยายามช่วยชีวิตผู้ต้องหาด้วยการปั๊มหัวใจในที่เกิดเหตุด้วย ซึ่งอาจปั๊มโดยไม่ถูกวิธี อย่างไรก็ตามกรณีการตรวจสอบข้อเท็จจริงไม่ควรดำเนินการภายในอย่างเดียว เพราะแม้จะมีผลตรวจสอบของดีเอสไอออกมาแต่สังคมก็จะยังคงคลางแคลงใจ ดังนั้นขอให้รอผลชันสูตรจากนิติเวชตำรวจซึ่งเป็นหน่วยงานนอก ทั้งนี้ เห็นว่าควรเปิดโอกาสให้ญาติผู้เสียชีวิตร่วมรับฟังและซักถามข้อสงสัยด้วยได้ อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าผลการสอบสวนอาจไม่ทำให้สังคมหายเคลือบแคลงแต่ก็จำเป็นต้องทำตามขั้นตอน และต้องทำให้โปร่งใส หากพบว่าเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องหรือกระทำผิดจะต้องลงโทษขั้นเด็ดขาด               
          รมว.ยุติธรรม กล่าวต่อว่า ตนไม่เข้าข้างใคร แต่เห็นว่าคดีดังกล่าวศาลตัดสินไปแล้ว แต่มีการหนีหมายจับ คดีมีพยานหลักฐานชัดเจนไม่มีความจำเป็นต้องรีดให้รับสารภาพ  หากจะเป็นการทำจริงก็คงไม่จำเป็นต้องไปทำในห้องขัง ที่ไหนก็ทำได้ และหากจะมีการอ้างถึงการฆ่าตัดตอนในเรื่องผลประโยชน์ก็ต้องดูว่าทำไปเพื่ออะไร ซึ่งยังหาคำตอบไม่ได้ แต่ตนได้สั่งการให้ไปตรวจสอบรายละเอียดของคดีทั้งหมด อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่าการดูแลในส่วนของเจ้าหน้าที่คงไม่สามารถไปนั่งเฝ้าผู้ต้องหาได้ตลอด  แต่ความรับผิดหรือรับชอบต้องมี แม้กระทั่งการคุมขังในเรือนจำเจ้าหน้าที่ก็นั่งเฝ้าตลอดไม่ได้ หากผู้ต้องหาต้องการทำร้ายตัวเองก็มีโอกาสทำได้ เพราะคงไม่สามารถไปสั่งให้ผู้ต้องขังถอดเสื้อหรือใส่เสื้อได้ ส่วนการติดกล้องวงจรปิดในห้องควบคุมก็ทำไม่ได้เพราะเป็นการละเมิดสิทธิของผู้ต้องขัง                
          รมว.ยุติธรรม กล่าวอีกว่า จากกรณีดังกล่าวตนสั่งการให้รื้อคดีที่มีลักษณะกระทำผิดแบบเดียวกันทั้งหมดเพื่อใช้มาตรการฟอกเงินตรวจสอบเส้นทางการเงินด้วย เนื่องจากมีข้อสังเกตว่าผู้ต้องหาเป็นข้าราชการระดับใดจึงได้ไปเกี่ยวข้องกับการออกเอกสารสิทธิหลายพันแปลง คิดเป็นมูลค่ากว่าหมื่นล้านบาท เหตุใดจึงไม่มีการติดตามยึดทรัพย์ จากนี้คดีในลักษณะนี้ต้องส่งให้สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ย้อนไปตรวจสอบดูว่ามีการนำเงินไปซื้อทรัพย์สินใดบ้าง ซึ่งประเด็นดังกล่าวไม่เกี่ยวข้องกับกรณีการเสียชีวิต                
          ด้านพ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ กล่าวถึงกรณีที่มีการให้ข้อเท็จจริงสับสนเกี่ยวกับเหตุผูกคอเสียชีวิตในห้องขัง ตนได้สั่งการให้พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล รองอธิบดีดีเอสไอ เข้าไปควบคุมการสอบข้อเท็จจริงทั้งหมด โดยจะสอบคำให้การของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องใหม่ทั้งหมด ซึ่งครั้งนี้จะเป็นสอบรายบุคคลให้ได้ข้อเท็จจริงว่าแต่ละคนเข้ามาเห็นเหตุการณ์ในช่วงใด และเหตุการณ์มีลักษณะใด ขณะนี้ยืนยันได้เพียงเป็นการใช้ถุงเท้าผูกต่อกันเป็นเชือกแล้วนำไปผูกกับบานพับของประตู ในการตรวจสอบได้ย้ำไปว่าให้ทำอย่างตรงไปตรงมา หากเจ้าหน้าที่ทำผิดก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย ส่วนผลการชันสูตรของให้นิติเวชตำรวจเป็นผู้รายงานผลอย่างเป็นทางการ.

 

 

 


  

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ