ข่าว

ศาลอุทธรณ์ยืน จำคุก “ไฮโซน้ำหวาน – แม่”

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ให้จำคุก “ไฮโซน้ำหวาน” 1 ปี 6 เดือน คดีหมิ่น“หนิง ปณิตา” โทษจำคุกให้รอลงอาญา 2 ปี

 

          1 ก.ย. 59 - ศาลอุทธรณ์ พิพากษายืนจำคุก  “ไฮโซน้ำหวาน – แม่” 1 ปี 6 เดือน ปรับ 7.5 หมื่น สัมภาษณ์ หมิ่นประมาท “หนิง ปณิตา ” ปี 56 ร่วมน้องสาวรุมทำร้าย ขณะที่โทษจำคุก ได้รอลงอาญา 2 ปี ด้านทนายหนิง เผย ยังมีคดีแพ่ง ฟ้องเรียกค่าเสียหาย 5 ล้านบาท รอศาลนัดสืบพยาน 23 ก.ย.นี้

          ที่ห้องพิจารณา 805 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก วันที่ 1 ก.ย. 59 เวลา 14.00 น. ศาลอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดีหมายเลขดำ อ.3648/2556 ที่ น.ส.ปณิตา ธรรมวัฒนะ หรือหนิง อายุ 38 ปี นักแสดง เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง น.ส.วรพรรณ พันธุ์คงชื่น หรือ ไฮโซน้ำหวาน และนางอำไพพรรณ พันธุ์คงชื่น มารดา เป็นจำเลยที่ 1-2 ในความผิดฐานร่วมกันหมิ่นประมาทผู้อื่นด้วยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 328

          ตามฟ้องโจทก์ ระบุว่า เมื่อวันที่ 21 ก.ย. 56 จำเลยทั้งสองซึ่งเป็นแม่ – ลูกกัน ร่วมกันให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนหลายแขนงทำนองว่าโจทก์ และน้องสาวกับพวก ร่วมกันทำร้ายร่างกาย ที่ร้านอาหารย่านทองหล่อ โดยใช้โทรศัพท์มือถือตี น.ส. วรพรรณ จำเลยที่ 1 และข้อความอื่นซึ่งล้วนเป็นเท็จการกระทำของจำเลยทั้งสองทำให้โจทก์ต้องเสื่อมเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นเกลียดชังทำให้ผู้ได้ยินคำให้สัมภาษณ์ของจำเลย เข้าใจว่าโจทก์เป็นคนไม่ดีรุมทำร้ายจำเลยได้รับบาดเจ็บ จึงให้ศาลพิพากษาลงโทษจำเลย รวมทั้งให้โฆษณาคำพิพากษาและขอขมาในหนังสือพิมพ์รายวัน เป็นเวลา 7 วันด้วย

          โดยศาลชั้นต้น มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 10 มี.ค.58 ว่า แม้การเผยแพร่มีข้อความที่ถูกแก้ไข แต่ข้อความอื่นและสาระสำคัญยังคงเดิม ซึ่งข้อความทั้งหมดยืนยันข้อเท็จจริงว่า โจทก์เกี่ยวข้องกับการทำร้ายจำเลยที่ 1 ที่ เมื่อฟังแล้วทำให้ผู้อื่นเข้าใจได้ว่าโจทก์เป็นคนไม่ดีและทำร้ายจำเลย ส่วนข้อความสัมภาษณ์ของจำเลยที่ 2  แม้เป็นการกล่าวตามคำบอกเล่า ก็ถือเป็นการใส่ความแล้ว เพราะข้อความสัมภาษณ์ฟังได้ว่า โจทก์เป็นคนไม่ดี 

          จำเลยทั้งสอง จึงมีความผิดหมิ่นประมาทฯ ม.328 ให้จำคุกคนละ 2 ปี และปรับคนละ 100,000 บาท ซึ่งทางนำสืบของจำเลยเป็นประโยชน์ เห็นควรลดโทษให้ 1 ใน 4 คงจำคุกคนละ 1 ปี 6 เดือนและปรับคนละ 75,000 บาท แต่จำเลยทั้งสองไม่เคยต้องโทษมาก่อน โทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษเป็นเวลา 2 ปี และให้ลงโฆษณาคำพิพากษาในหนังสือพิมพ์ 2 ฉบับ เป็นเวลา 2 วัน โดยจำเลยออกค่าใช้จ่ายเอง


  ศาลอุทธรณ์ยืน จำคุก “ไฮโซน้ำหวาน – แม่”

          ต่อมาจำเลยทั้งสองยื่นอุทธรณ์ ซึ่งวันนี้ น.ส.วรพรรณหรือไฮโซน้ำหวาน และนางอำไพพรรณ มารดา เดินทางมาศาลเพื่อฟังคำพิพากษาพร้อมทีมทนายความและผู้ติดตาม ส่วนฝ่ายโจทก์ มีนายจรินทร์ ธรรมวัฒนะ สามีของหนิง ปณิตา เดินทางมาพร้อมกับทนายความ ร่วมฟังคำพิพากษาแทนภรรยาที่ติดภารกิจ

          ขณะที่ศาลอุทธรณ์ตรวจสำนวนประชุมปรึกษาหารือกันแล้วเห็นว่า แม้จำเลยที่ 1 อ้างว่าข้อความที่ให้สัมภาษณ์กับสื่อและมีการเผยแพร่นั้นไม่ตรงกัน แต่จำเลยที่ 1 ก็ไม่มีเพื่อนที่อยู่ในที่เกิดเหตุมาเบิกความยืนยันถึงคำพูดดังกล่าว และเมื่อพิจารณาคำสัมภาษณ์ทั้งหมดของจำเลยที่ 1 แม้จะไม่ได้ระบุชื่อโจทก์ชัดเจน แต่ในสาระคำกล่าวทำให้ผู้อื่นเข้าใจได้ว่าโจทก์และน้องสาวรุมทำร้ายจำเลยด้วยการขวางโทรศัพท์ และเข้าใจว่าโจทก์เป็นคนไม่ดี เป็นอันธพาล แม้จำเลยที่ 2 จะให้สัมภาษณ์ซึ่งเป็นไปตามคำบอกเล่าของจำเลยที่ 1 แต่ก็เป็นการกล่าวใส่ความทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย การกระทำของจำเลยทั้งสองจึงเป็นการหมิ่นประมาทผู้อื่นด้วยการโฆษณา ที่ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยทั้งสองมานั้นชอบแล้ว อุทธรณ์จำเลยฟังไม่ขึ้น พิพากษายืน

          ด้านนายณรงค์ พลมาตร์ ทนายความโจทก์ กล่าวว่า เมื่อศาลอุทธรณ์ มีคำพิพากษายืนตามโทษของศาลชั้นต้นแล้ว ตามกฎหมายต้องห้ามฎีกา หากจะยื่นจะต้องขออนุญาตฎีกาต่อผู้พิพากษา อย่างไรก็ดีข้อพิพาทระหว่างโจทก์และจำเลย ยังเหลือคดีแพ่ง ที่ น.ส.ปณิตา โจทก์ ได้ฟ้องเรียกค่าเสียหาย กับฝ่ายจำเลย จำนวน 5 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี ที่ศาลจังหวัดพระโขนงเมื่อต้นปี 2559 ซึ่งศาลรับไว้เป็นคดีหมายเลขดำ 387/2559 โดยการพิจารณาคดีแพ่งนั้น ก็รอผลคดีอาญานี้ ซึ่งศาลจังหวัดพระโขนงนัดสืบพยาน ในวันที่ 23 ก.ย.นี้

          ด้านนายดาริน ชาญณรงค์ ทนายความจำเลย กล่าวถึงการยื่นฎีกาเช่นเดียวกันว่า หากจะฎีกาก็ต้องขออนุญาตผู้พิพากษา ส่วนคดีแพ่งที่มีการฟ้องไว้จะดำเนินการต่อไปตามกระบวนพิจารณา  

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ