ตีนแมวย่องเบาเข้าบ้านหรูกวาดทรัพย์สินกว่า3แสน

               เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 25 ส.ค. นายพงษ์ธร ศรีอดุลย์พันธุ์ อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 69/97 ถนนหทัยราษฎร์ แขวงมีนบุรี เขตมีนบุรี  กทม. เจ้าของบริษัท  ดูทีวีโปรดักชั่น  พร้อมครอบครัวเดินทางมาให้ปากคำเพิ่มเติมกับ ร.ต.ท.ฉัตรพล เผ่นโผน รอง สว.(สอบสวน) สน.มีนบุรี  หลังแจ้งความเมื่อเช้ามืดที่ผ่านมาว่า ถูกคนร้ายเข้าไปขโมยเงินในบ้านพักเลขที่ 97/169 หมู่บ้านพฤกษาปูริ รามอินทรา-มีนบุรี ถนนสุวินทวงศ์ แขวงมีนบุรี เขตมีนบุรี กทม. มีเงินสดหายไปกว่า 300,000 บาท

               นายพงษ์ธร กล่าวว่า  เหตุการณ์เกิดขึ้นช่วง  03.40 น. ที่บ้านเดี่ยว 2 ชั้น  78 ตารางวา มีรั้วรอบขอบชิด ชั้น 1 ด้านหน้าเปิดเป็นบริษัท ส่วนชั้น 2 มี 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ภายในบ้านอยู่กัน 7 คน โดยตน ภรรยา ลูกสาว และน้องสาวของภรรยา รวม 4 คนนอนอยู่ชั้น 2 ส่วนพนักงาน 3 คนนอนอยู่ชั้นล่าง ขณะที่ตื่นนอนขึ้นมาเตรียมตัวจะไปอาบน้ำ เห็นว่า โทรศัพท์มือถือที่วางชาร์จแบตไว้หายไป  จึงถามภรรยาว่า เห็นไหม  จากนั้นภรรยาสำรวจทรัพย์สินตัวเองพบ กระเป๋าสะพายหลังยี่ห้อคานเคน สีเทา ที่วางไว้บนหัวเตียงหายไป จึงร้องทุกคนในบ้านตื่น แล้วช่วยกันตรวจสอบรอบบ้าน  พบร่องรอยของคนร้ายเป็นคราบเปื้อนดินโคลนติดอยู่บริเวณช่องระบายอากาศของห้องน้ำชั้น 2 ซึ่งห้องน้ำอยู่ในห้องนอนของตน

               “ตรวจสอบโดยรอบพบว่า  ห้องนอนบนชั้น 2 ซึ่งไม่มีใครอยู่และไม่ได้ล็อคประตู  แต่จู่ๆกลับถูกล็อคจากด้านในไว้จึงเปิดเข้าไปดูพบกระเป๋าสะพายที่หายไปสภาพข้าวของภายในถูกรื้อค้นออกมากระจัดกระจายอยู่บนที่นอน และยังพบกระเป๋าเงินของน้องสาวภรรยา  พร้อมโทรศัพท์มือถือของตนที่หายไปวางอยู่ด้วย แต่ไม่พบตัวคนร้ายคาดว่า  น่าจะปีนหน้าต่างออกไปแล้ว ค้นดูในกระเป๋าพบว่าเงินสด 300,000 บาทใส่ไว้ในซองกระดาษสีน้ำตาล และเงินอีก 30 ปอนด์ คิดเป็นเงินไทยประมาณ 1,600 บาทหายไป จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาตรวจสอบ ” เขากล่าวในที่สุด 

               ร.ต.ท.ฉัตรพล กล่าวว่า   พ.ต.ท.สุรพล ก้อมน้อย รองผกก.สส.สน.มีนบุรี และพ.ต.ท.สมคิด ประเชิญสุข สว.สส. พร้อมเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน(พฐ.)  เข้าไปตรวจสอบเก็บหลักฐานลายนิ้วมือแฝงที่เกิดเหตุแล้ว เบื้องต้นคาดว่าคนร้ายปีนขึ้นมาบนชั้น 2 และลอดตัวผ่านช่องระบายอากาศของห้องน้ำซึ่งไม่ได้งับหน้าต่างไว้ จากการตรวจสอบพบว่าหมู่บ้านดังกล่าวไม่มีกล้องวงจรปิดภายใน มีเพียงกล้องหน้าป้อมรักษาความปลอดภัยทางเข้าหมู่บ้านเท่านั้น ซึ่งยังไม่พบความผิดปกติ แต่บ้านหลังเกิดเหตุอยู่ติดกับหมู่บ้านข้างๆ ซึ่งคาดว่าคนร้ายอาจปีนมาจากอีกหมู่บ้านที่อยู่ติดกันซึ่งมีกล้องวงจรปิดถึง 10 ตัว จึงได้ทำเรื่องประสานขอตรวจสอบกล้องวงจรปิดเพื่อหาเบาะแสของคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป