ข่าว

สุโขทัยเตรียมพร้อมรับมวลน้ำกักเก็บไว้ใช้ช่วงแล้ง

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

สถานการณ์น้ำท่วมน่านคลี่คลาย เข้าสู่การฟื้นฟูพื้นที่-สำรวจอย่างละเอียดเพื่อการเยียวยา มวลน้ำเริ่มไหลไปที่สุโขทัยเตรียมแผนกักเก็บน้ำไว้ใช้ในช่วงฤดูแล้ง

            18ส.ค.2559 นายวุฒิชัย  เสาวโกมุท รองผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำในภาพรวมที่จังหวัดน่านเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติ น้ำลดลงอย่างต่อเนื่อง ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการช่วยฟื้นฟูสภาพของพื้นที่ และให้การบรรเทาทุกข์กับชาวบ้านในเบื้องต้น โดยมีหลายหน่วยบูรณาการร่วมกัน หลังจากนี้จะทำการสำรวจความเสียหายอย่างละเอียด เพื่อให้ความช่วยเหลือเยียวยาต่อไป พื้นที่ที่ประสบอุทกภัยของจังหวัดน่านส่วนใหญ่จะเป็นพื้นที่ทางการเกษตรที่ถูกน้ำท่วม 

            แต่เนื่องจากสถานการณ์ในครั้งนี้น้ำท่วมไม่นานและได้ไหลผ่านไปยังจังหวัดแพร่ ทำให้ความเสียหายที่เกิดขึ้นไม่มากนัก ทั้งนี้ต้องรอการสำรวจอีกครั้ง เมื่อเปรียบเทียบกับสถานการณ์ที่เคยเกิดขึ้น เมื่อปี 2549 และ 2554 ถือว่าไม่หนักเท่า เนื่องจากเมื่อปี 2549 ซึ่งถือว่าน้ำท่วมหนักบางจุดสูงถึงกว่า 2 เมตร ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก และเป็นการท่วมขังหลายวัน แต่ในครั้งนี้ มีการระบายออกไปได้อย่างรวดเร็วใช้เวลาประมาณ 2-3 วัน น้ำลดลงอย่างเห็นได้ชัดเจน การบูรณาการให้ความช่วยเหลือชาวบ้านทำได้อย่างรวดเร็ว 

            ทั้งนี้ ในวันที่ 19 ส.ค.นี้จะทำการปิดศูนย์รับบริจาคสิ่งของที่เปิดรับบริจาคมาตั้งแต่เมื่อวันที่ 15 ส.ค.ที่ผ่านมา เนื่องจากสิ่งของที่ได้รับบริจาคนั้นมีเพียงพอที่จะให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน อย่างไรก็ตามในช่วงนี้อยู่ระหว่างการเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด หากมีฝนตกหนักลงมาอีกครั้ง จากที่กรมอุตุนิยมวิทยาได้มีการแจ้งเตือน พายุเข้าและคาดว่าจะมีฝนตกหนักในพื้นที่อีกครั้งในวันที่ 19 – 20 ส.ค.นี้

            นายธวัช ชัยประสพ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานแพร่ กล่าวว่า สถานการณ์น้ำที่จังหวัดแพร่ ที่สถานีห้วยสัก อ.สอง จ.แพร่ เมื่อเวลา 08.00 น. อยู่ที่ 3.32 เมตร ปริมาณน้ำไหลผ่าน 146.6 ลบ.ม./วินาที โดยได้ไหลผ่านฝายแม่ยม มีน้ำไหลผ่าน 160.12 ลบ.ม./วินาที หลังจากนั้นมวลน้ำได้ไหลไปที่ จุดระดับน้ำบ้านน้ำโค้ง อ.เมือง ซึ่งสามารถรับน้ำได้สูงสุด 8.20 ม. หรือประมาณ 1,000 ลบ.ม./วินาที วันนี้น้ำได้ลดลงไปมาก อยู่ที่ระดับ5.40 เมตร จากเมื่อวาน (17ส.ค.) ขึ้นไปสูงสุดที่ 8.25 เมตร ทำให้น้ำเริ่มไหลเข้าพื้นที่เกษตรและบ้านเรือนของประชาชนในพื้นที่ บ้านน้ำโค้ง อ.เมือง จ.แพร่ ซึ่งเป็นจุดที่ค่อนข้างต่ำ และเกิดปัญหาน้ำท่วมมาอย่างต่อเนื่องในช่วงฤดูน้ำหลาก ฃ

            อย่างไรก็ตามน้ำที่ไหลเข้าท่วมพื้นที่ อ.เมือง แพร่นั้นได้เริ่มลดปริมาณลงตั้งแต่เมื่อวาน(17 ส.ค.) ขณะนี้น้ำต่ำกว่าระดับที่วิกฤตถึง 3 เมตร และกำลังลดลงไปอย่างต่อเนื่อง สถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติกำลังอยู่ระหว่างการฟื้นฟูสภาพพื้นที่ หลังจากนี้จะทำการสำรวจความเสียหายอีกครั้ง ขณะนี้น้ำได้ไหลไปที่ อ.วังชิ้น จ.แพร่ ในบริเวณดังกล่าวสามารถรับน้ำได้สูงสุดที่ 11 เมตร รับปริมาณน้ำไหลผ่านได้ 1,500 ลบ.ม. / วินาที ขณะนี้ ปริมาณน้ำสูง 8.98 เมตร มีน้ำไหลผ่าน 1,019.2 ลบ.ม./วินาที และยังมีมวลน้ำไหลลงไปอยู่อย่างต่อเนื่อง เชื่อว่าจะสามารถรับมือได้ มีพื้นที่เกษตรที่อยู่บริเวณริมแม่น้ำยมเท่านั้น ที่อาจจะได้รับผลกระทบเล็กน้อยแต่ไม่มากนัก ทั้งนี้บ้านเรือนประชาชนไม่ได้รับความเสียหาย ขณะนี้น้ำได้เริ่มไหลไปยัง อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย

            ด้านนายมงคล สุภากาย ผู้อำนวยการโครงการชลประทานสุโขทัย กล่าวว่า ขณะนี้น้ำเริ่มไหลเข้ามาในพื้นที่แต่ปริมาณยังไม่มากนัก โดยมีน้ำไหลผ่านประตูระบายน้ำบ้านหาดสะพานจันทร์ มีปริมาณน้ำไหลผ่านเพียง 435 ลบ.ม./วินาที จากปกติสามารถรับน้ำได้ประมาณ 500 ลบ.ม./วินาที ขณะนี้บริเวณหน้าจวนผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นจุดที่น่าเป็นห่วงและมีการเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด เนื่องจากเป็นจุดที่น้ำอาจไหลเข้าท่วมในตัวเมืองได้ แต่ขณะนี้มีปริมาณน้ำไหลผ่านประมาณ 262 ลบ.ม./วินาที ทั้งนี้ในจุดดังกล่าวสามารถรองรับน้ำได้ถึง 550 ลบ.ม./วินาที

            สำหรับแผนการบริหารจัดการน้ำที่ไหลมาจากจังหวัดแพร่ โดยให้ประตูระบายน้ำหาดสะพานจันทร์ ทำหน้าที่หน่วงปริมาณน้ำไว้ โดยการกักเก็บน้ำไว้ เนื่องจากประตูระบายน้ำสะพานจันทร์สามารถที่จะกักเก็บน้ำไว้ได้ถึง 15 ล้าน ลบ.ม. ทั้งนี้จะทำการระบายน้ำตามปกติเพื่อให้ลำน้ำด้านล่างสามารถรองรับน้ำ นอกจากนั้นยังได้ทำการผันน้ำเข้าไปยังคลองหกบาท เพื่อเข้าสู่แม่น้ำน้ำน่าน ที่ อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ และ อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก นอกจากนั้นยังได้วางแผนระบายเข้าสู่คลองและแหล่งเก็บน้ำที่มีอยู่ในจังหวัดสุโขทัย เพื่อกักเก็บน้ำไว้ใช้ในช่วงฤดูแล้ง เนื่องจากสุโขทัยประสบปัญหาภัยแล้งมาต่อเนื่อง 2 ปี เชื่อว่าจะช่วยลดปริมาณน้ำที่จะไหลเข้าเมืองสุโขทัยได้เป็นจำนวนมาก อย่างไรก็ตามต้องเฝ้าระวังสถานการณ์อย่าใกล้ชิดเพื่อความไม่ประมาท ซึ่งทางจังหวัดได้มีการประกาศเตือนให้ประชาชนได้ขนย้ายทรัพย์ขึ้นไว้บนที่สูงแล้ว  


น่านผอ.โรงเรียนบ้านดอนประกาศยุดเรียนต่ออีก 1 วัน
 
            นายศักดิ์ดา พูลสุข ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านดอน (ศรีเสริมกสิกร)ต.ในเวียง อ.เมืองน่าน จ.น่าน กล่าวว่าจากสถานการณ์น้ำท่วมตั้งแต่เย็นวันที่ 15 ส.ค.ที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบันเข้าสู่สภาวะปกติ แต่เนื่องจากโรงเรียนได้รับผลกระทบหนัก ได้ประหยุดเรียนตั้งแต่วันที่ 16-17 ส.ค.กำหนดเปิดเรียนในวันนี้ (18 ส.ค.) จากการตรวจสภาพความเรียบร้อยของโรงเรียนยังไม่เรียบร้อย

            ประกอบกับที่ได้ผลกระทบมาก คือ อาคารเรียน ชั้นประถมปีที่ 4 กับ ชั้นอนุบาล เมื่อวานนี้ (17 ส.ค.)ได้มีหน่วยงานราชการ เทศบาลเมืองน่าน หน่วยทหารกองพันทหารม้าที่ 15 ประชาชน ผู้ปกครองนักเรียน อบต.ถืมตอง ได้นำรถน้ำพร้อมกำลังพลมาช่วยทำความสะอาดตลอดทั้งวัน ก็ยังไม่เรียบร้อยทั่วถึง ยังมีขยะปฏิกูลส่งกลิ่นเหม็นน้ำยังท่วมขังอยู่หลายจุด รวมทั้งอุปกรณ์การเรียนยังเปียกไม่สามารถจัดชั้นเรียนได้ เพื่อป้องกันอันตรายที่จะเกิดกับนักเรียนครูผู้ทำการสอน จึงต้องหยุดเรียนต่ออีก 1 วัน คาดว่าจะมีหน่วยงานราชการ ทหารมาช่วยทำความสะอาดให้เสร็จเรียบร้อยในวันนี้ โดยจะเปิดเรียนตามปกติในวันศุกร์ที่ 19 ส.ค.


ชลประทานพิษณุโลกเตรียมพร้อมรับน้ำจากสุโขทัย 

            ที่จังหวัดพิษณุโลก หลังจากทางชลประทาน ได้ร่วมกับหลายหน่วยงานในการรองรับมือน้ำหลาก จากจังหวัดแพร่ เนื่องจากมีปริมาณน้ำจำนวนมาก โดยเฉพาะ จ.สุโขทัย และ จ.พิษณุโลก โดยจังหวัดพิษณุโลก ได้เตรียมรองรับน้ำก้อนดังกล่าว ในพื้นที่ ต.ท่าช้าง อ.พรหมพิราม และ ต.ชุมแสงสงคราม อ.บางระกำ ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ ใน2-3วันนี้ พร้อมทั้งทางสำนักงานชลประทานจังหวัดพิษณุโลก ได้ส่งเร่งให้พร่องน้ำ ทั้งแม่น้ำยมสายเก่า และแม่น้ำยมสายใหม่ ให้ลงไปสู่พื้นที่ จ.พิจิตร โดยเฉพาะที่ประตูระบายน้ำบ้านวังขี้เหล็ก หมู่10ต.ท่าช้าง อ.พรหมพิราม ซึ่งเป็นประตูระบายน้ำแม่น้ำยมสายเก่า โดยทางเจ้าหน้าที่ได้เปิดประตูระบายทั้ง4บาย100 %แล้ว เพื่อพร่องน้ำเข้าสู่ในพื้นที่ บ้านแม่ระหัน อ.เมือง และ อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก อีกครั้ง ถึงว่าระดับน้ำแม่น้ำยมสายเก่าวันนี้เพิ่มขึ้นอีกชั่วโมงละ1เซนติเมตร

            ขณะที่บริเวณแม่น้ำยมสายเก่า บ้านแม่ระหัน หมู่ที่10ต.บ้านกร่าง อ.เมืองพิษณุโลก ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ถูกส่งต่อมาจากบ้านวังขี้เหล็ก ต.ท่าช้าง อ.พรหมพิราม นั้นทางเจ้าหน้าที่ได้นำท่อสูบน้ำขนาดหน้ากว้าง12นิ้ว จำนวน6ท่อ มาติดตั้งเพื่อช่วยในการพร่องน้ำผ่านสะพานที่เป็นคอขวด และเป็นช่วงแม่น้ำที่แคบมาก เพื่อมิให้น้ำเอ่อล้นในบริเวณดังกล่าวได้

            นายกฤษณะ บุตรบูรณ์ หัวหน้าฝ่ายส่งน้ำ โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษายม-น่าน กล่าวว่า ขณะนี้น้ำจากแพร่มาถึง จ.สุโขทัยบ้างแล้ว ทำให้พื้นที่รับน้ำต่อจากสุโขทัย คือ แม่น้ำยมสายใหม่และแม่น้ำยมสายเก่า ต้องเร่งพร่องน้ำ เพื่อรอรับน้ำ จ.สุโขทัยอีกครั้ง และที่แม่น้ำยมสายเก่า ที่บ้านแม่ระหัน แห่งนี้สภาพเป็นคอขวด หรือแคบมาก ทำให้น้ำไหลไม่ทัน ซึ่งจะส่งผลให้น้ำเอ่อตลิ่งได้ง่าย 

            ทางเจ้าหน้าที่จึงได้นำท่อสูบน้ำ จำนวน6ท่อมาสูบเพื่อเร่งระบายน้ำ วันหนึ่งจะสามารถระบายได้ประมาณ1,700 คิว โดยจะสูบน้ำไปจนกว่าสถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติ ซึ่งคาดว่าน้ำจาก จ.สุโขทัย มาที่ จ.พิษณุโลก จะมีปริมาณที่ค่อนข้างมาก ทำให้ทางเจ้าหน้าที่ต้องรับมือ เพื่อป้องกันน้ำท่วมในพื้นที่เกษตรกรรมดังกล่าว

            นายบรรดิษฐ์ อินต๊ะ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานพิษณุโลก เปิดเผยว่า สถานการณ์การเฝ้าระวังน้ำในพื้น จ.พิษณุโลก มวลน้ำจะไหลมาจากจังหวัดแพร่ มาถึง อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย แล้ว โดยปริมาณมวลน้ำอยู่ในอัตรา700ลบ.ม./วินาที โดยจังหวัดพิษณุโลก ได้เตรียมรองรับน้ำก้อนดังกล่าว ในพื้นที่ ต.ท่าช้าง อ.พรหมพิราม และ ต.ชุมแสงสงคราม อ.บางระกำ ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ ใน2-3วันนี้ และอาจส่งผลกระทบกับพื้นที่ทางการเกษตรที่ยังไม่เก็บเกี่ยวผลผลิตได้ โดยทางชลประทาน ได้ประสานไปยัง นายอำเภอ เกษตรอำเภอ เพื่อทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่เสี่ยง หากพื้นที่ใดเร่งเก็บเกี่ยวข้าวได้ก็ควรเร่งเก็บเกี่ยวไปก่อน เพื่อป้องกันความเสียหาย


ระดมของบริจาคช่วยเหยื่อน้ำท่วมในพื้นที่อ.ปงและเชียงคำ

            บริเวณหน้าโรงเรียนอนุบาลพะเยา ได้มีกรส่งมอบเครื่องดำรงชีพให้กับชาวบ้านที่ประสบภัยน้ำท่วม ในพื้นที่อ.ปง และอ.เชียงคำจากกรณีน้ำยมและน้ำงิม ทะลักเข้าท่วมพื้นที่ อ.เชียงคำ อ.ปง และ อ.เชียงม่วน จ.พะเยา เมื่อตอนเช้ามืดของวันที่ 15 สิงหาคม ที่ผ่านมาจนเป็นเหตุให้พื้นที่เกษตรกรรม บ้านเรือน ทรัพย์สินของราษฎร์เสียหาย และมีผู้เสียชีวิตถึง 2 ราย ราษฎรขาดแคลนน้ำสำหรับอุปโภคบริโภค และอาหารอย่างหนัก ทางจังหวัดพะเยาโดยหอการค้าจังหวัดพะเยา ร่วมประชาชนทุกหมู่เหล่าพร้อมใจกันนำข้าวเปล่าบรรจุขวด บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ปลากระป๋องและอาหารแห้งอื่นจำนวนมาก

            นายหัสนัย แก้วกุล ประธานหอการการค้าจังหวัดพะเยา กล่าวถึงการระดมทุนบริจาคเพื่อช่วยเหลือชาวบ้านที่ประสบภัยน้ำท่วมในครั้งนี้ว่า เมื่อเห็นภาพความเสียหายและความเดือดร้อนของพี่น้องอ.ปงและเชียงคำจากข่าว เลยใช้สถานที่หน้าโรงเรียนอนุบาลพะเยา ประกาศรับบริจาคน้ำดื่มอาหารแห้งหรืออาหารสำเร็จรูป โดยเริ่มขอรับบริจาคตั้งแต่วันที่ 16-17 สิงหาที่ผ่านมา ได้สิ่งของมากมายซึ่งน่าจะพียงพอต่อความช่วยเหลือชาวบ้าน โดนได้รับความอนุเคราะห์รถส่งของจากฝ่ายปกครองจังหวัดพะเยานำไปส่งให้ชาวบ้าน ณ ที่ทำการเทศบาลตำบลงิม อ.ปง เพื่อแจกจ่ายให้ชาวบ้านที่ประสบภัยน้ำท่วมต่อไป


ผู้ว่าฯหนองคายลงเรือติดตามสถานการณ์น้ำโขง

            เมื่อเวลา 09.00 น. นายสุชาติ นพวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย,น.อ.สุชาติ อุดมนาค ผบ.นรข.เขตหนองคาย นายโสภณห่วงญาติ นายอำเภอเมืองหนองาย และนายพีรพล ยังขาว ปภ.จ.หนองคาย ได้ลงเรือตรวจการณ์ของหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง เพื่อสำรวจน้ำโขง ตลอดแนวตัวเมืองหนองคาย ตั้งแต่สะพานมิตรภาพไทย–ลาว ไปจนถึง พระธาตุหล้าหนอง ประมาณ 4 กิโลเมตร ซึ่งพบว่าระดับน้ำโขงที่ส่วนอุทกวิทยาหนองคาย วัดได้ 10.62 เมตร โดยระดับน้ำลดลงอย่างช้า ๆ เฉลี่ยชั่วโมงละ 1 เซนติเมตร จนถึงเที่ยงวัดได้ 10.56 เมตร

            นายสุชาติ  กล่าวว่า ระดับน้ำโขง สถานการณ์น้ำโขงที่หนองคายขณะนี้น้ำโขงได้ทรงตัวและเริ่มลดลงแล้ว และยังพบว่าระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่งประมาณ2เมตรประชาชนชาวหนองคายไม่ต้องตื่นตระหนก ไม่ต้องกังวลกับสถานการณ์ ส่วนการพยากรณ์อากาศของกรมอุตุนิยมวิทยาที่แจ้งเตือนเรื่องพายุดีเปรสชั่นจะเกิดขึ้นระหว่างวันที่ 18-19 ส.ค.นี้ ได้แจ้งให้ทุกอำเภอได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและไม่น่าเป็นห่วงแต่อย่างใด.

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ