วอนช่วย! ด.ญ.ยอดกตัญญูดูแลย่าพิการตาบอดเพียงลำพัง

 

         6 ส.ค.59 เรื่องเด็กหญิงวัย 13 ปี ยอดกตัญญูรายนี้ ที่จ.ชัยภูมิ ได้รับการเปิดเผยจาก นายสวาท ฤาชา รอง ผอ.สพม.เขต 30 เผยว่าได้รับรายงานและพบว่ามีเด็กนักเรียนหญิง อายุ 13 ปี ซึ่งเรียนอยู่ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่โรงเรียนนาหนองทุ่มวิทยา ซึ่งอยู่ในสังกัด สพม.เขต 30 ชื่อ ด.ญ.อาทิตยา ชาวข้าว นักเรียนหญิงชั้น ม.1 อายุ 13 ปี อยู่บ้านเลขที่ 112 หมู่ที่ 19 บ้านโคกล่าม ต.นาหนองทุ่ม อ.แก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ ซึ่งอาศัยอยู่กับนางมาก พิมสมบูรณ์ ผู้เป็นย่า อายุ 83 ปี และยังป่วยพิการตาบอดมองไม่เห็น ไม่สามารถช่วยตนเองเดินไปไหนมาไหนได้ ทำให้ต้องดูแลอย่างใกล้ชิดโดยลำพังคนเดียวมาตลอดหลายปีที่ผ่านมา

         ขณะที่บ้านพักอาศัย มีสภาพเป็นไม้ทรุดโทรม หลังคาสังกะสีผุๆ ฝาผนังทำด้วยไม้ไผ่ที่เหลา แล้วนำมาขัดเป็นฝาข้าง ยามฝนตกไม่สามารถกันน้ำฝนได้ และทั้งย่าหลานทั้งสองคนต้องอยู่ในสภาพที่เปียกฝนตลอดทั้งวันทั้งคืนในช่วงหน้าฝนนี้อยู่บ่อยครั้ง

         ถึงอย่างไรก็ตามทั้ง 2 คน ได้สู้ชีวิตมานานหลายปี โดยนางมาก เล่าว่า พ่อ-แม่ของน้องอาทิตยาหรือนุ่น ได้แยกทางกันไปตั้งแต่ยังแบเบาะ แต่ด้วยความเป็นหลานสาวสายเลือดแท้ๆ จึงได้สู้เพื่อหลานโดยรับจ้างทำไร่ทำสวนรับจ้างรายวัน มีรายได้พอประทังชีวิต วันไหนไม่มีเงินหรือไม่มีรายได้น้อย ตนเองก็จะเดินเท้าเปล่าไปที่วัดซึ่งอยู่ไม่ไกลมากนัก เพื่อไปขออาหารที่เหลือจากก้นบาตรจากหลวงพ่อที่วัดพอประทังชีวิตได้ ทำอย่างนี้มาเป็นเวลานานหลายปี ส่วนรายได้บางทีลูกชายแท้ๆ ซึ่งเป็นพ่อของ ด.ญ. อาทิตยา มีอาชีพรับจ้างอยู่ที่ต่างจังหวัด หากมีเงินก็จะส่งมาให้

         แต่ด้วยจำนวนน้อยก็ไม่เพียงพอ และที่สำคัญร่างกาย โดยเฉพาะตาทั้งสองข้างก็มีอาการตามองไม่เห็นหนักช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา ทำให้เกิดความลำบากในการทำงานรับจ้าง จนปัจจุบันไม่มีรายได้อะไรได้เลย เหลือเพียงค่าครองชีพผู้สูงอายุ จำนวนเดือนละ 700 บาทที่รัฐให้ เพื่อให้หลานนำไปซื้ออาหารที่โรงเรียนวันละ 30-35 บาท บางวันไม่มีก็ไม่ได้ให้หลานไปโรงเรียน ส่วนเสื้อผ้าก็ใส่ตัวเก่าที่นานแล้วหลายปี เนื่องจากไม่สามารถเดินทางไปไหนมาไหนได้ จึงต้องจำทนอยู่อย่างนี้กับหลานมานานเกือบ 5 ปีแล้ว

         นายปิยะพล เถื่อนพาชิน ผอ.โรงเรียนนาหนองทุ่มวิทยา ได้มอบหมายให้นายปัญญา ทองสา ครูที่ปรึกษา ได้ลงพื้นที่สำรวจบ้านนักเรียน จึงพบว่าสภาพบ้านพักของ ด.ญ.อาทิตยา ชาวข้าว หรือน้องนุ่น น่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง ทั้งสภาพบ้านที่ไม่สามารถกันน้ำฝนและลมได้ จึงได้มอบหมายให้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจนมีหน่วยงานทางอำเภอ และส่วนท้องถิ่น พร้อมหน่วยงานทางการศึกษาต้นสังกัด สพม.เขต 30 เข้ามาให้ความช่วยเหลือเบื้องต้น เช่น อาหาร สิ่งของเครื่องใช้ภายในบ้านเบื้องต้นส่วนหนึ่งแล้ว

         ขณะที่นายปัญญา ทองสา ครูที่ปรึกษา เล่าว่า ด.ญ.อาทิตยา เป็นเด็กมีความประพฤติดี มีความรับผิดชอบ กตัญญูดูแลย่ามาโดยตลอด และเป็นคนสนุกสนานร่าเริง ให้ความช่วยเหลือเพื่อนทำกิจกรรม เป็นนักเรียนที่เรียนเก่งตั้งแต่ชั้นประถมศึกษา ได้เกรดเฉลี่ย 4.00 มาตลอด แล้วมาเรียนระดับมัธยมศึกษาปีที่ 1 ก็สามารถสอบได้คะแนนดี มีความตั้งใจสูง ใฝ่เรียนใฝ่รู้ จึงให้ความใส่ใจดูแล พร้อมทั้งประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่างๆ จนทางอำเภอและทางจังหวัดชัยภูมิได้มาให้ความช่วยเหลือเบื้องต้น แต่ก็ยังไม่สามารถมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นเนื่องจากสภาพบ้านเก่ามากและเกรงจะไม่ปลอดภัย จึงอยากให้ผู้ใจบุญให้ความช่วยเหลือในครั้งนี้ และที่เป็นน่าประทับใจในวันนี้ก็คือ ได้มีพี่ๆนักเรียนระดับชั้น ม.ปลาย ซึ่งเป็นโรงเรียนคนละแห่งมาจากในตัวเมืองชัยภูมิ เมื่อได้ทราบจากทางสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 30 จะลงพื้นที่ช่วยเหลือน้อง จึงได้ขอพากันร่วมเดินทางมาร่วมบริจาคสมทบเงินให้ความช่วยเหลือในวันนี้ด้วยรวมกันร่วมหมื่นบาท

         ด้านนายเบญจพงศ์ สนิทสิงห์ ประธานชุมนุม “ทำดีเพื่อพ่อ” นักเรียนโรงเรียนชัยภูมิภัคดีชุมพล กล่าวว่า ตนเอง และสมาชิกชุมนุมฯ เมื่อทราบข่าวจึงได้ประชาสัมพันธ์ขอความช่วยเหลือจากพี่ๆ ระดมทุนเพื่อนำมามอบให้น้องอาทิตยา ที่ได้รับความเดือนร้อน เมื่อมาเห็นสภาพบ้านอาศัย น่าสงสารมากกว่าที่คิดวันนี้ได้มอบเป็นค่าใช้จ่าย และจะช่วยประชาสัมพันธ์ให้ผู้ใจบุญมาช่วยเหลืออีกทางหนึ่งต่อไปด้วย

         ส่วน นายพัฒนพงษ์ โชติกิ่ง รองประธานนักเรียนโรงเรียนชัยภูมิภักดีชุมพล กล่าวว่า ทางสภานักเรียนเมื่อได้ทราบข่าวและเห็นรูปภาพบ้านของน้อง ก็เลยปรึกษากับทางเพื่อนเพื่อหาทุนมาช่วยน้อง จนสามารถรวบรวมทุนให้การช่วยเหลือเป็นเงินจำนวนหนึ่ง ถึงจะไม่มากแต่รู้สึกภูมิใจที่ได้ช่วยเหลือคนที่ลำบากกว่า

         นางมาก และ ด.ญ.อาทิตยา วัย 13 ปี ได้กล่าวขอบคุณด้วยน้ำตาคลอที่ทางสำนักงานเขตพื้นที่ฯ และครู รวมทั้งพี่ๆที่เดินทางมาจากเมืองชัยภูมิ เพื่อมอบเงินช่วยเหลือ ในครั้งนี้ด้วย

         ผู้สื่อข่าวได้ถามถึงความต้องการความช่วยเหลือว่าต้องการอะไร นางมากได้พูดด้วยความเกรงใจว่า ตนเองแก่มากแล้วก็อยากจะได้บ้านให้หลานได้อยู่อาศัยอย่างปลอดภัย ส่วน ด.ญ.อาทิตยา กล่าวด้วยความเกรงใจด้วยเช่นกันว่า ตนเองต้องการบ้านปูน เพื่อต้องการให้ย่าเดินอย่างปลอดภัย เนื่องจากปัจจุบัน จะต้องขึ้นลงอยู่บ่อยๆ อาจจะทำให้ย่าล้มได้หากตนเองไม่อยู่และเป็นอะไรหนักไปอีกได้

         สำหรับ ผู้ใจบุญที่ต้องการร่วมช่วยเหลือครอบครัวย่า และน้องด.ญ.ยอดกตัญญูวัย 13 ปี รายนี้ เพิ่มเติมได้ก็สามารถโอนเงินทางบัญชีธนาคารออมสิน สาขาแก้งคร้อ ชื่อบัญชี เด็กหญิงอาทิตยา ชาวข้าว หมายเลขบัญชี 020173371749 หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 089-8621501 (ครูปัญญาครูประจำชั้นของเด็ก)