ข่าว

พายุหมุนถล่มโรงสีข้าวแปดริ้วพังยับ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

อากาศแปรปรวน พายุหมุนขนาดมหึมา พัดถล่มอาคารโรงสีข้าวขนาดใหญ่ ที่ตั้งอยู่กลางท้องทุ่งแปดริ้ว พังถล่มทั้งหลัง ทับคนงานก่อสร้างดับ 1 ราย เจ็บ 9 คน

               เหตุพายุพัดถล่มเมืองแปดริ้วครั้งนี้ เกิดขึ้นเมื่อเวลา 17.15 น. วันที่ 26 กรกฏาคม 2559 ร.ต.อ.อาทิตย์ ชินวงศ์ รองสารวัตรสอบสวนเวร สภ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา ได้รับแจ้งเกิดเหตุอาคารโรงสีข้าวขนาดใหญ่ ของบริษัทโรงสีศิริพร จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 99 ม.9 ต.หมอนทอง อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา พังถล่มลงมา จนทำให้มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 1 ราย และได้รับบาดเจ็บจำนวน 9 ราย จึงเดินทางไปตรวจสอบ

พายุหมุนถล่มโรงสีข้าวแปดริ้วพังยับ

               ที่เกิดเหตุ เป็นโรงสีข้าวขนาดใหญ่มีอาคารโรงสีเกือบ 10 หลัง ตั้งอยู่บนเนื้อที่กว่า 300 ไร่ บริเวณถนนเลียบบ้านคลอง 19 กลางท้องทุ่ง ที่ด้านหลังลึกเข้าไปจากประตูรั้วด้านหน้าประมาณ 1 กม. พบสภาพของอาคารโรงสีขนาดมหึมาที่กำลังสร้างขึ้นใหม่ใกล้แล้วเสร็จ ขนาดกว้างประมาณ 40 เมตรยาว 280 เมตร พังราบลงมากองอยู่กับพื้นดิน

               โดยมีเศษโครงสร้างโลหะ และสังกะสีเมทัลชีท หลุดออกลงมาจากโครงสร้างเหล็กโครงหลังคากระจายเกลื่อน ที่พื้นคอนกรีตมีรอยแตกร้าวไปทั่วบริเวณ นอกจากนี้ยังมีอาคารเชื่อมต่อกันอีก 1 หลัง ขนาดกว้าง 40 เมตร ยาว 80 เมตร ซึ่งสร้างเสร็จแต่เพียงโครงสร้างโลหะพังลงมาด้วยอีก 1 หลัง และมีทรัพย์สินอีกหลายรายการ เช่น รถยนต์ถูกตัวอาคารล้มทับจนได้รับความเสียหายติดอยู่ภายใต้ซากของอาคาร

พายุหมุนถล่มโรงสีข้าวแปดริ้วพังยับ

               สอบถาม น.ส.ทัชชกร จันทร์เทียน อายุ 36 ปี เจ้าของโรงสีข้าวดังกล่าว (หนึ่งในเครือญาติของกงสี) เปิดเผยว่า ขณะเกิดเหตุตนอยู่ภายในบ้าน ได้รับแจ้งจากคนงานว่าอาคารโรงสีซึ่งจะใช้สำหรับเป็นโกดังเก็บแกลบ ที่กำลังก่อสร้าง ได้ถูกพายุพัดจนพังถล่มลงมา จึงได้ออกมาดูจึงพบว่าอาคารที่กำลังก่อสร้างแล้วเสร็จ และกำลังจะรับการส่งมอบจากผู้รับเหมา ได้พังถล่มลงมาจริงจำนวน 1 หลัง และอาคารที่กำลังก่อสร้างโดยการขึ้นโครงเหล็กหลังคาเสร็จแล้ว ขนาดความกว้าง 40 เมตร ยาว 80 เมตร ก็ได้พังถล่มลงมาด้วย รวมความยาวของอาคารทั้ง 2 หลังประมาณ 320 เมตรได้พังถล่มลงมาพร้อมกันหมด

               “ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิตในที่เกิดเหตุนั้น เป็นคนงานของบริษัทผู้รับเหมาก่อสร้าง ไม่ใช่คนงานของทางโรงสี และตัวอาคารก็ยังไม่ได้รับการส่งมอบมาจากทางผู้รับเหมา ส่วนเศษซากของอาคารก็คงจะต้องให้ทางบริษัทประกันภัย ที่ได้ทำประกันภัยเอาไว้นั้น มาทำการเคลมต่อไป สำหรับสาเหตุนั้นทราบว่าเกิดจากพายุหมุนพัดเข้ามาอย่างรุนแรง จนทำให้อาคารพังถล่มลงมา เนื่องจากมีชาวบ้านในเขตพื้นที่ตัว อ.บางน้ำเปรี้ยว ถ่ายภาพของพายุเอาไว้ได้ และมีการส่งแชร์ต่อกันไปทางโลกโซเชียล อย่างรวดเร็ว 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ