ข่าว

วอนช่วยครอบครัวเก็บของเก่าใช้รถพ่วงแทนบ้าน

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

โซเชียลแชร์วอนช่วยครอบครัวเก็บของเก่าใช้รถพ่วงแทนบ้าน

             เมื่อเวลา 15.30 น.  ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่ามี ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ วิน มาริโอ ได้แชร์เรื่องราวพร้อมภาพถ่ายของครอบครัวเก็บของเก่าขาย โดยเป็นที่น่าสนใจอย่างมากเพราะเด็กๆตัวเล็กทั้งสามคนชายหญิงอาศัยอยู่ในรถพ่วงที่ดัดแปลงเป็นเหมือนกรงเหล็กมีหลังคา โดยผู้ใช้เฟซบุ๊กได้วอนให้มีการช่วยเหลือ จึงติดต่อประสานไปทราบว่า นายทองอินทร์ นันทรัตน์ อายุ 38 ปี เป็นเจ้าของเฟซบุ๊กชื่อ วิน มาริโอ้ โดยประสานพาไปหาที่ครอบครัวดังกล่าวจอดรถพักอยู่บริเวณกำแพงหน้าสนามกีฬาเทศบาลนครเชียงใหม่ พบนายชัยภูมิ หรือชัย นางหน่อ อายุ 60 ปี ผู้เป็นพ่อ และนางนาดะ หรือหมู นางหน่อ อายุ 27 ปี ผู้เป็นแม่กำลังดูแลลูกทั้งสามคนอยู่ คือคนโต เด็กชายชัยสุรินทร์ หรือน้องริน นางหน่อ อายุ 7 ขวบ ลูกคนกลาง เด็กชายศุภณัฐ หรือน้องหมี นางหน่อ อายุ 4 ขวบ และน้องสาวคนสุดท้อง เด็กหญิงรสพร หรือน้องรถพ่วง นางหน่อ อายุ 2 ขวบ อยู่ภายในรถดังกล่าว 

             ทั้งหมดอาศัยชั้นสองของรถลากพ่วงรถจักรยานยนต์เป็นที่อยู่อาศัยโดยดัดแปลงทำหลังคามาจากป้ายเวนิลพลาสติกกันฝนกันลมด้านบน ส่วนฝาผนังทำจากป้ายโฆษณาฟิวเจอร์บอร์ด โดยทั้งหมดจะตระเวนไปเก็บขวดของเก่าตามขยะต่างมาแล้วนำไปขายร้านรับซื้อ โดยเด็กชายศุภณัฐ หรือน้องหมี นางหน่อ อายุ 4 ขวบ ลูกคนกลาง จะมีการ้องงอแงตลอดเพราะโดนน้ำร้อนจากหม้อมาม่าลวกตั้งแต่แขนตัวถึงขาจนพุพองครึ่งตัวตั้งแต่ปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา สอบถามว่ากำลังต้มหม้อน้ำมาม่าเด็กซุกซนจนหม้อน้ำร้อนจัดลวกดังกล่าว วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหรือผู้ใจบุญให้การช่วยเหลือ  

             นายทองอินทร์ นันทรัตน์ อายุ 38 ปี ผู้แชร์เรื่องราว เปิดเผยว่า ตนเองมาทำธุระผ่านไปมาย่านดังกล่าว ต่อมาได้สังเกตเห็นว่า มีเด็กนอนกันอบู่บนรถพ่วงทำเป็นโครงเหล็กหลังคา จึงสนใจว่าทำไมจึงมีเด็กอาศัยนอนกันอยู่ สอบถามจึงทราบเรื่องราวทั้งหมด และได้แชร์เรื่องราวให้คนทราบมาช่วยเหลือกันเพราะเป็นห่วงเด็กๆตัวเล็กๆทั้งสามคนมาก สอบถามทราบว่า บางคนผู้ใหญ่ก็ต้องออกไปเก็บขยะโดยต้องทิ้งเด็กไว้บนพ่วงที่เรียกว่าบ้าน โดยสิ่งสำคัญตอนนี้คือต้องหาบ้านให้เด็กๆและให้เด็กเข้าโรงเรียนให้ได้โดยเฉพาะคนโตที่ยังไม่ได้เรียนหนังสือมีพ่อเท่านั้นที่สอนอ่านเขียน

             เด็กชายชัยสุรินทร์ หรือน้องริน นางหน่อ อายุ 7 ลูกชายคนโต พอพูดรู้เรื่องหน่อย กล่าวว่า บนบ้าน(รถพ่วง)ทุกคนใช้ในการกินนอนบนนั้น และทำกับข้าวบริเวณมุมชั้นล่าง ที่เอาของเก่าและขวดที่เห็บได้มาใส่ไว้ โดยห้องน้ำใช้ในสนามกีฬา โดยบางครั้งทั้งหมดก็เรียนภาษาไทยจากพ่อสอนให้เหมือนห้องเรียนไปในตัวด้วย

             ด้านนายเพชร แซ่เฮง เจ้าของร้านอาม่าขาหมู ซอยสุขเกษม ต.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ที่ให้ครอบครัวดังกล่าวมารับของเก่าไปขาย เปิดเผยว่า รู้สึกสงสารครอบครัวนี้อย่างมาก พร้อมกัยให้ชุดเสื้อผ้าที่ไม่ใช้ไปรวมทั้งของเล่น ส่วนอาหารก็จะทำให้เด็กกินฟรีเพราะสงสารครอบครัวนี้เราทำตามกำลังที่ช่วยเหลือเค้าได้

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ