เพราะอะไรการถอดถอน Binance และ CZ จึงเป็นข่าวดีต่อบริษัท

22 พ.ย. 2023  จากข้อกล่าวหาทางอาญาต่อ Binance และซีอีโอของบริษัทอย่าง Changpeng Zhao (หรือที่รู้จักในชื่อ CZ) ได้สร้างความสั่นสะเทือนให้กับอุตสาหกรรมคริปโต แต่การอนุมัติ Bitcoin ETF ก็มีโอกาสเพิ่มขึ้นเช่นกัน ซึ่งถือเป็นข่าวดีสำหรับเหรียญใหม่อย่าง Bitcoin ETF ($BTCETF)

 
$BTCETF ระดมทุนได้ $1.34 ล้านภายในไม่กี่วัน และมูลค่าในอนาคตของเหรียญก็สอดคล้องกันกับราคาที่จะพุ่งแรงขึ้นหลังการอนุมัติและเปิดตัว Spot Bitcoin ETF 
 

 

เพื่อใช้ประโยชน์จากราคาที่ไม่แพงของเหรียญแห่งนวัตกรรมนี้ ผู้ซื้อจะต้องรีบซื้อให้ไวเพราะรอบระดมทุน ICO จะสิ้นสุดภายใน 48 ชั่วโมงนี้แล้ว ซึ่งจะส่งผลให้ราคาเหรียญเพิ่มขึ้นในรอบที่ 5 ของ ICO จาก $0.0056 เป็น $0.0058 
 

พร้อมด้วยกระดานเทรดระดับโลกอย่าง Binance ในสหรัฐอเมริกา ก็ปิดให้บริการในตลาดเป็นที่เรียบร้อย เพราะถือว่าละเมิดกฎหมายในสายตาของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐอเมริกา (ก.ล.ต.) 

 
ราคา Bitcoin มีการซื้อขายอย่างผิดปกติเมื่อมีข่าวหลุดออกมาเกี่ยวกับข้อกล่าวหาดังกล่าว โดยราคา BTC ลดลงประมาณ 2% ปัจจุบันซื้อขายที่ $36,650 ซึ่งยังอยู่ในช่วงการซื้อขายของสัปดาห์ที่ผ่านมา เหรียญคริปโตชั้นนำที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดจากเหตุการณ์ครั้งนี้คือ BNB ซึ่งเป็นเหรียญหลักของระบบนิเวศกระดานเทรด BNB ซึ่งลดลง 10% เหลือ $235 

แต่ Bitcoin ETF Token ได้รับการออกแบบมาเพื่อรับผลประโยชน์มหาศาลในครั้งนี้ เพราะอนาคตของ Bitcoin ETF จะชัดเจนยิ่งขึ้นหลังจากการล่มสลายของ Biance

Bitcoin ETF Token ถูกออกแบบมาให้เชื่อมโยงมูลค่ากับความคืบหน้าในการอนุมัติ Bitcoin ETF และประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ในอนาคต พร้อมเตรียมที่จะสร้างผลตอบแทนจากเหตุการณ์ล่าสุด 
 

แม้ว่าข้อกล่าวหาในคดีแพ่งของ ก.ล.ต. ต่อ Binance ยังคงอยู่ระหว่างการพิจารณาคดีหลังจากการประนีประนอมของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ โดย Binance และ CZ ก็ได้ยอมรับในข้อหาต่อต้านการฟอกเงินและละเมิดต่อมาตรการคว่ำบาตรเป็นที่เรียบร้อย ถือเป็นก้าวสำคัญในรับสารภาพในข้อกล่าวหาที่ทาง ก.ล.ต. กล่าวโทษว่ามีการกำกับการซื้อขายที่อ่อนแอและมีสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการปั่นราคาในตลาดคริปโต

 
นักวิเคราะห์เหรียญคริปโตบางคนยังเสนอไอเดียขึ้นมาว่าผู้จัดการสินทรัพย์ยักษ์ใหญ่อย่าง BlackRock ซึ่งได้ส่ง Spot Bitcoin ETF เพื่อขออนุมัติจาก ก.ล.ต. ก็ได้มีส่วนร่วมในการผลักดันให้ทางกระทรวงกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ยื่นฟ้องคดีอาญาต่อ Binance และ CZ เช่นกัน

แม้ว่าการกล่าวอ้างดังกล่าวมีแนวโน้มสูงว่าจะไม่เป็นความจริง แต่ BlackRock ก็เป็นที่รู้กันว่ามีความเชื่อมโยงอย่างดีกับสถาบันอำนาจในวอชิงตัน ดี.ซี. เป็นการเชื่อมโยงกันในรูปแบบของบุคคลที่ทำหน้าที่สลับไปมาระหว่างหน่วยงานกำกับดูแลทางการเงินต่างๆ และบริษัทที่พวกเขาควบคุม ซึ่งเป็นแหล่งที่มีการถกเถียงและการเรียกร้องผลประโยชน์ทับซ้อนมาเป็นเวลานาน
 

ไม่ว่าขอบเขตของการเชื่อมต่อที่ไม่เป็นทางการระหว่างทั้งสองหน่วยงานจะเป็นอย่างไร แต่ BlackRock และบริษัทยักษ์ใหญ่อื่นๆ ในโลกการเงินแบบดั้งเดิมที่ตัดสินใจเข้ามาในตลาดคริปโตก็มีแนวโน้มที่จะยินดีที่ Binance ถูกเพิกถอนออกไป

 
ทางกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ชี้ว่าในข้อกล่าวหาต่อ Binance นั้น ก็อาจสามารถขยายธุรกิจระดับโลกได้โดยมีฐานลูกค้าขนาดใหญ่ในสหรัฐฯ สำหรับธุรกิจการซื้อขายที่ไม่ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ตอนนี้ Binance ก็ออกจากตลาดเป็นที่เรียบร้อย (แม้ว่าจะเป็น Binance ที่มีมูลค่าตลาดต่ำกว่ามากก็ตาม) และด้วยธุรกิจกระดานแลกเปลี่ยนในอเมริกาที่ยังเปิดให้บริการอยู่ ซึ่งก็ต่างเสื่อมถอยลงอย่างช้าๆ แต่ทาง BlackRock และ Fidelity ก็จะมีคู่แข่งที่มีศักยภาพให้กังวลน้อยลงไปนั่นเอง

กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ และ ก.ล.ต. กำลังเคลียร์ทางให้ TradeFi เข้าสู่ตลาดคริปโตด้วยคู่แข่งที่น้อยลงหรือไม่?

และไม่ใช่แค่ Binance เท่านั้นที่พ่ายให้กับคดี แต่หน่วยงานกำกับดูแลดังกล่าวก็ได้ทุ่มใช้ข้อบังคับแบบเต็มข้อกับกระดานเทรดคริปโตที่เปิดในสหรัฐอเมริกา: โดยจะต้องจดทะเบียนกับหน่วยงานกำกับดูแลในฐานะกระดานแลกเปลี่ยน โบรกเกอร์ แพลตฟอร์มเพื่อการศึกษา และต้องมีการกำกับดูแล 
 

เมื่อวานนี้ Kraken ถูกตั้งข้อหาโดย ก.ล.ต. จากการเปิดธุรกิจหลักทรัพย์ที่ไม่ได้จดทะเบียน ด้วยภูมิทัศน์การบังคับใช้กฎข้อบังคับนี้ทำให้ TradeFi รายใหม่ได้ก้าวเข้ามาสู่ตลาดคริปโตด้วยข้อได้เปรียบที่เหนือกว่ากระดานเทรดเจ้าแรกๆ ในตลาด
 

เมื่อฝุ่นจางหาย และความวุ่นวายสงบลง ผลกระทบจากข้อกล่าวหาของ Binance ก็จะยิ่งทำให้โอกาสที่ Spot Bitcoin ETF จะได้รับการอนุมัติมีมากยิ่งขึ้น 
 

อีกหนึ่งแพลตฟอร์มที่จะได้รับประโยชน์อีกรายที่อาจจะขัดแย้งกับข้อกฎหมายข้างต้นก็คือ Coinbase ซึ่งเป็นกระดานแลกเปลี่ยนที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับ Binance ทั้งยังอาจถือเป็นกระดานแลกเปลี่ยนที่สอดคล้องกับกฎระเบียบมากที่สุดที่เปิดบริการในสหรัฐอเมริกาหรือประเทศอื่นๆ อีกด้วย แม้ว่าจะมีข้อพิพาททางกฎหมายกับ ก.ล.ต. ในปัจจุบันก็ตาม
 

จงอย่าแปลกใจหากมีการตกลงระหว่าง ก.ล.ต. และกระดานแลกเปลี่ยนที่ใหญ่ที่สุดในอเมริกา 
 

Coinbase ได้รับเลือกจาก BlackRock ให้เป็นพันธมิตรจากข้อตกลงการแบ่งปันการเฝ้าระวัง (SSA) ที่ตกลงกันไปเมื่อไม่นานมานี้ แต่ความสัมพันธ์ระหว่าง TradeFi และ 

Coinbase ก็ถือว่าอยู่ในระดับที่กว้างกว่าความสัมพันธ์ระหว่าง BlackRock มาก
 

บรรดาผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ Coinbase ได้แก่ กองทุนยักษ์ใหญ่อย่าง Vanguard และ Fidelity รวมถึง BlackRock และ Sumitomo Mitsui Trust Bank ของญี่ปุ่น  
 

Bitcoin ETF Token เปิดโอกาสให้เทรดเดอร์สามารถซื้อวันนี้เพื่อรับผลกำไรจากการอนุมัติ Bitcoin ETF ในอนาคต 

ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะลงทุนในสินทรัพย์ที่เชื่อมโยงกับมูลค่าของการเปิดตัว Spot Bitcoin ETF ที่ยังไม่ได้รับการอนุมัติ ยกตัวอย่างก็เช่น คุณควรซื้อ Bitcoin ในตลาดหรือรอจนกว่า ETF แรกจะเปิดตัวและลงทุนในสินทรัพย์ดังกล่าวกันแน่?
 

นอกจากนี้ ยังมีเหรียญปลอมๆ อีกมากมายที่หวังจะเข้ามาโมยเงินจากนักลงทุน เช่น เหรียญ $ETF ที่เพิ่งเปิดตัวไปไม่นาน ซึ่งก็เกิดการดึงพรม (Rug Pull) นักลงทุนในช่วงแรกไป

 

 

โชคดีที่การถือกำเนิดของ Bitcoin ETF Token ทำให้นักลงทุนสามารถตัดสินใจได้ง่ายขึ้นมาก เพียงร่วมสนับสนุน $BTCETF Token ในช่วงพรีเซลล์วันนี้ แล้วคุณก็จะได้โอกาสทำกำไรจากสินทรัพย์ที่สอดคล้องกับแนวโน้มขาขึ้นที่คาดไว้ 100% จากการอนุมัติ ETF ที่กำลังจะเกิดขึ้นในไม่ช้า
 

นักวิเคราะห์เหรียญคริปโตบน YouTube ที่มีชื่อเสี่ยงว่าจากการรายงานข่าวระดมทุน ICO เชื่อว่า $BTCETF Token อาจสามารถทำกำไรได้กว่า 10 เท่าสำหรับนักลงทุนในช่วงแรก 
 

เหรียญ $BTCETF พร้อมเปิดขายในช่วงพรีเซลล์แล้ววันนี้ โดยนักลงทุนสามารถเริ่มสร้างผลตอบแทนได้ทันทีจากการ Staking เพื่อรับผลตอบแทนต่อปี ซึ่งอยู่ที่ 184% ปัจจุบัน 
 

มี $BTCETF จำนวน 144 ล้านเหรียญที่ฝากไว้ในสัญญาอัจฉริยะสำหรับ Staking โดยอัตราผลตอบแทนต่อปีจะได้รับการคำนวณแบบไดนามิกและจะมีการจ่ายรางวัลเป็นระยะเวลาห้าปีด้วยกัน

 

 

ดังที่ได้อธิบายไปก่อนหน้า Bitcoin ETF Token เชื่อมโยงการประเมินมูลค่าไปจนถึงวงจรชีวิตของ Spot Bitcoin ETF
 

ตัวอย่างเช่น กลไกการเผาเหรียญทิ้งจะเชื่อมโยงกันกับเหตุการณ์ในโลกจริงที่เกี่ยวข้องกับข่าว Bitcoin ETF โดยจุดสำคัญเหล่านี้ ได้แก่ การอนุมัติและวันที่เปิดตัว และระดับขอมูลค่าสินทรัพย์ทั้งหมดภายใต้การจัดการ (AUM) ซึ่งส่งผลให้มีการเผาเหรียญทิ้ง
 

เช่น เมื่อปริมาณการซื้อขายของ $BTCETF ถึง $100 ล้าน ภาษีการทำธุรกรรมจะลดลงจาก 5% เป็น 4% และยังมีจุดสำคัญอื่นๆ ที่ถูกวางเผนไว้เป็นอย่างดี เช่น เมื่อ Bitcoin ETF แรกได้รับการอนุมัติ ภาษีการทำธุรกรรมก็จะลดลงจาก 4% เหลือ 3% นั่นเอง

 

 

$BTCETF เป็นสินทรัพย์ที่สมบูรณ์แบบสำหรับพอร์ตการลงทุนเพื่อทำกำไรจากความกลัวพลาด Spot Bitcoin ETF
 

Bitcoin ETF Token ยังมีกลไกการเผาเหรียญเพื่อลดอุปทานเมื่อเวลาผ่านไป ซึ่งจะช่วยรักษามูลค่าของเหรียญได้ เพราะเป็นการลดจำนวนเหรียญทั้งหมดในตลาดลง โดย $BTCETF จะเริ่มจากการปรับใช้การเผนเหรียญทิ้ง 5% ในทุกธุรกรรม สูงสุด 25% ของจำนวนเหรียญทั้งหมดจะถูกเผาทิ้งไป
 

Bitcoin ETF Token มีจำนวนเหรียญทั้งหมด 2.1 พันล้าน (2,100,000,000) โดยเว็บไซต์ของโปรเจกต์ก็มีฟิดข่าวสารที่เป็นประโยชน์ พร้อมช่วยให้คุณได้ติดตามข่าวสารล่าสุดเกี่ยวกับ Bitcoin ETF และราคา Bitcoin ได้

 

 

 

เหรียญ $BTCETF ถือเป็นหนึ่งในวิธีการที่ชาญฉลาดและมีราคาที่ย่อมเยาเพื่อสร้างผลตอบแทนก่อนมหาศาลจากการเปิดตัว Spot Bitcoin ETF โดยเหรียญเปิดขายในช่วงพรีเซลล์ที่ราคา $0.0056 โดยมการตั้งเป้าระดมทุนต่ำสุดอยู่ที่ $4,956,000 ล้าน ซึ่งยิ่งเพิ่มความกลัวพลาด (FOMO) เข้าไปอีกขั้น
 

นักวิเคราะห์ของ Bloomberg Intelligence อย่าง James Seyffart และ Eric Balchunas เชื่อว่าโอกาสที่ Bitcoin ETF จะได้รับการอนุมัติคือ 90% 
 

ในวันที่ 10 ม.ค. กองทุน ARK 21 Shares Bitcoin ETF จะได้รับการพิจารณาโดย ก.ล.ต. และตลาดจะจับตาดูผลการพิจารณาอย่างใกล้ชิด 
 

ไม่ควรเสียเวลาไปมากกว่านี้แล้วที่จะลงทุนใน $BTCETF ที่อาจกลายเป็นหนึ่งในช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์ของตลาดคริปโต Bitcoin ETF Token ถือเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมที่จะเปิดโอกาสให้นักลงทุนได้ทำกำไรจากการลงทุนในเหรียญแบบ Spot Bitcoin ETF แต่คุณก็ควรศึกษาด้วยตัวเองร่วมด้วยเช่นกัน