ข่าว

ประเด็นสิทธิมนุษยชนที่ถูกละเลยกับข้อกฎหมายการส่งตัวกลับประเทศ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ความซับซ้อนของปัญหาสิทธิมนุษยชนที่ถูกมองข้ามรวมถึงการบังคับส่งตัวกลับประเทศนั้นต้องมีการใช้แนวทางที่หลากหลายการให้ความสำคัญกับการตระหนักรู้ที่เพิ่มมากขึ้นขอบเขตกฎหมายที่แข็งแกร่งและกลไกความรับผิดชอบให้มากกว่าเดิม

สำหรับประเด็นปัญหาด้านสิทธิมนุษยชนที่ครอบคลุมอยู่ทั่วโลกประเด็นสำคัญต่างๆ มักจะถูกปิดไว้จากความสนใจของนานาชาติและประเด็นที่เป็นข้อกังวลอีกประการหนึ่งคือการถูกบังคับให้ส่งตัวกลับประเทศที่ถือเป็นการละเมิดและเป็นการทำร้ายจิตใจหรือบางกรณีอาจจะรุนแรงไปถึงร่างกายทำให้บุคคลที่ตกเป็นเป้าต้องลี้ภัยออกจากบ้านเกิด

 

อีกทั้งยังทำให้บุคคลเหล่านั้นตกอยู่ท่ามกลางชีวิตที่ไม่มีความแน่นอนการบังคับส่งตัวกลับประเทศมักจะเป็นกรณีที่เกิดขึ้นแม้ว่าการส่งกลับประเทศต้นทางนั้นอาจจะขัดต่อความประสงค์ของบุคคลดังกล่าวก็ตามซึ่งสิ่งที่อาจจะเกิดตามมาอาจจะส่งผลไม่ดีต่อผู้ถูกกระทำนัก ไม่ว่าจะเป็นการเกิดความเสี่ยงต่อการถูกประหัตประหารความรุนแรงและความไม่มั่นคงในชีวิตยิ่งไปกว่านั้นการถูกปฏิบัติที่ร้ายแรงที่กล่าวมาข้างต้นนั้นอาจจะมีกรณีที่ข้อเท็จจริงถูกปิดบังหรืออาจจะเกิดจากปัญหาการละเลยในเรื่องของสิทธิมนุษยชนที่ถูกมองข้ามไปแต่สำหรับบุคคลผู้ที่ได้รับผลกระทบอาจจะมีความรุนแรงความเจ็บปวดและเป็นบาดแผลที่จะอยู่ในใจของคนเหล่านั้นไปตลอดกาล
 

การบังคับส่งตัวกลับประเทศเกิดขึ้นมากมายโดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีความขัดแย้งหรือภูมิภาคที่ได้รับผลกระทบจากความไม่มั่นคงทางการเมืองผู้ลี้ภัยและที่ต้องหนีออกจากประเทศของตัวเองเพื่อหาความปลอดภัยและการคุ้มครองและในบางครั้งผู้ลี้ภัยเหล่านั้นอาจพบว่าตนเองต้องมาเผชิญกับการถูกบังคับให้ส่งตัวกลับประเทศเนื่องจากประเทศที่ตนลี้ภัยมาต้องจัดการกับภาระของประชากรที่พลัดถิ่นจำนวนมากผู้ลี้ภัยมากมายที่ต้องทนทุกข์กับความบอบช้ำทางจิตใจและความวุ่นวายมามากมายแต่ยังถูกผลักกลับไปสู่สภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยอันตรายซึ่งความปลอดภัยและสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานของคนกลุ่มนั้นอาจถูกบุกรุกอย่างร้ายแรงองค์กรที่เกี่ยวข้องจึงควรผลักดันให้เกิดในการติดตามและป้องกันการส่งตัวผู้ลี้ภัยกลับประเทศมากขึ้นเพื่อเป็นการปกป้องผู้เปราะบางและสนับสนุนหลักการที่บัญญัติอยู่ในกฎหมายสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ

กรณีของนายเฉอจื้อเจียง (SheZhijiang) ที่เกิดขึ้นในประเทศไทยถือเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่มีการเรียกร้องให้ส่งผู้ร้ายข้ามแดนไปยังประเทศจีนโดยกรณีดังกล่าวที่เกิดขึ้นนั้นมีส่วนเกี่ยวข้องกับการพัฒนาเมืองใหม่ย่าไท่ (Yatai) ในรัฐชเวโก๊กโก่ (ShweKokko) ประเทศเมียนมาคำร้องขอส่งผู้ร้ายข้ามแดนตามที่นายเฉอจื้อเจียงกล่าวมานั้นเกิดจากผลประโยชน์ทางการเมืองที่ขัดแย้งกันกรณีของนายเฉอจื้อเจียงแสดงให้เห็นปัญหาเกี่ยวกับกฎหมายระหว่างประเทศและการบังคับส่งตัวกลับประเทศอย่างไม่เหมาะสมในขณะที่เจ้าตัวได้กล่าวว่าตัวเขาได้เปลี่ยนสัญชาติเป็นพลเมืองกัมพูชาแล้วนอกจากนี้นายเฉอจื้อเจียงได้ปฏิเสธอย่างหนักแน่นว่าตนมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีการค้ามนุษย์และการหลอกลวงทางไซเบอร์ในเมืองชเวโก๊กโก่รวมไปถึงการกระทำใดก็ตามที่ที่ผิดกฎหมายและเกี่ยวข้องกับความเป็นพลเมืองเสรีภาพในย้ายถิ่นสิทธิมนุษยชนซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงชะตากรรมของตัวเขาเองด้วย


หากพูดถึงผลกระทบมีผู้คนจำนวนไม่น้อยจากทั่วโลกที่ได้รับผลกระทบจากการถูกบังคับให้ส่งตัวกลับและผู้คนเหล่านี้มักถูกละเลยถูกมองเป็นคนนอกจากกระบวนการการพิจารณาคดีต่างๆ กรณีการถูกบังคับให้ส่งตัวกลับประเทศได้ส่งผลต่อวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมรวมไปถึงการกัดกร่อนมรดกทางวัฒนธรรมและการถูกปฏิเสธสิทธิในการตัดสินใจของบุคคลเหล่านั้นอีกด้วย


กล่าวโดยสรุปคือความซับซ้อนของปัญหาสิทธิมนุษยชนที่ถูกมองข้ามรวมถึงการบังคับส่งตัวกลับประเทศนั้นต้องมีการใช้แนวทางที่หลากหลายการให้ความสำคัญกับการตระหนักรู้ที่เพิ่มมากขึ้นขอบเขตกฎหมายที่แข็งแกร่งและกลไกความรับผิดชอบให้มากกว่าเดิมสิ่งเหล่านี้จึงเป็นสิ่งจำเป็นในการต่อสู้กับการละเมิดที่ร้ายแรงเช่นนี้เพื่อให้ชะตากรรมของผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการถูกบังคับให้ส่งตัวกลับประเทศและการสนับสนุนสิทธิของบุคคลดังกล่าวการให้ความสนใจและความมุ่งมั่นที่จะสร้างโลกที่ทุกคนจะต้องได้รับเกียรติศักดิ์ศรีความปลอดภัยและความเคารพที่ทุกๆ คนพึงได้รับไม่ว่าสถานการณ์หรือต้นกำเนิดของคนเหล่านั้นจะเป็นอย่างไรก็ตาม

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ