Lifestyle

ไทยจับมือสหรัฐฯ สานต่อความร่วมมือบ้านเชียง ฉลอง 185 ปี

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

....

ไทยจับมือสหรัฐฯ สานต่อความร่วมมือบ้านเชียง ฉลอง 185 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูต

กระทรวงการต่างประเทศร่วมกับกรมศิลปากร โดยพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติบ้านเชียง และคณะโบราณคดีมหาวิทยาลัยศิลปากร จัดกิจกรรมเพื่อเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 185 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-สหรัฐฯ    ในปี 2561 ด้วยการนำเสนอความสำเร็จของการสำรวจและศึกษาวิจัยแหล่งโบราณคดีบ้านเชียง ในการบรรยายพิเศษโดยหน่วยงานที่มีส่วนสำคัญในการสำรวจ ได้แก่ คณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร และสถาบันโบราณคดีภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (Institute for Southeast Asian Archaeology - ISEAA) ของสหรัฐฯ

กรมอเมริกาและแปซิฟิกใต้ได้เชิญ ดร. Joyce White ผู้อำนวยการ ISEAA และหนึ่งในบุคคลสำคัญที่ร่วมอยู่ในคณะขุดสำรวจแหล่งโบราณคดีบ้านเชียงไทย-สหรัฐฯ เมื่อปี พ.ศ. 2517 พร้อมด้วย ดร. Marie-Claude Boileau ผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องปั้นดินเผา และนักวิชาการประจำพิพิธภัณฑ์แห่งมหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย เดินทางมาประเทศไทยระหว่างวันที่ 17-23 กันยายน 2561 ในฐานะวิทยากรพิเศษ เพื่อนำเสนอองค์ความรู้ใหม่และนวัตกรรมในการศึกษาวิจัยแหล่งโบราณคดีบ้านเชียง โดยเฉพาะการใช้แนวทางพหุสาขา (multidisciplinary approach) อาทิ โบราณโลหะวิทยา พฤกษศาสตร์โบราณคดี เพื่อช่วยเพิ่มมิติการเรียนรู้และความเข้าใจที่กว้างและลึกซึ้งยิ่งขึ้นเกี่ยวกับวิถีชีวิต สังคม และวัฒนธรรมของผู้คนที่อาศัยในพื้นที่บ้านเชียงและบริเวณใกล้เคียงในยุคก่อนประวัติศาสตร์

กิจกรรมสำคัญที่จัดขึ้น ได้แก่ การบรรยายพิเศษ “บทเรียนจากบ้านเชียงในการแก้ไขปัญหาโลก” โดย ดร. Joyce White ในวันที่ 19 กันยายน 2561 ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร และการสัมมนาวิชาการระหว่างวันที่ 20-21 กันยายน 2561 ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติบ้านเชียง จ. อุดรธานี โดยมีผู้แทนส่วนราชการด้านประวัติศาสตร์และโบราณคดี อาจารย์ นักศึกษา ผู้ประกอบอาชีพด้านการท่องเที่ยว และสื่อมวลชนจากส่วนกลางและ จ.อุดรธานีเข้าร่วม

ความร่วมมือไทย-สหรัฐฯ เกี่ยวกับแหล่งโบราณคดีบ้านเชียงดำเนินมากว่า 50 ปี นับจากที่นาย Stephen Young บุตรชายอดีตเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทยได้พบกลุ่มหม้อไหโบราณที่ทับถมกันอยู่ในพื้นที่ของตำบลบ้านเชียง อำเภอหนองหาน จังหวัดอุดรธานี โดยบังเอิญ ซึ่งนำไปสู่การร่วมขุดสำรวจพื้นที่และศึกษาวิจัยระหว่างกรมศิลปากรกับมหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนียของสหรัฐฯ ซึ่งให้ภาพแหล่งอารยธรรมในช่วงยุคหินใหม่ที่มีอายุประมาณ 5,000 ปีก่อนประวัติศาสตร์ ความสำคัญของแหล่งโบราณคดีบ้านเชียงได้รับการยอมรับจากองค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) ซึ่งได้ขึ้นทะเบียนแหล่งโบราณคดีบ้านเชียงให้เป็นมรดกโลกแห่งที่ ๔ ของไทย เมื่อปี พ.ศ. 2535

ความร่วมมือไทย-สหรัฐฯ เกี่ยวกับแหล่งโบราณคดีบ้านเชียงมีความคืบหน้าและประสบความสำเร็จด้วยดีโดยส่วนหนึ่งเป็นเพราะการดำเนินตามพระราชปรารภในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร เมื่อครั้งเสด็จพระราชดำเนินยังพื้นที่ขุดสำรวจเมื่อปี พ.ศ.2515 ซึ่งทรงย้ำถึงความสำคัญของการร่วมศึกษาวิจัยเชิงวิทยาศาสตร์ระหว่างหน่วยงานไทยกับต่างประเทศเพื่อพัฒนาองค์ความรู้ด้านวิชาการและเผยแพร่ข้อมูลไปพร้อม ๆ กับการสร้างจิตสำนึกอนุรักษ์ให้ชาวบ้านในพื้นที่และผู้มาเยี่ยมชม สายสัมพันธ์ไทย-สหรัฐฯ ที่ผูกโยงผ่านเรื่องราวของโบราณคดีบ้านเชียงจึงเป็นตัวอย่างสำคัญที่สะท้อนว่าภาคประชาชนสามารถเป็นได้ทั้งจุดเริ่มต้น ปัจจัยขับเคลื่อน และปลายทางของความร่วมมือที่เกิดประโยชน์ซึ่งกันและกัน รวมทั้งเป็นผู้มีบทบาทสำคัญที่จะร่วมสืบสานและอนุรักษ์มรดกโลกแห่งนี้ให้คงคุณค่าสืบไป

การบรรยายพิเศษเรื่องบทเรียนจากบ้านเชียงเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมที่ฝ่ายไทยและสหรัฐฯ จัดขึ้นเพื่อร่วมเฉลิมฉลองในโอกาสครบรอบ 185 ปีความสัมพันธ์ทางการทูต ซึ่งรวมถึงการจัดนำคณะบุตรหลานชาวอเมริกันของคู่แฝดสยามอิน-จันจากประเทศไทยซึ่งเป็นที่รู้จักกันไปทั่วโลก มาเยือนประเทศไทยเมื่อช่วงต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ตลอดจนในวันนี้ กระทรวงการต่างประเทศจะจัดงานเลี้ยงรับรอง Two Centuries of Thai-US Friendship and 185 Years of Diplomatic Relations และการบรรเลงเพลงพระราชนิพนธ์ขึ้นที่หอสมุดรัฐสภาสหรัฐฯ (Library of Congress) โดยมีนายวีระศักดิ์ ฟูตระกูล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศในฐานะผู้แทนรัฐบาลไทย คุณ Tammy Duckworth วุฒิสมาชิกสหรัฐฯ (รัฐอิลินอยส์) และผู้บริหารบริษัทเอกชนชั้นนำของไทยเข้าร่วม

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ