พาลุย 5 กิจกรรมที่ไม่ควรพลาด ในงาน TI EXPO 2018

พาลุย 5 กิจกรรมที่ไม่ควรพลาด ในงาน TI EXPO 2018

 

เป็นอีกอีเวนต์ที่ไม่ควรพลาดสุดสัปดาห์นี้ สำหรับ Thailand Industry Expo  หรือที่เรียกกันติดปากว่างาน ti EXPO ซึ่งถือเป็นงานโชว์ด้านอุตสาหกรรมระดับประเทศที่จัดเป็นประจำทุกปีติดต่อกันมาเป็นปี่ที่ 5 แล้ว โดยกระทรวงอุตสาหกรรม

ซึ่งปีนี้ การจัดงานมาแบบกระหึ่ม เรียกได้ว่าอลังการงานสร้างมากๆ เพราะปีนี้เขามาให้ธีมเข้มสุดๆ ในชื่อ Change to Shift เปลี่ยนเพื่อปรับ ยกระดับอุตสาหกรรมไทย

แต่จริงๆ แล้วงานนี้ไม่ได้มีแต่เรื่องอุตสาหกรรมหนักๆ อย่างที่หลายคนคิด เพราะยังมีหลากหลายกิจกรรมที่น่าสนใจและไม่ควรพลาดมากมาย ที่เราไม่ค่อยได้เห็นจากที่ไหน

ทั้ง รวมทั้งสัมมนาที่ให้เทคนิคแนวคิดด้านการทำธุรกิจจากกูรูดังๆ ไปจนถึงการออกบู๊ทของร้านรวงแบรนด์ไทยจากทั่วทุกภูมิภาคที่ขนกันมาให้ชมและช็อปในงาน

 

1. สัมผัสโชว์เคสสุดเจ๋ง เรียนรู้นวัตกรรมสุดล้ำ

 

เรียกได้ว่าเป็นไฮไลท์หลักในงาน ti EXPO 2018 คือการนำ Showcase เด็ดๆ จากเทคโนโลยีสุดล้ำหน้า และจากผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จตัวจริงเสียงจริงทั้งในประเทศและต่างประเทศมาโชว์โฉมในงาน

ซึ่งโซนแรกที่เราเข้าไปชม เรียกได้ว่าเป็นแม่เหล็กสำคัญที่ของงาน เพราะมันคือการ “ยก” ศูนย์ปฏิรูปอุตสาหกรรม 4.0 หรือ Industry Transformation Center (ITC)  มาจากสำนักงานใหญ่ที่กล้วยน้ำไทยมาไว้ที่นี่  

มีทั้งเครื่องมือและอุปกรณ์ที่ให้คนไทยสามารถเข้ามาใช้ฟรี ไม่ว่าจะเป็น เครื่อง 3D Printing ที่สามารถทำ prototype เครื่องฉีดพลาสติกโลหะ มีโรโบติค และยังให้คำแนะนำเรื่องการออกแบบผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ให้ผู้ประกอบการ SMEs หรือ Start Up ที่สนใจ

 

ในงานนี้ ยังมีการนำผลงานโชว์เคสทั้งจากหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และวิชาการการศึกษา ที่มาร่วมจัดแสดงใน 3 เซ็คเตอร์อุตสาหกรรมเป้าหมายสำคัญของประเทศ ได้แก่

 

Agro-Inno SHIFT โซนสำหรับผู้ประกอบการเกษตรและคนที่สนใจเรื่อง Smart Farmer ในงานจะมีการจัดโชว์เกี่ยวกับเรื่องเทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านการเกษตรยุคใหม่ทั้งของคนไทยและต่างประเทศ นอกจากนี้ยังมีบริการให้คำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีการทำเกษตรอุตสาหกรรมครบวงจร

 

 

Manufacture-Inno SHIFT  โซนนี้จะเป็นการจัดแสดงเทคโนโลยี โรงงานอุตสาหกรรม 4.0 ด้านกระบวนการผลิตในภาคอุตสาหกรรมต่างๆ มีทั้งเทคโนโลยีช่วยทั้งเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุนการผลิต ลดการซ้ำซ้อนในกระบวนการ เป็นต้น

Service-Inno SHIFT ไฮไลท์ที่น่าสนใจมากคือนวัตกรรมรถพยาบาลกู้ชีพขั้นสูงที่ออกแบบและพัฒนาโดยฝีมือคนไทย อีกอันนคือผลงานจากสตาร์ทอัพคนไทย I can do ที่คว้ารางวัลผลิตภัณฑ์นวัตกรรมดีเด่นมาแล้ว กับการพัฒนาผ้าอ้อมผู้ใหญ่ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและเครื่องมือกายภาพสำหรับผู้ป่วยและผู้สูงอายุ

 

University & Maker ต่อมาเป็นโซน University & Maker โซนนี้คือการโชว์บทบาทและผลงานการพัฒนาของมหาวิทยาลัยยุคใหม่กับการ Transform ภาคธุรกิจและอุตสาหกรรม การพัฒนานวัตกรรมและงานวิจัยสู่เชิงพาณิชย์ จาก 9 มหาวิทยาลัยไทย นอกจากนี้มีผลงานจาก Maker Club โดยในงานนี้จะมีการประกวดสิ่งประดิษฐ์ และโชว์ผลงานสิ่งประดิษฐ์และนวัตกรรมฝีมือคนไทยตลอดงานทีเดียว

Big Brother  หลายคนอาจไม่รู้ว่างานนี้ไม่ได้มีแต่ SMEs เท่านั้นที่มาในงาน เพราะเรายังได้เห็นบูทโชว์นวัตกรรมล้ำๆ จากบรรดาแบรนด์ดังองค์กรพี่ใหญ่ ทั้งบรรดาค่ายรถยนต์ทุกค่ายที่มา อาทิ โตโยต้า ฮอนด้า มาสด้า มิตซูบิชิ เป็นต้น รวมถึงบูทของเอสซีจี เครือเบทาโกร น้ำตาลมิตรผล และอีกหลากหลายที่ขนเอานวัตกรรมเทคโนโลยีการผลิตล้ำๆ มาให้ชม

2. ขอสินเชื่อเพื่อ SMEs

ได้ความรู้กันไปแล้ว ก็ต้องมาต่อที่การหา “ทุน” เพื่อทำธุรกิจ ซึ่งในงานนี้ ใครที่เป็น SMEs ไม่ว่าจะรายเล็กหรือใหญ่ หรือย่อย ก็สามารถหอบเอกสารหรือเดินเข้าไปปรึกษาพูดคุย ตลอดจนยื่นขอสินเชื่อจากกองทุนประชารัฐ หรือหากไม่พอ ก็ยังมีบูทจากเหล่าธนาคารพาณิชย์มากมายที่คอยให้คำปรึกษาด้านสินเชื่อและการเงินแบบ One stop Service ในงาน

3. ช็อป Premium Outlet

ช็อปกันชิลๆ ที่โซนนี้ เพราะเป็นรวบรวมเอาสินค้าจากผู้ประกอบการไทยที่บางผลิตภัณฑ์นี่เราแทบไม่เคยเห็น เพราะเขาส่งออกนอกเป็นหลัก ซึ่งยกกันมาเป็นคลัสเตอร์ และวิสาหกิจชุมชน ไม่ว่าจะเป็นคลัสเตอร์ผู้ประกอบการ Food Truck, กลุ่มคลัสเตอร์มะพร้าว เป็นต้น

แต่สำหรับคลัสเตอร์ที่ดูจะเรียกความสนใจเป็นพิเศษน่าจะเป็นโซนกลุ่มผู้ปลูกและผลิตภัณฑ์กาแฟจากผู้ประกอบการเจ้าดังทั่วประเทศ มาตั้งโดดเด่นกลางงาน คอยส่งกลิ่นกาแฟหอมๆ ยวนใจมาก ทั้งจากร้านภูมิสิทธิ์ Coffee Hub ที่ขนเมล็ดกาแฟสดๆ มาทำการคั่วโอ่งให้เห็นจะๆ ทั้งจากแทบทุกดอยในเมืองไทย อาทิ ดอยช้าง ฯลฯ ก็มารวมตัวกันที่งานนี้

            นอกจากนี้สำหรับขาชิมไม่ต้องเป็นกังวล เพราะในงานยังมีหลากหลายอาหารเลิศรสจากทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทยที่นำมาตั้งไว้ในงานให้เลือกกันตามความชอบใจ

 

4. ฟังสัมมนาเพลินๆ  

เป็นอีกกิจกรรมที่อยากแนะนำอย่างยิ่ง เพราะตลอด 4 วันของการจัดงาน ในแต่ละเวทียังได้จัดสัมมนาดีๆ  ที่น่าสนใจและได้ความรู้มากมาย อาทิ

สัมนาติดปีกธุรกิจออนไลน์ กับ Shopee      เรียนรู้ธุรกิจออนไลน์แบบก้าวกระโดด บนเวที Main Stage ในวันที่ 3 สิงหาคม 2561 เวลา 13.00-16.00 น. ติวเข้มแบบตัวต่อตัว โดย สุรางคนา น้อมคำนับ ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท ช้อปปี้ (ประเทศไทย) จำกัด ที่จะมาแนะนำการเปิดร้านใน Shopee พร้อมเคล็ดลับการขาย  เทคนิคการดึงดูดฐานลูกค้าเข้าสู่ Online Commerce Platform

วันที่ 5 สิงหาคม 2561 นี้ เวลา 13.00-15.00 น. บนเวที Service Stage จะมีการจัดเสวนาเรื่อง “ผ้าไทย” กับความร่วมสมัยสู่ยุคดิจิทัล ที่จะมาถ่ายทอดเคล็ดลับเทคนิคการออกแบบผลงานสร้างสรรค์ที่หลากหลายโดยใช้ผ้าไทยจากเหล่ากูรูวงการออกแบบและผ้าไทย อาทิ ผศ.ดร.อโณทัย ชลชาติภิญโญ จิตต์สิงห์ สมบุญ  เอก ทองประเสริฐ หิรัญกฤษฎิ์ ภัทรบริบูรณ์กุล คนชอบผ้าไทยอย่าพลาด

 

Social Innovation? คืออะไรสัมมนาที่จะมาช่วยให้คุณทำความเข้าใจคำว่า Innovation อย่างตกผลึก ว่าคืออะไร พร้อมพบกรณีตัวอย่าง Social Innovation เวลา 10.00-12.00 น. วันที่ 4 สิงหาคม 2561

โคโค่ เมล่อน” ฟาร์มยุค IoT พบเรื่องราว Success Story จากเกษตรกร 4.0 ที่นำนวัตกรรมและเทคโนโลยี Internet of Thing มาสร้างผลิตผลการทำเกษตร  ‘โคโค่ เมล่อน ฟาร์ม’ ที่ปัจจุบันเขาสามารถสร้างรายได้จากการปลูกเมล่อนไม่ต่ำกว่าล้านบาท ของ ณัฐ มั่นคง  อดีตบัณฑิตบริหารธุรกิจมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ผู้ผันตัวมาเป็น Smart Farmer บนเวที Agro Stage ในวันที่ 5 สิงหาคม 2561 เวลา 10.00-12.00 น

 

5. ชมคอมเสิร์ตสุดมันส์

บอกแล้วว่างานนี้ไม่ได้มีแต่เรื่องวิชาการหนักๆ อย่างเดียว หากใครเบื่อที่เดินชม หรืออยากผ่อนคลายก็ยังสามรถแวะความรับความบันเทิงเต็มที่ได้ที่เวทีหลักของงาน กับคอนเสิร์ตจากศิลปินดังที่มาคอยสร้างสีสันและความสดใสให้งานได้อย่างดี

โดย วันที่ 3 สิงหาคม พบกับลิเดีย ส่วน 4 สิงหาคม พบกับน้องๆ BNK48 และวันที่ 5 สิงหาคมพบกับแสตมป์ อภิวัช เอาเป็นว่าเลือกชมได้ตามอัธยาศัยได้ในงานนี้

เพราะอัดแน่นด้วยกิจกรรมทั้งความรู้และความบันเทิงมากมายให้เราเลือกได้ ตลอด 4 วันในงาน Thailand Industry Expo 2018 .. Change to Shift 2-5 สิงหาคม 2561 นี้ ณ อิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ 2-3 เมืองทองธานี