Lifestyle

"อินเดีย" รับขึ้นทะเบียน “ผ้าไหมยกดอกลำพูน” เป็นสินค้า GI

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

....

ไทยเฮรับปีใหม่! “อินเดีย” ต้นกำเนิดผ้าทอแบบยกดอกของเอเชีย รับขึ้นทะเบียน “ผ้าไหมยกดอกลำพูน” เป็นสินค้า GI แล้ว

 

​กรมทรัพย์สินทางปัญญา เผยข้อมูลการส่งเสริมการขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) ของไทยในต่างประเทศซึ่งล่าสุดประเทศอินเดียได้ประกาศขึ้นทะเบียน “ผ้าไหมยกดอกลำพูน” เป็นสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) ณ ประเทศอินเดียเรียบร้อยแล้วเมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา ด้านอธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญาเปิดเผยว่า การประกาศดังกล่าวถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีและน่าภาคภูมิใจที่ต่างชาติยอมรับในคุณภาพและเอกลักษณ์ของสินค้าไทยอย่าง
ผ้าไหมยกดอกลำพูน โดยเฉพาะประเทศอินเดียซึ่งเป็นต้นกำเนิดของการทอผ้าแบบยกดอกในภูมิภาคเอเชียนี้

 

​​นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา เปิดเผยว่า “เป็นที่น่ายินดีอย่างยิ่งที่ประเทศอินเดียได้ประกาศขึ้นทะเบียนผ้าไหมยกดอกลำพูนของไทยเป็นสินค้า GI 
ณ ประเทศอินเดีย อย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2560 ที่ผ่านมา หลังจากที่ประเทศไทย โดยความร่วมมือของกรมทรัพย์สินทางปัญญา กรมหม่อนไหม และสถาบันผ้าทอมือหริภุญชัย                   ได้ยื่นคำขอไปยังประเทศอินเดียตั้งแต่วันที่ 16 ตุลาคม 2558 ถือเป็นอีกความพยายามที่กรมฯ              ร่วมผลักดันให้เกิดความคุ้มครองสินค้า GI ไทยในเวทีต่างประเทศ และเป็นอีกหนึ่งในความภูมิใจของประเทศไทยที่สินค้า GI ไทยได้รับการยอมรับในเวทีระดับสากล”

 

​นายทศพล กล่าวเพิ่มเติมว่า “ผ้าไหมยกดอกลำพูนได้รับการขึ้นทะเบียน GI 
ในต่างประเทศแล้ว 2 ประเทศ โดยอินเดียนับเป็นประเทศที่ 2 ต่อจากประเทศอินโดนีเซียที่รับ
ขึ้นทะเบียนไปตั้งแต่วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2559 ถือเป็นการยอมรับในคุณภาพและเอกลักษณ์สินค้าหัตถกรรมไทย โดยเฉพาะเอกลักษณ์ในการทอผ้าไหมยกดอกลำพูนว่า ไม่เหมือนที่ใดในโลก เพราะมีการทอลวดลายให้สูงกว่าผืนผ้า โดยยกไหมบางเส้น ข่มบางเส้น ใช้ตะกอลอย และใช้เส้นไหม
ตีเกลียวเป็นทั้งเส้นยืนและเส้นพุ่ง รวมทั้งมีเส้นไหมเพิ่มพิเศษในการทอยกให้เกิดลวดลาย มี
จุดกำเนิดจากการเข้ามาในลำพูนของชนชาวยอง ที่ได้นำวิทยาการแขนงต่างๆ โดยเฉพาะการ
ทอผ้าซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของชนชาวยองชั้นสูง เป็นมรดกทางหัตถกรรมล้ำค่าของชนชั้นเจ้าชาวยองที่สืบทอดต่อกันมา และนำเข้ามาผลิตในจังหวัดลำพูน”

 

“ปัจจุบันกรมทรัพย์สินทางปัญญา อยู่ระหว่างส่งเสริมให้มีการขึ้นทะเบียน GI ในต่างประเทศ 6 สินค้า ใน 3 ประเทศประกอบด้วย ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ได้แก่ ข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ มะขามหวานเพชรบูรณ์ และส้มโอทับทิมสยามปากพนัง ประเทศกัมพูชา ได้แก่ กาแฟดอยตุง และประเทศเวียดนาม ได้แก่ มะขามหวานเพชรบูรณ์ และลำไยอบแห้ง
เนื้อสีทองลำพูน เพื่อส่งเสริมให้สินค้าไทยได้รับการคุ้มครองในต่างประเทศ และพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากของประเทศไทยอย่างยั่งยืนต่อไป” นายทศพล กล่าวทิ้งท้าย

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ