รมว.พม. ตรวจเยี่ยม กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ

รมว.พม. ตรวจเยี่ยม พก. พร้อมเน้นการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการอย่างยั่งยืน โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง 
 
วันนี้ (6 ธ.ค. 60) เวลา 13.30 น. นายณรงค์ คงคำ โฆษกกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เปิดเผยว่า พลเอก อนันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) ตรวจเยี่ยมกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ (พก.) พร้อมรับฟังบรรยายสรุปภารกิจในภาพรวมของ พก. โดยมี นายสมคิด สมศรี อธิบดี พก. เป็นผู้นำบรรยายสรุป จากนั้น มอบนโยบายและแนวทางการดำเนินงานตามภารกิจของ พก. นอกจากนี้ ได้ตรวจเยี่ยมอาคารสถานที่ พร้อมพบปะพูดคุยกับข้าราชการและเจ้าหน้าที่ พก. เพื่อสร้างขวัญกำลังใจในการปฏิบัติงาน ณ อาคาร 60 ปี กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ภายในบริเวณสถานสงเคราะห์เด็กหญิงบ้านราชวิถี ถนนราชวิถี เขตราชเทวี กรุงเทพฯ
         

พลเอก อนันตพร กล่าวว่า สำหรับวันนี้ (6 ธ.ค. 60) ตนได้ตรวจเยี่ยม พก. ซึ่งเป็นหน่วยงานในสังกัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) โดยมีภารกิจหลักในการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ซึ่งมีพันธกิจในการขับเคลื่อนนโยบายการพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการของชาติสู่การปฎิบัติอย่างบูรณาการ และพัฒนาองค์กรด้านคนพิการของประเทศไทยให้มีศักยภาพในการพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการและมีความเข้มแข็งสามารถดำเนินงานอย่างมีมาตรฐาน อีกทั้งเสริมสร้างสังคมที่ปราศจากอุปสรรคต่อคนพิการเพื่อให้คนพิการได้เข้าถึงและใช้ประโยชน์ รวมถึงขจัดการเลือกปฎิบัติโดยไม่เป็นธรรมต่อคนพิการ ทั้งนี้ พก. มีอัตรากำลังขับเคลื่อนงานจำนวนทั้งสิ้น 1,504 คน ซึ่งมีหน่วยงานในสังกัด พก. ได้แก่

1) ศูนย์พัฒนาศักยภาพและอาชีพคนพิการจำนวน 8 แห่ง  2) ศูนย์ส่งเสริมอาชีพคนพิการ (โรงงานปีสากล) จำนวน 1 แห่ง  3) สถานคุ้มครองและพัฒนาคนพิการ จำนวน 11 แห่ง และ 4) ศูนย์พัฒนาศักยภาพบุคคลออทิสติก จำนวน 2 แห่ง โดยใช้กลไกของพระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ พ.ศ. 2550 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) มาตรา 20 กำหนด     ให้คนพิการมีสิทธิเข้าถึงและใช้ประโยชน์ได้จากสิ่งอำนวยความสะดวก สวัสดิการ และความช่วยเหลืออื่นจากรัฐ และดำเนินนโยบายสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ 20 ปีของรัฐบาล การลดความเหลื่อมล้ำในสังคม เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน SDGs “ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง” (Leave no one behind) ควบคู่ไปกับแผนพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการแห่งชาติ ฉบับที่ 5 พ.ศ. 2560 - 2564 ภายใต้วิสัยทัศน์ “คนพิการดำรงชีวิตอิสระร่วมกับทุกคนในสังคมอย่างมีความสุข สามารถเข้าถึงสิทธิอย่างเสมอภาคและเท่าเทียมกัน” โดยบูรณาการความร่วมมือตามแนวทางประชารัฐระหว่างหน่วยงานทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม  
         

พลเอก อนันตพร กล่าวต่อไปว่า ปัจจุบันมีคนพิการที่ขึ้นทะเบียนและมีบัตรประจำตัวคนพิการ จำนวน 1.8 ล้านคน ซึ่งคนพิการเหล่านี้ มีสิทธิได้รับการรักษาพยาบาลและการศึกษา โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย รวมทั้งบริการและสวัสดิการต่างๆ อาทิ 1) การเพิ่มเบี้ยความพิการ จาก 500 บาท เป็น 800 บาท  2) ล่ามภาษามือสำหรับคนพิการทางการได้ยิน  3) การปรับสภาพที่อยู่อาศัย  4) การจัดให้มีผู้ช่วยคนพิการ  5) การจัดสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับคนพิการ ด้วยการขยายพื้นที่อารยสถาปัตย์ทั่วประเทศ  6) การพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีสิ่งอำนวยความสะดวก เครื่องฝึกช่วยเดินสำหรับคนพิการ I-walk  7) การสนับสุนนเงินกู้ยืมจากกองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ รายละ 60,000 – 120,000 บาท โดยไม่เสียดอกเบี้ย  8) การจ้างงานคนพิการ ด้วยอัตราส่วนพนักงาน 100 คน ต่อคนพิการ 1 คน ปัจจุบัน ภาคเอกชนมีการจ้างงานคนพิการมากกว่าร้อยละ 90 ส่วนภาครัฐ เร่งรณรงค์ให้ดำเนินการให้ครบภายในปี 2561   9) การลดหย่อนภาษีสำหรับผู้ดูแลคนพิการ  10) การช่วยเหลือทางกฎหมายแก่คนพิการ  11) การส่งเสริมความเข้มแข็งให้องค์กรด้านคนพิการ และ 12) การพัฒนาศักยภาพนักร้องนักดนตรีตาบอดในที่สาธารณะ (From Street to Stars หรือ S2S) โดยมีกองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ เป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนงานด้านคนพิการ
           

“ทั้งนี้ พก. นับเป็นหน่วยงานหลักในการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการอย่างต่อเนื่อง และเพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนในการพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการอย่างเป็นธรรมและทั่วถึงทุกพื้นที่ โดยในปี 2561 พก. มีแผนการดำเนินงานส่งเสริมให้คนพิการไทยได้รับการพัฒนาคุณภาพชีวิตอย่างรอบด้าน โดยเฉพาะการจัดตั้งศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาชีวิตคนพิการระดับประเทศและอาเซียน เพื่อเป็นศูนย์ต้นแบบในการจัดบริการสำหรับคนพิการ  การจ้างงานคนพิการครบ 100 %  ศูนย์บริการคนพิการทั่วประเทศ บริการศูนย์สายด่วน 1479 เพื่อคนพิการทั้งมวล การขยายพื้นที่ชุมชนต้นแบบอารยสถาปัตย์ครบทุกจังหวัด การพัฒนาศักยภาพนักร้องนักดนตรี S2S สู่ระดับสากล  และการจัดบริการสุนัขนำทางครั้งแรกในประเทศไทย อย่างไรก็ตาม ตนได้เน้นย้ำให้ พก. ดำเนินงานด้านคนพิการให้เป็นไปตามแผนงานให้ที่กำหนดไว้ เพื่อให้คนพิการได้รับสิทธิและสวัสดิการของรัฐอย่างเต็มที่ รวมทั้งได้กำชับให้บริหารจัดการกองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ โดยการพิจารณาเป้าหมายที่ชัดเจนตามความเร่งด่วนของโครงการต่างๆ อย่างคุ้มค่าและตามความเหมาะสม อีกทั้งบูรณาการร่วมกับภาคเอกชน และองค์กรด้านคนพิการในการดำเนินงานต่างๆ เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อคนพิการอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป”  พลเอก อนันตพร กล่าวในตอนท้าย