กระทรวงทรัพยฯ เดินหน้าพัฒนาระบบกระจายน้ำ ส่งน้ำต้นทุน สนับสนุนภาคเกษตรกรรม ช่วยคนไทย เข้าถึงน้ำกินน้ำใช้
รัฐบาลภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีความมุ่งมั่นในการสร้างความมั่นคงด้านน้ำ ทั้งเพื่อการอุปโภค บริโภคของประชาชน ภาคการเกษตร อุตสาหกรรม รวมทั้งการรักษาระบบนิเวศ และคุณภาพน้ำ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน ช่วยให้คนไทยเข้าถึงน้ำ ลดความเหลื่อมล้ำ และคนไทยมีสิทธิ์เข้าถึงน้ำอุปโภค บริโภค และทำการเกษตรอย่างเท่าเทียมกัน
๐ โครงการพัฒนาระบบการกระจายน้ำ
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เดินเครื่องเต็มพิกัด กับ “โครงการพัฒนาระบบกระจายน้ำ” เร่งติดตั้งปั๊มน้ำพลังงานแสงอาทิตย์ เพื่อดึงน้ำจากแหล่งน้ำผิวดิน คือ ห้วย หนอง คลอง บึง และจากแหล่งน้ำบาดาล วางระบบท่อกระจายน้ำสู่ชุมชน ปล่อยน้ำกระจายผ่านระบบท่อส่งไปให้ประชาชนใช้อุปโภคบริโภค รวมถึงใช้สำหรับทำการเกษตรน้ำน้อย โดยตั้งเป้าในปี 2560 ครอบคลุม 87 แหล่งน้ำผิวดิน 28 จังหวัด และแหล่งน้ำบาดาลอีก 3,888 แห่ง ใน 73 จังหวัด
ข้อดีของการสร้างระบบกระจายด้วยพลังงานแสงอาทิตย์
1.ไฟฟ้าที่เกิดจากเซลล์แสงอาทิตย์ เป็นแหล่งพลังงานที่ไม่มีวันหมด เป็นพลังงานที่สะอาดไม่ก่อให้เกิดมลพิษ
2.สามารถเลือกแหล่งจ่ายไฟจากโซล่าเซลล์ เครื่องปั่นไฟ และการไฟฟ้า ผ่านสวิชต์หน้าตู้
3.สามารถใช้ได้กับแหล่งน้ำทุกประเภท เช่น ห้วย หนอง คลอง บึง บ่อน้ำบาดาล และแม่น้ำ
4.สามารถออกแบบให้เหมาะสมกับระบบส่งน้ำต้นทุนให้กับระบบผลิตประปาหมู่บ้านและระบบสูบน้ำเพื่อการเกษตร
5.สามารถเคลื่อนย้ายหรือขยายระบบได้ ซึ่งขึ้นกับลักษณะการใช้งานและความต้องการ
6.สามารถติดตั้งได้ในพื้นที่ห่างไกลจากชุมชน ที่ระบบไฟฟ้าเข้าไม่ถึง
ประโยชน์ที่ประชาชน และเกษตรกร จะได้รับ
1.เพิ่มพูนรายได้ประชาชน ชาวเกษตรกร มีรายได้เพิ่มขึ้น 780,000 บาท/ปี
2.มีการกระจายน้ำในพื้นที่ที่ขาดแคลนน้ำ
3.ส่งน้ำต้นทุนที่ห่างไกลให้กับระบบประปาหมู่บ้านหรือสระหมู่บ้าน
4.เพิ่มผลผลิตพืชเศรษฐกิจใช้น้ำน้อยในฤดูแล้ง
5.ลดการย้ายที่ทำกินเข้ามาในเมือง
6.ส่งเสริมการใช้น้ำอย่างรู้คุณค่าและมีประสิทธิภาพ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง