ประธานวิปรัฐบาล มั่นใจ อภิปรายทั่วไป ไม่ต้องมีองครักษ์ พิทักษ์รัฐบาล เชื่อ สส.เพื่อไทย ไม่โดดประชุมไปรับ ‘ทักษิณ’ ที่เชียงใหม่ เลขาธิการเพื่อไทย ย้ำเพื่อไทยคุย ‘ฮุนเซน’ หารือทำพรรคแนวทางคนรุ่นใหม่
11 มี.ค.2567 นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธานวิปรัฐบาล กล่าวถึงการยื่นอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 152 ว่า การเตรียมความพร้อมของรัฐบาลเชื่อว่าไม่มีปัญหา มั่นใจว่ารัฐบาลพร้อมตอบการอภิปรายครั้งนี้ ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เพราะครั้งนี้รัฐบาลยังไม่ได้ใช้เงินงบประมาณสักบาท ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 จะเข้าที่ประชุมวาระ 2 และ 3 วันที่ 20 มีนาคมนี้ เชื่อมั่นว่ารัฐบาลไม่มีความกังวล ไม่ต้องเตรียมองครักษ์ไว้พิทักษ์รัฐบาล เพราะเชื่อว่ารัฐบาลตอบได้ อีกทั้งรัฐบาลเองก็มี สส.ในสภา มีความพร้อม ถ้าอภิปรายอยู่ในระเบียบข้อบังคับก็ไม่มีปัญหา อย่าไปพาดพิงบุคคลภายนอกหรือพูดเกินเลย ก็จะเป็นการกระทบกัน แต่ก็เป็นเรื่องธรรมดาของสภาและเป็นความสวยงามของประชาธิปไตย
สำหรับการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเป็นช่วงเดียวกับที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางไปเชียงใหม่จะมี สส.พรรคเพื่อไทย หรือ สส.พรรคร่วมรัฐบาลไปต้อนรับ นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ภายในพรรคเพื่อไทย ไม่ได้มีการพูดคุยกันในประเด็นนี้ ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีที่นายทักษิณจะไปกราบไหว้บรรพบุรุษ เพราะนายทักษิณเป็นคนเหนือ ซึ่งมีการพูดคุยกับเลขาธิการพรรคเพื่อไทย มีการกำชับเป็นเด็ดขาดในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร สส.พรรคเพื่อไทยจะต้องอยู่เข้าร่วมการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ในสภา เชื่อว่าไม่มีใครไป นอกจากจะเป็นอดีต สส. ตนก็ไม่ทราบเพราะไม่ได้ติดต่อกัน
นายสรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึง กรณีที่นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย จะไปเยือนประเทศกัมพูชาสัปดาห์หน้าว่า การไปเยือนกัมพูชาในครั้งนี้ เป็นการเชิญภายในระหว่างพรรคการเมืองกับพรรคการเมือง ซึ่งอาจจะมีการถกกันในประเด็นการทำพรรค โดยพรรคเพื่อไทยได้เปลี่ยนผู้บริหารพรรคชุดใหม่ และจากการที่สมเด็จฮุนเซน อดีตนายกรัฐมนตรีของประเทศกัมพูชาได้มาเยี่ยมนายทักษิณ ที่บ้านจันทร์ส่องหล้า ก็ได้มีการพูดคุยกับนางสาวแพทองธาร ที่อยากจะเชิญพรรคเพื่อไทย ไปแลกเปลี่ยนการทำพรรคโดยคนรุ่นใหม่ มั่นใจว่าทางกัมพูชาเองก็อยากจะมีการเปลี่ยนแปลง เพราะนอกจากบุตรชายของสมเด็จฮุนเซน คือ "ฮุน มาเนต" ซึ่งนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันของกัมพูชาแล้ว ส่วนมากคนในพรรคก็ยังเป็นคนรุ่นเก่าอยู่ จึงอยากมีการแลกเปลี่ยนกับพรรคเพื่อไทย
ส่วนการเตรียมความพร้อมในการเลือกตั้งท้องถิ่นระดับ อบจ.นั้น นายสรวงศ์ กล่าวว่า พรรคได้มีการเตรียมในจังหวัดที่มีความพร้อม ซึ่งเป็นจังหวัดที่ค่อนข้างมีเอกภาพ สส.และผู้สมัครให้ความเห็นชอบร่วมกัน โดยจะไม่ส่งลงหมดทุกจังหวัด แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าการเมืองท้องถิ่น เป็นพื้นฐานสำคัญ ที่จะมาช่วยผลักดันการเมืองระดับชาติ เพราะงบประมาณต่างๆเมื่อกระจายไปสู่ระดับท้องถิ่นแล้ว การเมืองระดับชาติก็ต้องพึ่งพาระดับท้องถิ่นพอสมควร ส่วนจังหวัดที่มีความพร้อมในการส่งผู้สมัครก็จะมีการเปิดตัว ประมาณ 4-5 จังหวัด และจะทยอยเปิดไปเรื่อยๆ
เมื่อถามว่ากระแสบ้านใหญ่ขนาดนี้เหมือน จะกำลังไหลเข้าพรรคก้าวไกลพรรคเพื่อไทยยังมีความมั่นใจอยู่หรือไม่ นายสรวงศ์ กล่าวว่า คำว่าบ้านใหญ่ส่วนตัวคิดว่าล้าสมัยไปแล้วอุดมการณ์ต่างๆ และการทำพรรคการเมืองก็มีความคิดเห็นที่ตรงกันและแตกต่างกันบ้าง คำว่าบ้านใหญ่คือครอบครัวที่มีพื้นฐานทางการเมือง ในจังหวัดต่างๆ ซึ่งประชาชนก็เข้าใจอยู่แล้วว่าใครอยู่ในพื้นที่ไหน โดยเฉพาะการเมืองท้องถิ่น และต้องยอมรับว่าการเมืองท้องถิ่นต้องอยู่กับประชาชน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง