ข่าว

“ชลน่าน” ยัน ไม่ทบทวน กฎกระทรวงประกาศ “ยาบ้า5เม็ด” ​เป็นผู้เสพ​

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"ชลน่าน" ยันไม่ทบทวนกฎกระทรวง ประกาศ "ยาบ้า5เม็ด" ​เป็นผู้เสพ​ ตอกกลับ "เรวัช"“ ใช้สมองคิดดีแล้ว ย้ำ​ ไม่ว่าจะเสพหรือค้า​ มีความผิดตามกฎหมายแน่นอน

ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.​ชลน่าน​ ศรี​แก้ว รัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวง​สาธารณสุข​(รมว.สธ.) กล่าวถึงการที่หลายฝ่ายออกมาขอให้ทบทวนประกาศเผยแพร่กฎกกระทรวงสาธารณสุข กำหนดอัตราการครอบครองยาเสพติดประเภทหนึ่ง โดยกำหนดให้ผู้ที่มียาบ้าในครอบครองไม่เกิน 5 เม็ด “ยาบ้า5เม็ด” ถือเป็นผู้เสพ​ พร้อมตั้งคำถามว่าใช้อะไรคิด​ว่า ประกาศใช้เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และมีผลบังคับใช้ในวันที่ 10 กุมภาพันธ์​ ส่วนที่มีการตั้งคำถามว่าจะให้ทบทวน ตนอยากจะถามกลับว่าคนที่ตั้งคำถามว่าด้วยเหตุผลอะไร​ 

“เพราะก่อนที่จะออกมาเป็นกฎ​ เราทำร่างกฎกระทรวง​ ที่ผ่านการรับฟังความคิดเห็นและทำประชาพิจารณ์ ตามบทบัญญัติทางกฎหมาย กรอบเวลา 15 วัน และเปิดให้ทุกฝ่ายได้แสดงความคิดเห็น ก่อนจะนำความคิดต่างๆ ทั้งการกำหนดปริมาณ ”ยาบ้า5เม็ด“ เท่ากับผู้เสพ ซึ่งเป็นเสียงส่วนใหญ่”นพ.ชลน่าน อธิบาย

 

 

จากนั้นนำร่างและข้อมูลเสนอต่อคณะรัฐมนตรี(ครม.) และผ่านการเห็นชอบ เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2566 หลังจากครม.เห็นชอบก็ส่งให้กฤษฎีกาตรวจ ว่าเป็นไปตามแบบแผนการออกกฎหมายหรือไม่
 

 

การประกาศกฎดังกล่าว ถูกประกาศใช้เพียง 3 วันแต่กลับถูกตั้งคำถามว่าจะทบทวนหรือไม่ จึงอยากถามกลับว่าใคร​ กลุ่มไหนเป็นคนตั้งคำถาม​ รวมไปถึงต้องดูว่าผลบังคับใช้นั้นเป็นอย่างไร ประชาชนและประเทศชาติได้ประโยชน์อย่างไร​ เพราะนโยบายด้านยาเสพติด​ นายกรัฐมนตรีได้แถลงต่อรัฐสภา เรื่องการป้องกันปราบปราม บำบัดและฟื้นฟู​ ต้องทำอย่างเข้มข้นในทุกมิติ

 

ส่วนกรณีการบำบัดฟื้นฟูผู้เสพเข้ากับผู้ป่วย เราต้องการคืนคนที่หลงผิด​ คนที่ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับการค้ายาเสพติดคืนให้สังคม​ ด้วยการบำบัด​ ซึ่งหากต้องการทบทวนก็ต้องดูด้วยเหตุด้วยผล

 

 

ส่วนที่อดีตข้าราชการตำรวจ​ พล.ต.ท.เรวัช​ กลิ่นเกษร ออกมาตำหนิ ถึงการออกประกาศดังกล่าวว่าเอาอะไรคิด​ นพ.​ชลน่านกล่าวว่า​ ก็เป็นความเห็นของแต่ละคน​ แต่อยากให้เข้าใจว่าการออกประกาศกฎกระทรวง​ได้ก็ต้องมีกฎหมายแม่บังคับใช้​ ซึ่งกฎกระทรวง​เรื่องยาเสพติด​ให้โทษตามมาตรา​ 107 ซึ่งระบุไว้ถึง​ 2 วรรค​ ย้ำว่าวรรคแรกห้ามครอบครองยาเสพติด​ให้โทษประเภท​ 1 เป็นยาเสพติดร้ายแรง​ จำพวกเฮโรอีน​ ประเภท​ 2​ มอร์ฟีน​ และประเภท​ 5 จำพวกฝิ่น​ เห็ดขี้ควาย​ และกัญชา​ ซึ่งการครอบครองยาเสพติดทุกประเภทก็ถือว่าผิดกฎหมายอยู่แล้ว​ แต่วรรค​ 2 ได้กำหนดไว้ว่าหาครอบครองจำนวนน้อยให้ถือว่าเป็นผู้เสพ​ ถือเป็นผู้ป่วยที่ต้องได้รับการบำบัด​

 

 

ซึ่งการกำหนดจำกัดของยาบ้า​กฎกระทรวงต้องการสื่อว่าไม่ได้จำกัดว่าผู้เสพจะไม่ใช่ผู้ผิด แต่ต้องการดึงคนเหล่านี้ออกจากผู้ค้าเนื่องจากพฤติกรรมผู้ค้ารายย่อยมาจากการเสพยาเสพติด​ และพลิกผันสู่การเป็นผู้ค้า​ ซึ่งรัฐบาลต้องการตัดวงจรการค้ารายย่อย​ ดังนั้นตนอยากย้ำว่ากฎกระทรวงผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการทุกภาคส่วน​ อาทิเช่น​ ป.ป.ส. ,ด้านยุติธรรม​,สธ.การแพทย์​ รวมทั้งนักสิทธิมนุษยชน​

 

 

“สุดท้ายข้อสรุปออกมาที่ 5 เม็ดครับ​ ถามว่าเอาสมองส่วนไหนคิด​ ก็สมองคนเหล่านี้แหละครับที่ช่วยกันคิด”นพ.ชลน่าน กล่าว

 

 

ส่วนกรณีที่หลายฝ่ายกังวลว่า​ การกำหนดจำนวน​ 5 เม็ดเท่ากับผู้เสพ​ที่ต้องเข้าสู่การบำบัด​ ตนยืนยันว่ารัฐบาลเตรียมพร้อมสถานบำบัดไว้ทั้งหมดแล้ว​ โดยอาศัยโรงพยาบาลประจำจังหวัดและรพ.สต.​ โดยจะมีนักจิตวิทยา​และฝึกอาชีพด้วย​ และเมื่อผ่านขั้นตอยการบำบัดจะมีการออกใบรับรองทางการแพทย์​ ซึ่งคนเหล่านี้จึงได้รับการยกเว้นเข้ารับโทษตามกฎหมาย​

 

 

นพ.​ชลน่าน​ กล่าวอีกว่า​ แม้กฎกระทรวงจะกำหนดว่าผู้ครอบครอง “ยาบ้า5เม็ด”​ เท่ากับผู้เสพแต่ไม่ได้หมายความว่าไม่มีความผิด​ เพราะทั้งผู้เสพ​ ผู้ครอบครองถือว่าเป็นผู้กระทำความผิดทางกฎหมาย

 

 

ส่วนข้อเสนอกัญชากัญชง​ นพ.​ชลน่านยืนยันว่าได้รับรายงานจากกระทรวงยุติธรรมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว​ โดยจะต้องผ่านความเห็นชอบจากทางสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด(ป.ป.ส.)ก่อน

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ