ข่าว

'ก้าวไกล '120 เสียง โหวต สส.ปราจีนบุรี พ้นพรรค ความผิดคุกคามทางเพศ - กทม. รอด

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"ก้าวไกล"ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคและสส. คลอดมติขับ สส.ปราจีนบุรี ออกจากพรรคในความผิด คุกคามทางเพศ ด้วยเสียงโหวต 120 เสียง จากผู้เข้าร่วม 128 คน ส่วนในราย สส.กทม. ที่มีความผิดลักษณะเดียวกัน รอดหวุดหวิด พรรคลงโทษเพียงตัดสิทธิทุกอย่าง คาดโทษ และให้เยียวยาผู้เสียหาย

นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล เปิดเผยว่า การประชุมพรรคก้าวไกล ที่อาคารรัฐสภา  ตลอดเย็นไปถึงช่วงค่ำของวันพุธที่ 1  พ.ย.  นานกว่า 6 ชั่วโมง มติของที่ประชุมร่วมของคณะกรรมการบริหารพรรคและสส.ของพรรคก้าวไกล เห็นชอบให้ขับ นายวุฒิพงศ์ ทองเหลา สส.ปราจีนบุรี พรรคก้าวไกล ออกจากพรรค จากความผิดในพฤติกรรมคุกคามทางเพศ โดยในการประชุมร่วมกัน เสียงในที่ประชุมรวม 128 เสียง   เห็นควรให้นาย  ให้นายวุฒิพงศ์ ออกจากพรรคก้าวไกล  ด้วยมติ 120 เสียง   ส่วนในรายของนาย 
นายไชยามพวาน  มั่นเพียรจิตต์ สส.กทม.( เขตจอมทอง-บางขุนเทียน-ท่าข้าม)  ซึ่งมีพฤติกรรมในลักษณะเดียวกัน  มีเสียงเพียง 106  เสียง  ไม่ถึง 3 ใน 4  คือ 116 เสียง ของจำนวนคณะกรรมการบริหารพรรคและสส.ที่มีอยู่  จึงเท่ากับว่าไม่สามารถมีมติที่จะขับ นายไชยามพวาน ออกจากพรรคได้ 

 

 

 


แต่ที่ประชุมเห็นว่าควรจะตัดสิทธิพึงมีทั้งหมด และให้คาดโทษไปตลอดสมัยประชุม หากมีพฤติกรรมใดๆ ที่เข้าข่ายคุกคามทางเพศอีก จะต้องให้พ้นจากสมาชิกพรรค นอกจากนี้ที่ประชุมเห็นว่า นายไชยามพวาน จะต้องออกมายอมรับผิดและขอโทษต่อสังคมและขอโทษต่อผู้เสียหายทั้งหมด รวมถึงจะต้องชดเชยเยียวยาตามที่ผู้เสียหายต้องการ  หากนายไชยามพวาน ยืนยันว่าตนเองไม่ได้กระทำผิด ไม่ยินดีที่จะขอโทษต่อผู้เสียหาย และไม่ยินดีที่จะชดใช้ความผิดของตนเอง ก็จะมีการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคและสส. พรรคก้าวไกลร่วมกันอีกครั้งเพื่อมีมติต่อไป 

 

 

 

 

.

บทลงโทษสูงสุดขับออก - รองลงมาตัดสิทธิ และคาดโทษ

.

 

เขา กล่าวว่า คณะกรรมการบริหารพรรคเห็นว่าทั้ง 2 กรณี คือ สส.ปราจีนบุรี  และ สส.กทม.  มีความผิดจริง และมีมติให้ขับออกจากพรรคก้าวไกล ซึ่งตามรัฐธรรมนูญ การที่จะขับสมาชิกพรรคให้พ้นจากพรรคจะต้องอาศัยเสียง 3 ใน 4 ของ สส.และกรรมการบริหารพรรคก้าวไกล ซึ่งในการประชุมมีกรรมการบริหารและสส. มาประชุมร่วมกันทั้งหมด 128 คน  ซึ่งผลจากการพิจารณาในที่ประชุมร่วมกับสส. เห็นตรงกันว่าทั้ง 2 กรณีมีพฤติกรรมคุกคามทางเพศจริง และขัดต่อวินัยของพรรคอย่างร้ายแรง โดยโทษสูงสุดสำหรับกรณีนี้คือขับให้พ้นจากสมาชิกพรรค และโทษรองลงมาคือตัดสิทธิทั้งหมด รวมถึงคาดโทษตามแต่กรณี 

 

 

 


ส่วนที่อาจจะมีข้อสงสัยว่าคนหนึ่งขับออกจากพรรค แต่อีกรายไม่ขับออกจากพรรค  ที่ประชุม
เห็นตรงกันว่า สส.ทั้ง  2 คน มีพฤติกรรมคุกคามทางเพศจริง และผิดวินัยร้ายแรง แต่เมื่อกระทำความผิด ก็มีบทลงโทษหลายระดับ ซึ่งในกรณีนี้จะเห็นว่า นายไชยามพวาน แม้จะเป็นสมาชิกพรรคอยู่ แต่เจ้าตัวจำเป็นจะต้องออกมายอมรับผิด และขอโทษรวมถึงเยียวยาผู้เสียหาย และมีข้อถกเถียงกันมากในที่ประชุม ซึ่งต่างจากกรณีนายวุฒิพงษ์ ที่เห็นตรงกันเกือบทั้งหมดว่ามีการใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่บทบาท

 

.

ระบุ สส.ปราจีนบุรี ใช้อำนาจตนเองปกปิดความผิด

.

 

ตั้งแต่เป็นว่าที่ผู้สมัครสส. มาจนถึงการเป็นสส.  และเป็นการใช้อำนาจโดยไม่ชอบในการคุกคามทางเพศ และพยายามที่จะใช้อำนาจของตนเองในการปกปิดความผิด จึงทำให้สส.จำนวนหนึ่งเห็นว่า มาตรการในการลงโทษรุนแรงแตกต่างกัน ซึ่งในกรณีการขับออกจากพรรคของนายวุฒิพงษ์นั้น ไม่ใช่เป็นการตัดหางปล่อยวัด แต่ทำตามบทลงโทษของพรรคเท่าที่ทำได้

 

\'ก้าวไกล \'120 เสียง โหวต สส.ปราจีนบุรี พ้นพรรค ความผิดคุกคามทางเพศ - กทม. รอด

ชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล

 

 

.

"ก้าวไกล" รับเป็นบทเรียนตีความ "คุกคามทางเพศ"

.

"ยืนยันว่าพรรคย้ำคุณค่า และให้ความสำคัญกับการไม่อดทนต่อการคุกคามทางเพศแต่ต้องยอมรับว่า ในหลักการคนจะรับรู้ แต่ในทางปฏิบัติความเข้าใจในแต่ละคนไม่เท่ากัน ว่าอะไรคือการคุกคามทางเพศ อะไรไม่ใช่คุกคามทางเพศ สำหรับเรื่องนี้เป็นบทเรียนของพรรค ถ้าหากใช้บทบาทหน้าที่และอำนาจของตนเอง ไปมีพฤติการณ์ในการคุกคามทางเพศ แม้ว่าหลายคนอาจจะมองว่าไม่ได้เกิดการบังคับขืนใจ ไม่เกิดการปฏิเสธและดูเหมือนจะเป็นการยินยอมพร้อมใจกันทั้งสองฝ่าย แต่กรณีนี้จะชี้ให้เห็นว่าการยินยอมพร้อมใจกันทั้งสองฝ่าย ไม่ได้เป็นการยินยอมพร้อมใจอย่างแท้จริง แต่เกิดขึ้นภายใต้อำนาจที่ไม่เท่าเทียมกัน"

 

.

ลาออกหรือไม่ขึ้นอยู่กับสปิริต

.

 

 หลังจากนี้คณะกรรมการวินัยของพรรคจะแจ้งบทลงโทษให้กับ ผู้ถูกร้องและผู้เสียหายได้รับทราบ  มติของกรรมการบริหารพรรคกับมติของที่ประชุม โดยทางพรรคไม่ได้มีการเจรจาหรือเรียกร้องให้ 2 สส. ที่กระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรงลาออก เพื่อแสดงความรับผิดชอบ เพราะขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของผู้ถูกร้อง

 

 

 

  "บางครั้งการแสดงความรับผิดชอบทางการเมือง เป็นเรื่องที่พึงทำ ซึ่งคนทำผิดหากแสดงความรับผิดชอบทางการเมืองสังคมก็พร้อมที่จะให้โอกาส และการรับผิดชอบทางการเมืองไม่จำเป็นต้องรอให้ข้อเท็จจริงยุติ อย่าคิดว่าความรับผิดชอบทางการเมืองเป็นการยอมรับผิด และต้องรอให้กระบวนการยุติธรรมอย่างเป็นทางการ ให้สิ้นสุดก่อนเท่านั้น สนับสนุนหากผู้ที่ถูกกล่าวหา จะแสดงความรับผิดชอบทางการเมือง เป็นนิมิตหมายที่ดี และเป็นมาตรฐานทางการเมืองที่ดี" นายชัยธวัช กล่าว 
 

 

 

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ