ข่าว

‘วันนอร์’ รับ ‘ร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม’ จาก ‘ชัยธวัช’ หน.พรรคก้าวไกล

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

วันนอร์ ประธานสภา รับ ‘ร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม’ จากหัวหน้าพรรคก้าวไกล ที่นำคณะ สส.ในฐานะว่าที่ผู้นำฝ่ายค้าน เข้ามายื่นร่างฯ ชงเนื้อหา 4 ข้อ ‘ชัยธวัช’ วอนพรรคการเมืองหนุน ชี้เป็นจุดเริ่มต้นความปรองดอง เทียบคดี 6 ตุลาฯ หนักกว่าถึงขั้นฆ่าจนท.รัฐ ยังนิรโทษกรรมให้ได้

วันที่ 5 ตุลาคม 2566 ที่อาคารรัฐสภา นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อม สส.พรรคก้าวไกลยื่น “ร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม” หรือ ร่างกฎหมายนิรโทษกรรมแก่ผู้กระทำความผิดเนื่องจากการชุมนุมทางการเมืองฯ ต่อนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร

 

 

นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวถายหลังรับหนังสือว่าขอแสดงความยินดีกับนายชัยธวัชที่ได้รับเลือกเป็นหัวหน้าพรรคก้าวไกล และจะได้ทำหน้าที่ผู้นำฝ่ายค้าในสภาผู้แทนราษฎร เพื่อประโยชน์ของพี่น้องประชาชนทุกคนต่อไป

 

‘วันนอร์’ รับ ‘ร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม’ จาก ‘ชัยธวัช’ หน.พรรคก้าวไกล

สำหรับ "ร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม" หรือ ร่างพระราชบัญญัติบุคคลซึ่งกระทำความผิดอันเนื่องมาจากเหตุการณ์ความขัดแย้งทางการเมือง จะรับไว้ดำเนินการตามขั้นตอนโดยเร็วที่สุด

 

 

นายชัยธวัช กล่าวว่า พรรคก้าวไกลได้ยื่นร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมแก่บุคคลซึ่งได้กระทำความผิดอันเนื่องมาจากเหตุการณ์ความขัดแย้งทางการเมือง พ.ศ. ต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร ด้วยเหตุผลสืบเนื่องมาจากความขัดแย้งทางการเมืองที่ยืดเยื้ออย่างต่อเนื่องมาถึงปัจจุบัน นับตั้งแต่การชุมนุมครั้งแรกของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเมื่อ 11 ก.พ. 2549 และลุกลามบานปลายจนเกิดเหตุการณ์รัฐประหาร 19 กันยายน 2549 

 

‘วันนอร์’ รับ ‘ร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม’ จาก ‘ชัยธวัช’ หน.พรรคก้าวไกล

 

และต่อมาก็ยังมีการรัฐประหารซ้ำอีกครั้งเมื่อปี 2557 และตลอดระยะเวลาของการชุมนุมนับตั้งแต่ครั้งแรก สืบเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน มีพี่น้องประชาชนจำนวนมากเข้าไปมีส่วนร่วมในการชุมนุม หรือการแสดงออกในทางการเมืองในรูปแบบต่างๆ และตลอดระยะเวลามีประชาชนนับ 1,000 คน ถูกดำเนินคดี

 

ตั้งแต่คดีเล็กๆ น้อยๆ จนถึงข้อกล่าวหาร้ายแรง รวมถึงคดีความมั่นคง และจนถึงขณะนี้ยังไม่มีการยุติในการดำเนินคดี ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวพรรคก้าวไกลเห็นว่าทำให้ยากที่จะนำคนไทยกลับเข้าสู่ภาวะปกติสุข เกิดความสามัคคีกันในสังคม 

 

 

"เพราะพี่น้องประชาชนจำนวนมาก ที่ถูกดำเนินคดี หรือ มีส่วนร่วมทางการเมือง ไม่ว่าจะอยู่ฝ่ายไหนต่างก็มีความเห็นว่า รัฐไม่มีความเคารพต่อสิทธิมนุษยชน และสิทธิเสรีภาพของพลเมือง จึงเห็นว่าถึงเวลาที่จะต้องยุตินิติสงครามและการนิรโทษกรรมจะเป็นหนทางที่ “ถอดฟืนออกจากกองไฟ” เป็นก้าวแรกในการเริ่มต้นสร้างความยุติธรรมและความปรองดองที่ยั่งยืนในสังคมไทยต่อไป

 

‘วันนอร์’ รับ ‘ร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม’ จาก ‘ชัยธวัช’ หน.พรรคก้าวไกล

 

สำหรับสาระสำคัญของร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมฯ นั้น นายชัยธวัช กล่าวว่า ได้กำหนดให้การกระทำใดๆของบุคคลผู้เข้าร่วมเดินขบวนและชุมนุมประท้วงทางการเมือง ตลอดจนการกระทำทำทางกายภาพ หรือแสดงความคิดเห็นใดๆที่เป็นความผิดตามกฎหมายในช่วงเวลาที่ถูกดำเนินคดีตามกฎหมายตั้งแต่วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2549 คือนับวันแรกของการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรจนถึงวันที่พระราชบัญนี้ได้มีผลบังคับใช้

 

 

หากการกระทำดังกล่าว มีมูลเหตุจูงใจทางการเมือง ก็ให้ผู้กระทำพ้นจากความผิด และความรับผิดโดยสิ้นเชิงทั้งนี้ ต้องมิให้ขัดกับพันธะกรณีทางกฎหมายระหว่างประเทศ

 

 

ขณะที่การนิรโทษกรรมนี้จะไม่ครอบคลุมถึงการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องกับการสลายการชุมนุม หากเป็นการกระทำเกินสมควรแก่เหตุ ตลอดจนจะไม่นิรโทษกรรมการทำความผิดต่อชีวิตตามประมวลกฎหมายอาญา และจะไม่นิรโทษกรรมการกระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 113

 

 

ส่วนจะรวม คดีมาตรา 112 หรือไม่อยู่ในวินิจฉัยของคณะกรรมการ โดยกลไกในการนิรโทษกรรมจะกำหนดให้มีคณะกรรมการวินิจฉัยชี้ขาดการกระทำความผิดเพื่อการนิรโทษกรรม ซึ่งคณะกรรมการชุดนี้ ในร่างเสนอให้มีจำนวน 9 คน ซึ่งประธานรัฐสภาจะเป็นผู้แต่งตั้ง โดยมีองค์ประกอบจากประธานสภาผู้แทนราษฎร ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร บุคคลที่ได้รับเลือกจากคณะรัฐมนตรี มาจากบุคคลที่สภาผู้แทนราษฎรเลือกอีก 2 คน มาจากผู้พิพากษาอดีตผู้พิพากษาในศาลยุติธรรม ของที่ประชุมใหญ่ของศาลฎีกา ตุลาการหรืออดีตศาลปกครอง 1 คน มาจาก คณะกรรมการอัยการ 1 คนและสุดท้าย เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร

 

‘วันนอร์’ รับ ‘ร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม’ จาก ‘ชัยธวัช’ หน.พรรคก้าวไกล

 

นายชัยธวัช กล่าวว่า พรรคก้าวไกลย้ำว่า การเสนอ “ร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม” ในครั้งนี้ เรามุ่งหวังให้เป็นกฎหมายสำคัญสำหรับการคืนชีวิตใหม่ให้กับพี่น้องประชาชนที่โดนนิติสงคราม หรือเข้าไปมีส่วนร่วมทางการเมืองแสดงออกทางการเมืองใดๆและถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งพี่น้องประชาชนจำนวนมาก ไปชุมนุมโดยสันติ และเชื่อว่าการนิรโทษกรรมนี้เป็นสิ่งที่สามารถเป็นไปได้ หากพรรคการเมืองร่วมกันผลักดัน ซึ่งที่ผ่านมาพรรคการเมืองต่างไม่ได้ปฏิเสธ จึงจะใช้โอกาสนี้ในการพูดคุยกับพรรคการเมืองทุกฝ่าย 

 

 

รวมถึงพี่น้องประชาชนทุกฝ่าย ทุกสี ที่มีความขัดแย้งกันในอดีตให้สำเร็จให้ได้ ซึ่งเชื่อว่าแม้เรา อาจจะไม่ได้มีความเห็นทางการเมืองตรงกลางทั้งหมดแต่ก็เชื่อว่า ทุกฝ่าย ที่มาแสดงออกทางการเมือง ยืนอยู่ บนพื้นฐานความคิดความเชื่อที่ทำให้การเมืองดีดังนั้นการยุติการต่อสู้การดำเนินคดี ไม่ว่าฝ่ายไหน จะเป็นทางออกที่ดีที่สุด เพื่อให้ ใช้ กระบวนการที่สันติแสวงหาฉันตามมาติที่เป็นที่ยอมรับ และเชื่อว่าภายหลังการพูดคุยพรรคการเมืองต่างๆอาจจะมีร่างกฎหมายลักษณะเดียวกันมาประกบ

 

 

นายชัยธวัช กล่าวว่าได้พูดคุยเรื่องนี้กับพรรคการเมืองต่างๆแล้วรวมถึงพรรคเพื่อไทย ที่อาจจะไม่เสนอร่าง แต่มีท่าทีสนับสนุน และตนได้ขอให้มาคุยเรื่องนี้ในชั้นกรรมาธิการ ขณะเดียวกัน ก็ได้มีการพูดคุยเรื่องนี้กับสว.ไว้บ้างแล้วตั้งแต่ปลายสมัยประชุมทที่แล้ว ซึ่งคิดว่าน่าจะสานต่อ และหวังว่า ถ้าได้คุยกับพรรคการเมืองต่างๆทุกพรรค

 

 

โดยเฉพาะพรรคการเมืองใหญ่ในฝากรัฐบาล ก็ไม่ได้มีอะไรที่ติดขัด โดยต่างเห็นประโยชน์และความจำเป็น ต่อสถานการณ์ทางการเมือง เพราะรัฐบาลก็ได้แถลงว่าการจัดตั้งรัฐบาลมีเป้าหมายเรื่องความปรองดอง ซึ่งตนคิดว่าความปรองดองจะสำเร็จขึ้นได้ เงื่อนไขสำคัญคือความยุติธรรม ให้กับพี่น้องประชาชน ด้วยการนิรโทษกรรมทางการเมือง แม้หลายกรณีอาจจะมองว่าคนที่ถูกกล่าวหามีความผิดจริง แต่เราต้องยอมรับว่า เป็นการกระทำผิดที่มีแรงจูงใจทางการเมือง ซึ่งคิดว่าหากเรามาเริ่มต้นกันใหม่คืนความยุติธรรมให้กับพี่น้องประชาชน ยุติคดีความที่เป็นเงื่อนไขให้คนที่เห็นต่างกัน มีพื้นที่ได้กลับมาคุยกัน โดยกระบวนการทางประชาธิปไตย แบบนี้ถือเป็นก้าวแรกที่จะสร้างความปรองดองได้

 

 

อย่างไรก็ตาม หลายคนอาจจะกังวลว่า คดีความที่ร้ายแรงต่างๆ เหมาะที่จะนิรโทษกรรมหรือไม่ ตนอยากจะย้ำเตือนว่าพรุ่งนี้เป็นวันที่ 6 ตุลาคม 2521 ซึ่งเหตุการณ์นี้ ที่รัฐบาลได้ทำให้เป็นเงื่อนไขสำคัญ จนนำไปสู่การคลี่คลายความขัดแย้ง คือการนิรโทษกรรมเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2521 รวมถึงการออกคำสั่ง 66/23 ซึ่งทั้งสองเหตุการณ์นี้ล้วนแต่เป็นโทษร้ายแรงทั้งสิ้น โดยเฉพาะ 66/23 เป็นการนิรโทษกรรมให้กับคนที่ใช้อาวุธลุกขึ้นสู้กับเจ้าหน้าที่รัฐ และมีส่วนทำให้เจ้าหน้าที่รัฐเสียชีวิตจำนวนมาก เรายังสามารถเปิดให้กับคนที่กระทำผิดร้ายแรงเข้าสู่สังคมและพูดคุย และร่วมใช้ชีวิตปกติในสังคมอีกครั้ง และวันนี้ ที่เสนอร่างกฎหมายฉบับนี้เพราะตั้งใจเพราะพรุ่งนี้เป็นวันที่ 6 ตุลาคม จึงหวังว่าพรรคการเมืองจะให้ความสนใจและเห็นประโยชน์ร่วมกัน ซึ่งถ้าเห็นท้องก็อาจจะเสนอเลื่อนขึ้นมาพิจารณาเร็วขึ้น

 

 

เมื่อถามย้ำว่าจะนิรโทษกรรมให้กับคดี 112 ด้วยใช่หรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า ตอนที่นิรโทษกรรมให้กับเหตุการณ์ 6 ตุลาคม ก็เป็นเรื่องความผิดมาตรา 112 เป็นหลัก และยังมีคดีกบฏ ล้มล้างการปกครอง และเปิดให้คนที่เข้าร่วมต่อสู้ด้วยอาวุธ เราสามารถที่จะอภัย เพื่อทำให้การเมืองไทยเดินหน้าไปได้ จึงคิดว่าหากไม่มีอคติจนเกินไป ทุกฝ่ายควรจะร่วมกัน

 

 

เพราะรู้สึกเสียดายที่คณะกรรมการสมานฉันท์ ตั้งโดยนายชวน หลีกภัย ทำรายงานเสร็จแล้ว แต่เสร็จในปลายสมัยจึงไม่มีโอกาสนำเสนอในสภา ซึ่งคณะกรรมการสมานฉันท์ชุดต่างๆ ก็มีข้อเสนอในลักษณะนี้ ในเรื่อง ของนิรโทษกรรมคดีทางการเมือง

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ