‘เศรษฐา’ ย้ำมีอิสระทางความคิด ไม่ขึ้นกับตระกูลชินวัตรแต่พร้อมรับฟัง
‘เศรษฐา’ ขอเวลาพิสูจน์ตัวเอง 3-6 เดือน ย้ำมีอิสระทางความคิด ไม่เกี่ยวกับตระกูลชินวัตร พร้อมนั่ง ก.ตร.ด้วยตัวเอง รับกดดัน ปชช.คาดหวังสูง
วันที่ 6 ก.ย. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แถลงข่าวภายหลังนำประชุมคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษก่อนแถลงนโยบายฯว่า วันนี้ก็เป็นการพบปะพูดคุยครั้งแรกใน ครม. นัดพิเศษเป็นการรับฟังความคิดเห็น เป็นการพูดคุยกันไม่ได้เป็นการสั่งการใด โดยได้ให้แนวทางเฉยๆ ว่าในการทำงานของเรา เป็นรัฐบาลเหมือนที่ตนได้แถลงไปเมื่อวาน คือเป็นรัฐบาลของประชาชน เราต้องมาทำงานเพื่อประชาชนลืมความเหน็ดเหนื่อย ตามหลักกฎหมายและความชอบธรรม พร้อมย้ำว่าต้องดูให้ดีในเรื่องการจัดสรรงบประมาณให้เหมาะสม และต้องให้เกียรติข้าราชการเวลาสั่งการ
เมื่อถามว่า ในที่ประชุมได้มีการเน้นย้ำคณะรัฐมนตรีเรื่องของการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการ นายเศรษฐา ตอบว่า เพราะเป็นฤดูกาลของการแต่งตั้งโยกย้ายพอดี และเป็นที่ทราบกันดีว่าเรื่องพวกนี้มีการเกิดขึ้นอยู่ตลอดไม่ใช่ว่าในช่วงนี้หรือรัฐบาลไหนก็ตามที ก็อยากจะเน้นย้ำเพราะภาคราชการทุกภาคส่วน มีความสำคัญอย่างยิ่งกับการขับเคลื่อนประเทศ เขาทำงานมาตลอดชีวิตก็ยังได้ความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน การปูนบำเหน็จทั้งหลายก็ขอให้เป็นธรรมด้วยผลงานไม่ใช่ด้วยมาจากการซื้อขายตำแหน่ง
เมื่อถามต่อว่าสบายใจได้หรือไม่ว่าในเรื่องของการซื้อขายตำแหน่ง จะไม่เกิดขึ้น นายเศรษฐา ตอบว่า มึงจะพยายาม นโยบายหลักหรือเป็นหนึ่งในเรื่องแรกๆที่ตนพูดถึง หวังว่ารัฐมนตรีทุกท่านจะให้ความสำคัญในเรื่องนี้เป็นพิเศษ เพราะว่าจริงๆแล้วคณะรัฐมนตรีเรามีนโยบายดีๆมีนโยบายที่เราจะแถลงต่อรัฐสภา หลายๆเรื่องเราต้องการการขับเคลื่อนจากข้าราชการถ้าเกิดเราไม่ให้เกียรติไม่ให้ความเป็นธรรมกับเขา เรื่องของการขับเคลื่อนนโยบายต่างๆก็จะเป็นไปด้วยความลำบาก
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่าเห็นว่า จะไม่มีนโยบายค่ารถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย อยู่ในร่างนโยบายที่จะแถลง นายเศรษฐาตอบว่า เป็นคำแถลงกว้างๆ เราจะดูเรื่องการขนส่งทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นทางน้ำอากาศบก และราง ซึ่งในเรื่องของรถไฟฟ้าก็ต้องมาดูการเชื่อมต่อทุกสายให้เข้ากัน และก็ต้องใช้บัตรใบเดียวเพื่อความสะดวก และต้องดึงเรื่องทั้งหมดกลับมาดูว่า ค่าใช้จ่ายที่เหมาะสมจะเป็นเท่าไหร่ รัฐบาลจะต้องมีการชดเชยเท่าไหร่ ในแง่ของงบประมาณทั้งหมด แต่ยืนยันว่าบรรจุไว้เป็นเรื่องคร่าวๆ อยู่แล้ว
ส่วนที่ยังไม่ทำทันทีเป็นเพราะต้องเอางบประมาณไปใช้ในเรื่องอื่นก่อนหรือไม่ นายเศรษฐา ระบุว่า ไม่ครับเราทำทันที เราก็เริ่มดูแลทันที ต้องเอาระบบการขนส่งทางรางทั้งหมด เชื่อมต่อให้เป็นรูปธรรม และก็ต้องมีบัตรใบเดียวเพื่อดูค่าใช้จ่ายทั้งหมดว่าเท่าไหร่
ส่วนคาดว่าจะได้เห็นภายในกี่ปี นายเศรษฐา ตอบว่า ขอไปทำงานก่อนนี่ก็ยังไม่ได้เข้ากระทรวงเลยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ก็ยังไม่ได้เข้ากระทรวงเลย ทราบว่าทุกเรื่องเร่งด่วนหมด
เมื่อถามว่าในวันที่ 11 กันยายน นอกจากการแถลงนโยบายแล้ว ในระหว่างที่อภิปราย จะมอบหมายให้รัฐมนตรีท่านใด พูดชี้แจงต่อข้อสงสัย นายเศรษฐาตอบว่า ก็ถ้าเกิดกระทรวงไหนเกี่ยวข้องหรือถูกพาดพิง และต้องการการอธิบาย ตนเชื่อว่ารัฐมนตรีทุกท่านเตรียมความพร้อมในการชี้แจง
จากนั้นผู้สื่อข่าว ได้ถามย้อนกลับไปถึงเรื่องการแต่งตั้งข้าราชการ ว่าจะเข้าไปดู ก.ตร.ด้วยตัวเองหรือไม่หลังมีการเบรค ไม่แต่งตั้งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติไปก่อนหน้านี้ นายเศรษฐา ตอบว่าไม่แน่ใจว่าใช้คำว่าเบรคจะถูกต้องหรือไม่ แต่ตนเองก็จะนั่งประธาน ก.ตร. อย่างแน่นอนและขอดูวันที่เหมาะสมก็จะมีการนัดประชุมต่อไป
ส่วน ผบ. ตร.คนใหม่ได้มีส่วนในการตัดสินใจหรือไม่ นายเศรษฐาตอบว่า เรื่องนี้ยัง และก็ยังไม่ได้เข้าไปบริหารอะไรเลย ขอเป็นหลังแถลงนโยบายก่อน
เมื่อถามถึงการกระชับการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการ ว่าเป็นการมุ่งไปยังการปฏิรูปวงการตำรวจหรือไม่ นายเศรษฐาตอบว่า เปล่า ทุกๆภาคส่วนของข้าราชการไม่ได้เจาะจงบอกว่าหน่วยงานไหนมีปัญหามากเป็นพิเศษ
ผู้สื่อข่าวถามว่า นายกรัฐมนตรีมีอิสระในการทำงานมากหรือน้อยเพียงไหนเพราะมาจากพรรคเพื่อไทยที่ปฏิเสธไม่ได้ว่ามีความใกล้ชิดกับตระกูลชินวัตร นายเศรษฐา ตอบว่า “ผมขอเวลาในการบริหารราชการ และขออีกสัก6 หรือ 3 เดือน มวลชนมาถามอีกที ผมเชื่อว่าผมมีอิสระทางด้านความคิด ไม่ใช่แค่ครอบครัวชินวัตร หากใครมีข้อมูลดีๆมีเรื่องราวดีๆที่เป็นประโยชน์กับพี่น้องประชาชน ผมมาวันนี้รัฐบาลนี้ทำงานเพื่อประชาชนอะไรที่เป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน ใครที่มีข้อมูลหรือการแนะนำที่ดี คนก็รับฟัง” นายเศรษฐา กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ในโอกาสที่จะเดินทางไปต่างประเทศ มีโอกาสในการทำให้ต่างประเทศสนใจประเทศไทยและอยากจะมาเมืองไทยมากขึ้นอย่างไรบ้าง นายเศรษฐาตอบว่า คงเป็นโอกาสหนึ่ง กระทรวงการต่างประเทศกำลัง รวบรายชื่อ ผู้นำต่างประเทศที่จะเข้าพบ ส่วนตัวก็จะพยายามนัดหมายกับนักธุรกิจระดับโลกหลายคนเพื่อพูดคุยถึงความต้องการลงทุนในประเทศไทย ว่าเป็นอย่างไรบ้าง ก็ถือว่าเป็นการประชุมสหประชาชาติประจำปีในทุกๆเดือน กันยายน ก็ถือเป็นเวลาอันดีที่ได้ไปพบปะพูดคุย
ส่วนจะมีโอกาสได้พบปะกับผู้นำสหรัฐหรือไม่ นายเศรษฐา ตอบว่า ออกกำลังนัดอยู่ ต้องได้อยู่แล้วเพราะท่านเลี้ยงอาหารค่ำวันหนึ่ง
ผู้สื่อข่าวถามว่า นายกฯรู้สึกกดดันบ้างหรือไม่ในการเข้ามา และประชาชนคาดหวังสูงในรัฐบาลนี้ นายเศรษฐากล่าวว่า ก็มีความกดดันอยู่แล้ว ปัญหาของประชาชนเป็นเรื่องใหญ่ ทำงานแล้วก็ต้องยอมรับเรื่องพรุ่งนี้ ยืนยันว่าตนมีความตั้งใจจริงแต่ขอเวลาทำงานนิดนึง ก่อนยกมือขึ้นไหว้ และกล่าวขอบคุณ
ผู้สื่อข่าวจึงแซวว่ารู้ตัวหรือไม่ว่าเป็นคนที่ไหว้สวย นายกฯ ไม่ได้ตอบคำถามแต่ยิ้มให้
เมื่อถามว่าจะเข้ากระทรวงการคลังเมื่อไหร่ เศรษฐา ตอบว่าต้องขอดูฤกษ์นิดนึง ทั้งฤกษ์ดีและฤกษ์สะดวก