ข่าว

'ปกรณ์วุฒิ' เปิดหลักฐาน 'ศักดิ์สยาม' ซุกหุ้น บุรีเจริญ แฉพิรุธเพียบ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ปม ซุกหุ้น ไม่จบ 'ปกรณ์วุฒิ' เปิดหลักฐาน แฉพิรุธ 'ศักดิ์สยาม' เพิ่ม หนี้ 38 ล้าน ไม่สอดคล้องกับงบการเงินของ หจก.บุรีเจริญฯ และไม่แจงบัญชีทรัพย์สิน ก่อนรับตำแหน่งปี 62

นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล แถลงเปิดข้อมูลเพิ่มเติมคดี นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม “ซุกหุ้น” หจก.บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น จำกัดจนนำมาสู่การสั่งให้ยุติปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว

 

 

 

 

 

นายปกรณ์วุฒิ เปิดเผยว่า ได้รับเอกสารชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา เมื่อ 3-4 สัปดาห์ก่อน ซึ่งพบพิรุธหลายจุด โดยมีหลักฐานใหม่ว่า นายศักดิ์สยาม มีหนี้สินคงค้างกับ หจก.บุรีเจริญฯ ในวันเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรี และไม่ได้ยื่นแสดงบัญชีทรัพย์สินต่อ ป.ป.ช.

 

ปกรวุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล

ทั้งนี้มีข้อมูลว่า นายศักดิ์สยาม เคยกู้เงินปี 2558-2559 จำนวน 4 ครั้ง วงเงิน 108.4 ล้านบาท มีสัญญากู้ยืมเงิน และชำระหนี้คืนทั้งก้อน 22 เม.ย. 2562 ก่อนเข้ารับตำแหน่ง 33 วัน โดยอ้างอิงว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจเมื่อปี 2565 ซึ่งได้อภิปรายถามว่า หนี้สินที่นายศักดิ์สยามมีกับห้างหุ้นส่วนแห่งนี้ ได้โอนออกพร้อมกับการโอนหุ้นหรือไม่ แต่ไม่เคยได้รับคำตอบ

 

 

 

 

นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ข้อมูลดังกล่าว ที่ หจก.บุรีเจริญฯ ไม่เปิดเผย ชี้ให้เห็นว่า หลังจากการโอนหุ้นแล้ว ไม่มีการโอนหนี้สินก้อนนี้ออกไปด้วย เอกสารเป็นการมัดตัวว่า หนี้สินจำนวนนี้ยังเป็นของนายศักดิ์สยามอยู่ หลังการโอนหุ้นเมื่อปี 2561 จึงเกิดคำถามว่า มีการชำระหนี้คืนเมื่อวันที่ 22 เม.ย. 2562 จริงหรือไม่

 

 

 

 

ด้วยเพราะงบการเงินของห้างหุ้นส่วน สิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค. 2562 ระบุชัดเจนว่า ยังมีเงินให้ในส่วน ผู้จัดการกู้ยืมคงค้างอยู่ 38 ล้านบาท จากนั้น ยอดหนี้สินจึงถูกปิดลงเหลือ 0 บาท ในงบการเงินสิ้นปี 2563 ซึ่งการปิดงบจะต้องสอดคล้องกับเอกสารและยอดเงินในธนาคารทั้งหมดของห้างหุ้นส่วน เพราะจะต้องยื่นต่อหน่วยงานราชการตามกฏหมาย

 

ปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล

“จึงเป็นไปได้ว่า นายศักดิ์สยามเป็นหนี้ห้างหุ้นส่วนอยู่ 38 ล้านบาทในสิ้นปี 2562 และไม่ได้ยื่นบัญชีทรัพย์สินต่อ ป.ป.ช. สมมติมองในแง่ดีวันที่ 22 เม.ย. 2562 มีการโอนเงิน 108 ล้านบาท ให้ห้างหุ้นส่วนตามเอกสาร” นายปกรวุฒิ แถลง

 

 

 

 

นายปกรณ์วุฒิ ยังกล่าวว่า พิรุธในประการต่อไป เมื่อพิจารณาเอกสารชี้แจงจะพบว่า หจก.บุรีเจริญฯ ได้ระบุว่า นายศักดิ์สยามกู้ยืมเงิน 4 ครั้ง ตั้งแต่ปี 2559, 2560 และ 2561 ระบุยอดตรงกัน 69 ล้านบาท ซึ่งตรงกับการกู้ยืมครั้งที่ 3-4 รวมกัน แต่การกู้เงินครั้งที่ 1-2 เป็นจำนวนเงิน 39 ล้านบาท ตั้งคำถามว่า ทำไมไม่เคยปรากฏในงบการเงินแม้แต่ครั้งเดียว และยอดเงินจำนวนดังกล่าวมาจากไหน

 

 

 

 

ทั้งนี้ ข้อสงสัยมากที่สุดคือ ตัวเลขในการยื่นแสดงบัญชีทรัพย์สิน ไม่สอดคล้องกับการขายหุ้น ของ หจก.บุรีเจริญฯ หากขายจริงและได้รับเงิน 120 ล้านบาทจริง ในเดือน ม.ค. 2561 เหตุใดในการยื่นทรัพย์สินในช่วง 16 เดือนหลังจากนั้น กลับมีเงินสด ซึ่งเป็นเงินฝากเพียงจำนวน 76 ล้านบาท ซึ่งหากเป็นตัวเลขจริง อาจเป็นการใช้เงิน ที่ไม่ใช่การซื้อทรัพย์สินอย่างน้อย 40 ล้านบาท ภายใน16 เดือน และตัวเลข 40 ล้านบาท ตั้งอยู่บนสมมุติฐานว่า ก่อนเดือน ม.ค. 2561 นายศักดิ์สยามไม่มีเงินเลยแม้แต่บาทเดียว

 

ปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล

 

 

นอกจากนี้ ยังพบพิรุธในเอกสารที่ได้ส่งแจ้งศาลรัฐธรรมนูญหลายจุด เช่น นายศักดิ์สยามให้ขอเอกสารจากห้างหุ้นส่วนฯ เป็นเอกสารใบรับวางบิล หุ้นส่วนฯ ผู้จัดการคนใหม่ ได้เข้ามาควบคุมเซ็นเอกสารตั้งแต่ต้นปี 2561 ตามที่มีการโอนหุ้นจริง จึงขอเรียกร้องไปยังองค์กรอิสระ ทั้ง ป.ป.ช. และศาลรัฐธรรมนูญ เรียกศรัทธาจากสังคม และการปฏิบัติกับทุกคำร้อง ตามกำหนดระยะเวลาดำเนินงานในกระบวนการยุติธรรม และ มาตรฐานในการทำงานที่กำลังถูกสังคมจับจ้องตั้งคำถาม

 

 

 

 

เมื่อถามว่า เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับประเด็นการจัดตั้งรัฐบาลที่มีการพูดถึงพรรคอันดับที่ 3 จะมาเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลด้วยหรือไม่ นายปกรวุฒิ กล่าวว่า ตนได้รับทราบว่า มีเอกสารชุดนี้เมื่อประมาณ 4สัปดาห์ที่แล้ว จาก พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ และช่วงที่ผ่านมา ยังไม่มีเวลาที่จะดูเรื่องนี้ แต่หลังจากเปิดประชุมสภาแล้ว และได้มีเวลาดูเอกสารประมาณ 1 สัปดาห์ จึงนำมาสู่การแถลงข่าว โดยไม่มีเหตุผลใดที่จะต้องรอ ในการที่จะไปยื่น เพราะหากรอไปเกิดมีเหตุการณ์อย่างใดอย่างหนึ่งเกิดขึ้น อาจจะไม่ทันการ จึงคิดว่าจะต้องยื่นเลย

 

 

 

 

ทั้งนี้ ถ้าศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยอย่างใดอย่างหนึ่ง ไม่ว่านายศักดิ์สยาม จะยังคงตำแหน่งรัฐมนตรีอยู่เหมือนเดิมหรือไม่ เพราะจะมีผลในอนาคต หากคำร้องนี้มีคำวินิจฉัยว่าผิดจริง อย่างน้อยก็ไม่สามารถดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี 2 ปี

 

 

จากนั้น ในเวลา 11.30 น. นายปกรณ์วุฒิเดินทางไปยัง ป.ป.ช. เพื่อเยื่นหนังสือ และเอกสารเกือบ 100 แผ่น ให้ตรวจสอบการยื่นบัญชีทรัพย์สิน ของนายศักดิ์สยามต่อไป

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ