ข่าว

เสรีพิศุทธ์ รับหนักใจหาเสียงหนุน เผยถ้าสุดทาง ขอ ก้าวไกล เสียสละ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

เสรีพิศุทธ์ รับหนักใจ หาเสียงหนุน ส่ง พิธา นั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี เผย 8 พรรคยังเดินหน้าสนับสนุน ชี้ไม่มีข้อห้ามส่งชื่อซ้ำ ปม 112 แก้มาหลายครั้ง อัดไปศึกษาก่อนพูด แย้ม ถ้าสุดทาง ขอ ก้าวไกล ไปเป็นฝ่ายค้าน

ประเด็นร้อนการเสนอชื่อผู้จะเป็นนายกรัฐมนตรี ยังไม่จบ และเป็นความร้อนแรงของการเมืองในขณะนี้ ที่โรงแรมริเวอร์ไซต์ กรุงเทพฯ วันนี้ ( 15ก.ค.) มีการประชุมใหญ่สามัญครั้งที่ 2/2566 ของพรรคเสรีรวมไทย พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวช หัวหน้าพรรค ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนก่อนการประชุม ในกรณีการเสนอชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีซ้ำในรอบที่ 2 จะเป็นการข้อบังคับหรือไม่ หรือจะต้องเสนอรายชื่อประกบเพิ่มเติมหรือไม่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ กล่าวว่า จะเสนอชื่อกี่คนก็ได้ทั้งนั้น ไม่มีข้อบังคับมากำหนดไว้ สามารถเสนอได้ทั้งนั้น จะเสนอชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อีกครั้งก็ได้

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ เตมียเวช หัวหน้าพรรค

ที่มีการพูดถึงกล่าวอ้างเป็นเพียงข้อบังคับในการประชุมเท่านั้น ซึ่งเป็นคนละเรื่องกับการเลือกนายกรัฐมนตรี ดังนั้นเวลาอ่านหนังสือต้องอ่านให้ครบ พูดง่ายๆว่าต้องอ่านทั้งเล่ม แล้วค่อยมาคุย ไม่ใช่ว่าอ่านข้อเดียวแล้วมาคุย เพราะถ้าอ่านข้อเดียวมันก็เจอว่า ข้อบังคับ 41 ไม้วว่าจะเถียงกันอย่างไรก้แล้วแต่ เป็นเรื่องของประานสภาที่จะอนุญาตหรือไม่ ส่วนความกังวลในเรื่องวันที่ 19 ก.ค.ที่จะเป็นการโหวตรอบที่ 2 ในเรื่องการอภิปราย พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ กล่าวว่า ถ้าตนเป็นประธานสภา จะไม่ให้มีการอภิปราย เพราะอภิปรายไปหมดแล้ว แล้วก็พูดซ้ำๆวนๆ ที่สำคัญในกรณีวันที่ 13 ก.ค. ที่ผ่านมา

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ เตมียเวช หัวหน้าพรรค

เป็นวันเลือกนายกรัฐมนตรี แต่กลับกลายเป็นการอภิปรายเรื่องม.112 แล้วในเรื่องแก้ไขนั้น ม.112 เป็นกฏหมายอาญา อย่างไรก็สามารถแก้ได้ รัฐธรรมนูญยังสามารถแก้ไขได้ แล้วทำไมกฏหมายอาญาจะแก้ไขไม่ได้ แล้วเรื่องนี้ในหมวดหมู่ที่เกี่ยวกับพระมหากษัตริย์ แก้ไขกันมาไม่รู้จะกี่ครั้งแล้ว ไปดูบ้าง ไปอ่านดูบ้าง ไม่ใช่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยแล้วมาแสดงความคิดเห็น 

ในเรื่องของการเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีของพรรคก้าวไกล พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ กล่าวว่า มีดอกาสไม่มาก เพราะส่วนใหญ่จะปิดกั้นตัวเอง อันนั้นก็ไม่ได้ อันนี้ก็ไม่ได้ ไปยกมาตรฐานเสียสูง ไม่จำเป็นต้องฟังเสียงกลุ่มคนที่สนับสนุนจนเกิดกว่าเหตุ จะกลายเป็นผลเสีย 

ภายหลังจากการประชุมพรรค พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ ได้ให้สัมภาาร์สื่อมวลชนอีกครั้ง ในประเด็นเรื่องการเสนอชื่อ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ของพรรคก้าวไกล ให้มีการโหวตเป็นนายกรัฐมนตรีครั้งที่ 2  ว่าต้องตอบกันตามตรงว่าเป็นเรื่องที่ยากเพราะเมื่อวันที่ 13 ที่ผ่านมาก็ได้เห็นคะแนนของสว. ที่ลงคะแนนให้กับทางนายพิธาเพียง 13 คนเท่านั้นซึ่งตอนนี้ สถานการณ์เปลี่ยนแปลงไปได้ตลอดเวลาตอนนี้ก็ต้องช่วยเดินหน้าประสานขอคะแนนเสียงมาช่วยนายพิธาเพิ่มเติม ส่วนตัวก็หนักใจแทน ก็ต้องดูว่าตัวนายพิธา อยากจะสู้ต่อไป ถ้าในกรณีโหวตครั้งที่ 2 ไม่ผ่าน

ซึ่ง 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลก็จะยังสนับสนุนนายพิธาต่อไป แต่ถ้าไม่ได้จริงๆก็ต้องเป็นพรรคเพื่อไทยร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลต่อไป ซึ่งแน่นอนว่าก็จะต้องมีพรรคก้าวไกลร่วมอยู่ด้วย แต่ถ้าในกรณีที่ยังมีความก้าวก่ายร่วมรัฐบาลกับทางเพื่อไทยแล้วไม่สามารถโหวตผ่านเสียงของสว.ไปได้ก็ต้องให้ทั้ง 2 พรรคไปพูดคุยตกลงกันว่าจะเอาอย่างไร ซึ่งก็ต้องดูว่าก้าวไกลอาจจะต้องเสียสละไปเป็นฝ่ายค้าน ซึ่งก็จะสามารถเปิดพื้นที่ให้เป็นอิสระมากขึ้น ในการไปเชิญพรรคการเมืองอื่นๆมาร่วมจัดตั้งรัฐบาลเช่นพรรคภูมิใจไทยพรรคประชาธิปัตย์ เป็นต้น ส่วนตัวมองถึงการเสียสละของพรรคก้าวไกล ก็ต้องยอมพี่จะไปเป็นฝ่ายค้านแต่ก็ต้องสนับสนุนพรรคเพื่อไทยและในกรณีที่ถ้าไม่มีตัวเลือกที่เหมาะสมตนเองก็พร้อมที่จะเป็นตัวเลือกในการเป็นนายกรัฐมนตรี 

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ เตมียเวช หัวหน้าพรรค

จุดยืนของพรรคเสรีรวมไทยในการปิดสวิตช์สว.นั้น ส่วนตัวมองว่ามันทำไม่ได้ที่ผ่านมามีการพยายามที่จะปิดสวิตช์สว 3-4 ครั้งก็ไม่สำเร็จมองรวมถึงครั้งนี้ก็มีแนวโน้มที่จะไม่สำเร็จด้วยเช่นกันดังนั้นควรจะมองหาวิธีการที่จะนำไปสู่ความสำเร็จจะดีกว่า และการที่จะเดินหน้าแก้ไขกฎหมายปิดสวิตช์สว. อาจจะเกิดตั้งคำถามจากประชาชนก็ได้ว่ายังมีญัตติที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนค้างอยู่ในสภาอีกจำนวนมากแต่ทำไมถึงมาดำเนินการในเรื่องที่เป็นประโยชน์ของตัวเองก่อน ดังนั้นจึงเรียกร้องขอให้นึกถึงผลประโยชน์ของประชาชนเป็นหลักก่อน

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ