สว.พีระศักดิ์ พอจิต อธิบายที่มาที่ไป ในการโหวตนkยกรัฐมนตรี หนุน พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ จากพรรคก้าวไกล เป็นการเคารพต่เสียงข้างมากที่เลือกมาแบบนี้ ไม่ติดใจมาตรา 112 เพราะหากไม่มีเสียงสส. จากพรรคอื่นเข้าร่วม ทุกอย่างก็จบ ด้าน สว.สายทหาร พล.โอสถ ภาวิไล แนะ "พิธา" ถอยให้เป็น
นายพีระศักดิ์ พอจิต สมาชิกวุฒิสภา ( สว. ) เปิดเผยการที่โหวตนายกรัฐมนตรี ให้กับ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เพื่อขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี มาจากพื้นฐานการโหวตตามหลักการเสียงข้างมากของสภาผู้แทนราษฎร ( สส. ) ไม่มีใครสามารถแทรกแซงตนเองได้ ประเด็นข้อกังวลเรื่องการแก้ไขมาตรา 112 และ ข้อกล่าวหาในการแบ่งแยกดินแดนที่นายพิธาและพรรคก้าวไกล ถูกกล่าวหานั้น
มองว่าในการแก้ไขมาตรา 112 เป็นขั้นตอนหลังจากนี้ ไม่เกี่ยวข้องกับการโหวตนายกรัฐมนตรี และเสียงของพรรค ก้าวไกล มี 151 เสียง หากพรรคการเมืองอื่นไม่เห็นชอบด้วย กฎหมายนี้ก็จะไม่ผ่าน
ส่วนข้อกล่าวหาเรื่องของการแบ่งแยกดินแดนนั้นตนเองเชื่อว่าเป็นไปไม่ได้เพราะรัฐธรรมนูญไทยบัญญัติชัดเจนว่าราชอาณาจักรไม่สามารถแบ่งแยกได้ "ผมอยากให้คุณพิธา บริหารงาน เพราะได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องประชาชนมาแล้ว " เขา กล่าว
พล.ต.โอสถ ภาวิไล สมาชิกวุฒิสภา ( สว.) กล่าวว่า การที่สว. ส่วนใหญ่ไม่โหวตนายกรัฐมนตรีให้กับนายพิธา ในหลักการทำงานสว.ต้องพิจารณาหลาย ๆ เรื่อง ไม่ใช่พิจารณาว่าได้ นายพิธา ได้เสียงมาแล้ว เรื่องอื่นไม่พิจารณาไม่ได้ เพราะเป็นหน้าที่ของสว. ต้องพิจารณาต้องหาสิ่งที่ดีที่สุด
" สว.มีหน้าที่พิจารณากลั่นกรอง สิ่งที่สส.เขาพิจารณากันมา แม้กระทั่งสส.ยังไม่เห็นชอบ แล้วทำไมต้องมาลงที่ สว. ซึ่ง ส.ส.มีจำนวน 500 คนก็ไปพูดกันตรง ๆ ทำไมพรรคก้าวไกลไม่มองว่าคนอื่นก็ไม่เห็นด้วย อยากให้พิจารณาว่าคนส่วนใหญ่ ไม่อยากแก้ไขมาตรา 112 เยอะกว่า คนที่ต้องการแก้ไข หากนายพิธา กล่าวว่าจะถอย เรื่อง 112 สว.ก็อาจจะโหวตให้ แต่หากนายพิธา ยืนยันจุดยืนเดิม ผลก็ไม่น่าจะต่างไปจากครั้งนี้ นายพิธา ต้องถอยบ้าง ถ้าไม่ถอยเลยจะไปกันได้อย่างไร " พล.ต.โอสถ ระบุ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง