ข่าว

‘เพื่อไทย’ พ้อ ‘พรรคอันดับ2’ ทำอะไรก็ผิด ย้ำปม ‘ประธานสภา’ จบ 2 ก.ค.

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ชลน่าน-ภูมิธรรม ประสานเสียง คุยก้าวไกล ปม 'ประธานสภา' จบ 2 ก.ค. แน่ พรรคเพื่อไทยไม่อาจเสนอชื่อแข่ง หากพรรคก้าวไกลไม่ให้ ตัดพ้อ 'พรรคอันดับ2 ทำอะไรก็ผิด ทัวร์ลงตลอด ย้ำชัด เพื่อไทยก้าวไกลไม่อาจแยกออกจากกันได้

ปมตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฏร ยังไร้ข้อยุติระหว่าง พรรคอันดับ1 อย่างพรรคก้าวไกล และพรรคอันดับ2 อย่างพรรคเพื่อไทย จนถึงขั้นต้องเลื่อนประชุม 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลออกไปจากเดิม ล่าสุดมีความเคลื่อนไหวจากแกนนำพรรคเพื่อไทย

 

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ระบุว่า ตอนนี้เป็นไปตามนัดหมายใหม่ที่พรรคก้าวไกลนัดในวันที่ 2 กรกฎาคม ต่อจากคณะเจรจาของพรรคก้าวไกลและเพื่อไทยคุยกันได้ข้อสรุปในช่วงเวลา 09:00 น. และชัดเจนแล้วว่าไม่มีการเลื่อนออกไปอีกแล้ว เมื่อได้ข้อสรุปช่วงบ่ายก็จะประชุมหัวหน้า 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล ต่อ ฉะนั้นสิ่งที่มีความชัดเจนในประเด็นที่จะพูดคุยกันเป็นการพูดคุยภายใน โดยทั้ง 2 ฝ่ายจะนำข้อเสนอไปคุยกับคณะเจรจาของพรรคก้าวไกล ซึ่งมีความมั่นใจว่าคณะเจรจาทั้งจะคุยกันสรุปจบได้ดี

 

ขณะที่ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงประเด็นที่มีสื่อนำเสนอสูตรตั้งรัฐบาลโดยพรรคเพื่อไทยได้ 13 รัฐมนตรี+1ตำแหน่งประธานสภาฯ ส่วนพรรคก้าวไกลได้15+1 ตำแหน่งนายกฯ นั้น ว่า ตัวเองเห็นข่าวแล้วยังรู้สึกงง ว่าไปเอาสูตรนี้มาจากไหน เพราะไม่เคยไปพูดหรือให้ข่าวที่ไหน พรรคเพื่อไทยยังคงยืนยันในจุดเริ่มต้น 14 + 1 ยึดหลัก 14 + 1 คือตำแหน่ง 14 รัฐมนตรี และ 1 ตำแหน่งประธานสภา ซึ่งจะต้องหารือกัน

 

ไม่มี สูตร 13+1 และ15+1

และที่บอกไปว่า 14 + 1 ตัวเองได้พูดแล้วว่า หากประกาศชัดเจนแล้ว ให้เริ่มต้นยึดหลักการนี้มาประกอบการเจรจา เรื่องอื่นไม่ใช่สูตรที่ตายตัว โดยเฉพาะสูตร 13+1และ15+1 ไม่รู้ว่าเอามาจากไหน พรรคเพื่อไทยจึงไม่ยืนยันและไม่ทราบทั้งสิ้น ยังย้ำว่าไม่เคยเสนอสูตรนี้ เรายังคงยืนยันข้อเสนอเดิมคือ 14 + 1 แล้วตั้งแต่เสนอไปก็ยังไม่เคยได้รับคำตอบจากพรรคก้าวไกลเลย จึงคิดว่าต้องเริ่มต้นจากสิ่งที่เคยเจรจาไว้

 

นพ.ชลน่าน กล่าวเสริมว่า เพื่อไทยเป็นพรรคอันดับ 2 เราเข้าใจตัวเราดี หลักการเจรจาสองพรรคอันดับสองเคารพพรรคอันดับ 1 และของใช้ คำว่า “เป็นข้อเสนอ” เพื่อให้พรรคอันดับ 1 พิจารณา 14 + 1 คือสิ่งที่เราขอให้พรรคก้าวไกลพิจารณา ไม่ใช่กันยื้อแย่งหรือบีบบังคับ และวงเจรจาแต่ละฝ่ายรู้สิทธิของตัวเองดี 

 

และเข้าใจดีว่า โดยหลักเป็นพรรคอันดับ 1 ควรได้สิทธิ์เป็นประธานสภา พรรคเพื่อไทยก็เข้าใจเรื่องนี้ดีจึงขอว่า “ให้มาเป็นของพรรคอันดับ 2 ได้หรือไม่” เพื่อดุลยภาพในการทำงาน พรรคก้าวไกลเป็นประมุขฝ่ายบริหารแล้ว เพื่อไทยขอเป็นประมุขฝ่ายนิติบัญญัติบ้าง ทั้งหมดย้ำว่า “เป็นข้อเสนอ ไม่ได้ไปแย่งก้าวไกลมา”

นพ.ชลน่าน และนายภูมิธรรม

 

"ยืนยัน ไม่ได้เป็นการหักหลังประชาชนมาแต่ประการใด เค้าจะให้หรือไม่ให้เราก็ต้องการคำตอบเป็นทางการเท่านั้นเอง”

 

นายภูมิธรรม แจกแจงอีกว่า สูตร 14+1 เสนออยู่บนพื้นฐานคะแนนที่ไล่เรี่ยกัน และพรรคเพื่อไทยและก้าวไกลก็อยู่บนพื้นฐานอารมณ์ผู้สนับสนุนทั้ง 2 ฝ่าย ที่จะให้ทั้ง 2 ฝ่ายร่วมมือและทำงานร่วมกันได้ แต่เรายังไม่ได้รับคำตอบ เวลานี้สิ่งที่ถูกสื่อสารออกมาข้างนอกเป็นคำตอบรายบุคคล หรือ เป็นคำตอบที่ไม่เป็นทางการทั้งสิ้น พรรคเพื่อไทยยังคงอยากได้การพูดคุยที่เป็นทางการ

 

ส่วนต่อจากนี้พรรคก้าวไกลจะเป็นอย่างไรนั้น นพ.ชลน่าน บอกว่า เราเอาพี่น้องประชาชนเป็นตัวตั้ง โดยเฉพาะ 25,000,000 เสียง ที่เลือกพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกล ซึ่งเป็นเสียงข้างมากเด็ดขาด จึงขอใช้สิ่งนี้เป็นตัวตั้ง เป็นหลักในการเจรจา และเป้าหมายสุดท้าย ต้องการรัฐบาลที่มาจากฝ่ายประชาธิปไตย 

 

"หากทั้ง 2 พรรคยึดเอาหลักนี้เป็นตัวตั้ง มีข้อสรุปออกมาดีอย่างแน่นอน สิทธิ์ของพรรคอันดับ 1 ถ้าเค้ายังยืนยันว่า ขอแล้วไม่ให้ เราเป็นพรรคอันดับ 2 ก็ต้องพิจารณาว่าเมื่อไม่ให้สิทธิ์นั้น เราขอไปแล้วไม่ได้รับ จะทำอย่างไรต่อ แต่ยืนยันว่าหลักการ อยู่บนพื้นฐานของรัฐบาลฝ่ายประชาธิปไตย พรรคเพื่อไทยมั่นใจเรื่องนี้”

 

ส่วนที่เมื่อวานนี้พรรคก้าวไกล ให้นายปฏิพัทธ์ สันติภาดา ขึ้นเป็น บุคคลที่พรรคก้าวไกล วางไว้ว่าจะให้เป็นประธานสภา ออกมาแสดงวิสัยทัศน์การทำงานในตำแหน่งประธานสภา จะทำให้พรรคเพื่อไทยเสียเปรียบหรือไม่ เพราะยังไม่มีแม้แต่ชื่อบุคคลที่จะมาดำรงตำแหน่งประธานสภา นั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า ก็เป็นดุลยพินิจของประชาชน แต่การพูดคุยกันยังไม่ได้เสนอชื่อบุคคล เพราะเราเคารพการตัดสินใจที่จะปรึกษาหารือกัน พรรคเพื่อไทยจึงถือว่ายังไม่ได้เสนออะไร หากยังไม่ชัดเจนให้เกิดเป็นประเด็น หรือปัญหาที่ทำให้ไม่พอใจกัน 

 

โดยเฉพาะผู้สนับสนุนของทั้ง 2 พรรค แต่ก็เป็นสิทธิ์ของพรรคก้าวไกลหากจะเสนอก็เสนอไป พรรคเพื่อไทยเคารพการพูดคุยกัน จึงยังขอไม่เสนอบุคคลที่จะมาดำรงตำแหน่งประธานสภา แค่ยืนยันว่าพรรคเพื่อไทยพร้อมเสนอชื่อ เพราะเรามีบุคลากรที่มีความพร้อมในตำแหน่งนี้

 

พร้อมยังปฏิเสธที่มีบางสื่อเสนอ ว่าพรรคเพื่อไทยเสนอชื่อนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ไม่มีการเสนอชื่อ แต่โดยการคุยต้องดูความสมดุล และสมเหตุสมผลเพื่อให้กองเชียร์ 2 ฝ่ายเข้าใจ และรู้สึกดี ว่า หัวหน้าพรรคทั้ง 2 ฝ่าย ควรได้ตำแหน่งที่สมดุลกัน เพื่อที่จะทำงาน และประสานงานกันได้ด้วยดี แต่ทั้งหมด ก็ยังไม่ใช่ข้อสรุปต้องเอาไปหารือกันก่อน 

 

ทั้งนี้ที่สุดแล้วตัวเองบอกไม่ได้ว่า ต้องเป็นอย่างนั้น ทุกอย่างขึ้นอยู่กับการเจรจา และกรรมการบริหารพรรค ที่จะตัดสินใจว่าพรรคเพื่อไทย จะเสนอชื่อใคร เพราะในพรรคเพื่อไทยก็ยังมีคนที่มีความเหมาะสมที่จะเป็นประธานสภาหลายคน จึงต้องดูว่าใครเหมาะสมทำหน้าที่นี้

 

นายภูมิธรรม ยังบอกอีกว่า ไม่ทราบว่าการนัดประชุมสภาวันที่ 4 กรกฎาคม จะเลื่อนออกไปก่อนหรือไม่ เพราะยังไม่ได้รับแจ้งจากทางสภา แต่ทุกอย่างก็เป็นไปตามที่หัวหน้าพรรคเพื่อไทยพูด พรรคเพื่อไทย อยู่บนพื้นฐานที่เป็นเจตจำนงของประชาชน เดินหน้าสร้างรัฐบาลฝ่ายประชาชนให้เกิดขึ้นให้ได้

 

พ้อเพื่อไทยทำอะไรก็ผิด

ขณะที่นพ.ชลน่าน กล่าวเสริมว่า การจะเสนอชื่อ พรรคก้าวไกลมีสิทธิ์ จะเสนอชื่อใครก็ได้โดยชอบ และพรรคเพื่อไทยในฐานะพรรคร่วมฯ ก็ให้สิทธิ์พรรคก้าวไกล ในการนำทุกประเด็น ที่จะเจรจาตั้งรัฐบาล และที่สำคัญ เมื่อพรรคเพื่อไทยเป็นพรรคอันดับ2 ค่อนข้างระมัดระวัง อย่างมากที่จะเสนออะไรออกไป แม้แต่ การเสนอขอตำแหน่งประธานสภา 

 

"ไม่ใช่แค่ทัวร์ แต่ทุกอย่างมาลงที่พรรคเพื่อไทยหมดด้วยความไม่เข้าใจ ดังนั้นการเสนอขอประธานสภาของพรรคเพื่อไทย เป็นการเสนอขอตำแหน่งโดยที่ ยังไม่ได้รับคำตอบ ถ้าไปดันเอาชื่อใครเสนอประกบกับก้าวไกล พรรคเพื่อไทยจะถูกประณามมากกว่านี้ 

 

จะถูกมองว่าไปแข่งกับพรรคก้าวไกล ซึ่งเรายืนยันว่าไม่ได้แข่งแต่ขอคุยจะอนุญาตหรือไม่ หากไม่ให้ก็เป็นสิทธิ์ของก้าวไกล เพราะเป็นพรรคอันดับ 1 จะทำอะไรก็ได้ พรรคเพื่อไทยจะได้กลับมาพิจารณาว่า เมื่อเขาไม่ให้ เราจะพิจารณาการทำงานร่วมกันอย่างไรต่อ”

 

เพื่อไทย-ก้าวไกล ไม่แยกจากกัน

ยืนยันว่าพรรคเพื่อไทยไม่อาจแยกออกจากก้าวไกลได้ เพราะเราถูกมัดรวม ด้วยอาณัติของประชาชน แม้เราอยากออกไปก็ออกไปไม่ได้” ขอเน้นคำนี้ “ อยากออกก็ออกไม่ได้ ทั้งที่พรรคเพื่อไทยมีสิทธิ์ แต่มันไม่ชอบธรรม เพราะประชาชน 25,000,000 เสียง มัดเพื่อไทยกับก้าวไกลรวมกันแล้ว เปรียบเหมือนพ่อแม่จับลูกคลุมถุงชนแต่งงาน”

 

นพ.ชลน่าน ยังกล่าวทิ้งท้ายว่า เมื่อพรรคก้าวไกลไม่ให้ เราก็ไม่ควรจะรับเอาไว้ และวันที่โหวตเลือกประธานสภาก็ควรมีเพียงชื่อเดียว ไม่มีการปล่อยให้ฟรีโหวต พรรคเพื่อไทยจะทำหน้าที่ควบคุมไม่ให้เกิดขึ้น และปฏิเสธว่ายังไม่ได้รับแจ้งจากเลขาประธานสภา ว่าจะเลื่อนการเปิดประชุมสภาในวันที่ 4 กรกฎาคมออกไป หากจะเลื่อนออกไปกว่านี้ก็เป็นหน้าที่ของสภาฯ

‘เพื่อไทย’ พ้อ ‘พรรคอันดับ2’ ทำอะไรก็ผิด ย้ำปม ‘ประธานสภา’ จบ 2 ก.ค.

 

ส่วนที่ส่วนที่มีรายงานข่าว การประชุมวันที่ 4 กรกฎาคมต้องเลื่อนออกไปนั้น ด้วยเหตุผลพรรคเพื่อไทยกับพรรคก้าวไกลยังตกลงตำแหน่งประธานสภากันไม่ได้นั้น นพ.ชลน่าน กล่าวว่า “สภามายุ่งอะไร”และย้ำว่า ทุกอย่างต้องจบในวันที่ 2 กรกฎาคม “ไม่มีถ้า!” เพราะจะโหวตกันวันที่ 4 กรกฎาคมนี้แล้ว ต้องทำให้จบทั้ง 2 ฝ่าย จะจบเพียงฝ่ายเดียวไม่ได้

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ