'วันนอร์' เชื่อ 'ฟรีโหวต' ตำแหน่ง 'ประธานสภา' เกิดปัญหาแน่!

นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ และ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชาติ (ปช.) นำ 8 สส.ของพรรค รายงานตัวต่อสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร 

นายวันมูหะมัดนอร์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังการเข้ารายงานตัวต่อสภาถึงความชัดเจนการเจรจาแบ่งโควต้ารัฐมนตรี ว่าไม่ได้คุยกัน เพราะต้องรอให้นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ที่ป่วยเป็นโควิดหายดีก่อน แล้วจึงหารืออีกครั้ง ทั้งนี้พรรคไม่มีการต่อรองเรื่องเก้าอี้ร้ฐมนตรีตามที่ปรากฎเป็นข่าวว่าจะขอเก้าอี้รัฐมนตรีช่วยเพิ่มอีก1 ตำแหน่ง ส่วนจะได้ตำแหน่งใดนั้นขอให้เป็นประโยชน์และเหมาะสมกับพรรค ปช. เนื่องจากพรรคมาเพื่อทำงานและทำประโยชน์ให้ประชาชน

เมื่อถามถึงการแบ่งโควต้าตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร หัวหน้าพรรค ปช.กล่าวว่า ขอให้พรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกล ตกลงกันเอง ส่วนรองประธานสภานั้น ปกติตำแหน่งรองประธานสภาคนที่หนึ่งจะเป็นของพรรคที่ได้คะแนนมากอันดับสอง และรองประธานคนที่สองเป็นของพรรคอันดับสาม

“สำหรับการเลือกประธานสภา ปกติหากมีคู่แข่งต้องลงมติลับ แต่หากมีชื่อคนเดียวไม่เป็นปัญหา และเราจะปฏิบัติตามข้อตกลงในการจัดตั้งรัฐบาลว่าจะให้พรรคใด ได้ตำแหน่งประธานสภา และพรรคประชาชาติจะลงมติตามมติพรรค และข้อตกลงของพรรคร่วมรัฐบาล ส่วนที่มีข้อสังเกตว่าหากมีปัญหาจะปล่อยให้ สส.ฟรีโหวตนั้น ผมมองว่าปกติไม่เป็นแบบนั้น เพราะจะทำให้เกิดปัญหาตามมา” หัวหน้าพรรค ปช.กล่าว

เมื่อถามถึงการเสนอชื่อประธานสภาแข่งขันของพรรคตรงข้าม นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า ฝ่ายตรงข้ามเสนอแข่งตลอดเวลาอยู่แล้ว แต่กรณีที่ฝ่ายตรงข้ามเสนอชื่อบุคคลในพรรคที่อยู่ฝ่ายตรงข้ามแข่งนั้นไม่ค่อยเห็น

อย่างไรก็ตามการออกเสียงเพื่อเลือกประธาน และรองประธานสภา ของพรรค ปช.จะเป็นไปตามมติของพรรคและมติพรรคร่วมรัฐบาล สำหรับคุณสมบัติของบุคคลที่จะเป็นประธานสภา และรองประธานสภาตนมองว่าต้องมีความรู้ความสามารถ ดูแลการประชุมสภาให้เรียบร้อย และต้องทำงานได้อย่างมีเกียติ มีศักดิ์ศรี เพราะสภามีหน้าที่ออกกฎหมาย และตรวจสอบการทำงานของฝ่ายบริหาร ทั้งนี้เชื่อว่าพรรคที่ได้ตำแหน่งดังกล่าวจะคัดเลือกคนที่ดีที่สุด และหวังว่าทุกพรรคจะเลือกคนที่ดีเข้ามาทำหน้าที่ประธานสภา เพราะไม่เช่นนั้นจะทำให้ประชาชนผิดหวัง

เมื่อถามต่อว่ากรณีที่ประธานสภาเป็นโควต้าพรรคก้าวไกล มองว่าจะทำให้เกิดชนวนขัดแย้งหรือไม่ เพราะพรรคก้าวไกลต้องการผลักดันร่างกฎหมายที่สังคมกังขา นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า คงไม่มีความขัดแย้ง เพราะการประชุมสภา มีการลงมติยึดเสียงข้างมากและเป็นปกติที่จะโต้แย้งในญัตติต่างๆ มีทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยถือเป็นธรรมดาของฝ่ายนิติบัญญัติ ความเห็นไม่ตรงกันไม่ใช่เรื่องความแตกแยก