ข่าว

สรุปดราม่า #มีกรณ์ไม่มีกู ขึ้นเทรนด์อันดับ 1 บนทวิตเตอร์ชั่วข้ามคืน

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

แฮชแท็ก #มีกรณ์ไม่มีกู ขึ้นเทรนด์ทวิตเตอร์อันดับ 1 หลัง "พรรคก้าวไกล" ประกาศว่า "พรรคชาติพัฒนากล้า" ตอบรับเข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาล สุดท้ายต้องออกมาแสดงจุดยืนว่า จะไม่ร่วมรัฐบาลกับ ชพก. แล้ว "ชูวิทย์" เตือนก้าวไกลต้องถ้อยคนละก้าว สรุปครบจบดราม่าไว้ที่นี่

  • "พรรคก้าวไกล" ดีล "พรรคชาติพัฒนากล้า" จัดตั้งรัฐบาล 

หลังจากชนะการเลือกตั้ง66 "พรรคก้าวไกล" เดินหน้าเป็นแกนนำ "จัดตั้งรัฐบาล" ต่อสายหาเสียงจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ให้ได้มากที่สุด แม้ว่าพรรคนั้นจะมีแค่เสียงเดียวก็สำคัญ  "พรรคชาติพัฒนากล้า" ที่มี "นายกรณ์ จาติกวณิช" เป็นหัวหน้าพรรค เป็น 1 ในพรรคที่ก้าวไกลต่อสาย เพื่อหวังเข้าไปโหวตให้ "พิธา ลิ้มเจริญรัตน์" แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ในรัฐสภา เพราะพรรคนี้ประกาศจุดยืนว่า "จะสนับสนุนพรรคที่ได้คะแนนเสียงจากประชาชนมาเป็นอันดีบ 1 ให้จัดตั้งรัฐบาล"
 

ความเห็นในทวิตเตอร์เมื่อวันที่ 19 พ.ค. 2566 ขึ้นเทรนด์อันดับ 1

 

 

จนกระทั่งเมื่อวานนี้ (19 พ.ค. 2566) "พรรคก้าวไกล" ออกมาประกาศว่า สามารถดีล "พรรคชาติพัฒนากล้า" ร่วมจัดตั้งรัฐบาลได้แล้ว รวมเสียงตอนนี้ 316 เสียง ผ่านไปไม่กี่ชั่วโมง แฮชแท็ก "#มีกรณ์ไม่มีกู" ขึ้นเทรนด์ทวิตเตอร์อันดับ 1 

 

 

  • สื่อรายงานตรงกัน "พรรคชาติพัฒนากล้า" ตอบรับ

สื่อหลายสำนักรายงานตรงกันว่า "พิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์" รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ระบุว่า "พรรคชาติพัฒนากล้า" ที่ชนะที่นั่ง สส.แบบแบ่งเขต 1 ที่นั่ง และ สส.แบบปาร์ตี้ลิสต์ 1 ที่นั่ง ได้ตกลงเข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับก้าวไกลแล้ว ทำให้รวมมีเสียงฝ่ายพรรคร่วมรัฐบาล 316 เสียง การประกาศจะจับมือร่วมรัฐบาลกับพรรคชาติพัฒนากล้า ไม่เพียงประชาชนที่ไม่พอใจ แต่หมายรวมถึงผู้สนับสนุนพรรคก้าวไกลด้วย

  • ความเห็นส่วนใหญ่ไม่พอใจก้าวไกลผิดจุดยืน

"#มีกรณ์ไม่มีกู" พิพากษ์วิจารณ์ว่า "พรรคก้าวไกล" ผิดจุดยืน ทั้งที่เคยประกาศว่า "ไม่จับมือกับทุกพรรคการเมืองที่สืบทอดอำนาจเผด็จการ" พร้อมแชร์ภาพกรณ์ ที่เคยเป่านกหวีด ไม่เพียงเท่านั้นกรณ์ ยังเป็นหนึ่งใน สส. ที่โหวตให้ "พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา" เป็นนายกรัฐมนตรี ในการเลือกตั้งปี 2562 ในฐานะ สส. พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.)

 

 

 

สรุปดราม่า #มีกรณ์ไม่มีกู ขึ้นเทรนด์อันดับ 1 บนทวิตเตอร์ชั่วข้ามคืน

 

 

  • ต้านกระแสไม่ไหว ก้าวไกลออกแถลงด่วน

"พรรคก้าวไกล" ออกแถลงการณ์ยุติการเจรจาร่วมรัฐบาลกับพรรคชาติพัฒนากล้า ว่า "พรรคขอชี้แจงว่าการพูดคุยกับพรรคชาติพัฒนากล้า เป็นไปบนหลักการว่าพรรคชาติพัฒนากล้าจะโหวตให้ "พิธา ลิ้มเจริญรัตน์" เพื่อให้จัดตั้งรัฐบาลตามฉันทามติของประชาชนได้ ส่วนการร่วมรัฐบาลจะเป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนดในข้อตกลงร่วม หรือ MOU ซึ่งนโยบายและจุดยืนของพรรคก้าวไกลจะเป็นเงื่อนไขหลักในฐานะแกนนำจัดตั้งรัฐบาล"

 

 

 

แถลงการณ์จากพรรคก้าวไกล

 

 

 

  • "พิธา" ออกมาขอโทษหลังพรรคประกาศยุติร่วม ชพก.

ด้าน "พิธา" แกนนำจัดตั้งรัฐบาล ได้รีทวีตแถลงการณ์ของพรรค พร้อมระบุว่า "ขอโทษครับ ผมจะระลึกไว้เสมอว่า พรรคใหญ่กว่าคน ประชาชนใหญ่กว่าพรรค" พรรคก้าวไกล ยอมรับว่า "ทำทุกท่านผิดหวัง" และประกาศยืนกราน "ว่าการจัดตั้งรัฐบาลก้าวไกล จะทำบนพื้นฐานจุดยืนทางการเมือง นโยบายหลักของพรรคตามที่ได้เคยหาเสียงไว้ รวมถึงขอโทษพรรคชาติพัฒนากล้า ที่ต้องยุติการเจรจาครั้งนี้ สุดท้ายนี้ ขอบคุณพี่น้องประชาชน เจ้าหน้าที่พรรค และว่าที่ผู้แทนราษฎรก้าวไกลทุกคน ที่คอยตรวจสอบ ท้วงติงการทำงานของผู้บริหารพรรค เพื่อให้พรรคยืนหยัดในจุดยืน อุดมการณ์เดิมอย่างมั่นคง"

 

 

  • "ชูวิทย์" แนะพรรคก้าวไกลถอย ม.112 ไม่ควรเข้าไปยุ่งเกี่ยวก่อน 

"ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์" อดีตนักการเมือง กล่าวถึงการดำเนินการจัดตั้งรัฐบาลของพรรคก้าวไกล โดยเฉพาะเงื่อนไขเรื่องกฎหมายมาตรา 112 ว่า แนะนำให้พรรคก้าวไกลถอย เพราะเรื่องมาตรา 112 ไม่ควรเข้าไปยุ่งเกี่ยวก่อน ถ้าคุณอยากเข้าไปตั้งรัฐบาล อยากให้สมาชิกวุฒิสภา (สว.) โหวตเลือกนายกรัฐมนตรี

 

 

พรรคต้องยอมถอยออกมา ส่วนตัวเสนอให้เพิ่มกฎหมาย ซ้อนกฎหมาย เรื่องของผู้ใดก็ตามที่ไปร้องเรียน หรือแจ้งความดำเนินคดี และปรากฏว่าเรื่องนั้นไม่เป็นข้อเท็จจริง ให้ผู้ที่ไปร้องเรียนจะต้องรับโทษเท่ากัน คนเหล่านี้ล้วนแต่ทำให้สถาบันฯ เสียหาย

 

 

เรื่องของ MOU ไม่ใช่แค่ยอมถอยในเรื่องเกี่ยวกับ ม.112 แต่ต้องยอมถอยทั้งกระบวนการ แม้จะเสียในเรื่องที่เคยพูดไว้ แต่ถ้ายอมถอยคนละก้าวประเทศชาติก็จะเดินหน้าต่อไปได้

 

 

 

  • รู้จัก "นายกรณ์" หัวหน้าพรรค ภายใต้กลุ่ม "สุวัจน์ ลิปตพัลลภ"

"กรณ์ จาติกวณิช" วัย 59 ปี เกิด 19 ก.พ. 2507 เป็นนักการเมืองมาจากพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.)และออกมาตั้งพรรคของตัวเองในชื่อ "พรรคกล้า" และลาออกร่วมงานการเมืองกับ "สุวัจน์" ประธานพรรคชาติพัฒนา ก่อนเปลี่ยนชื่อใหม่เป็นพรรคชาติพัฒนากล้า (ชพก.) โดยกรณ์ นั่งตำแหน่งหัวหน้าพรรค

 

 

"กรณ์" จบปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด สาขาปรัชญาการเมือง ในสหราชอาณาจักร นำประสบการณ์ 3 ปีในบริษัทจัดการกองทุนที่อังกฤษจนขึ้นเป็นผู้จัดการกองทุน กลับมาตั้งบริษัทหลักทรัพย์ เจเอฟ ธนาคม และนั่งเป็นกรรมการผู้จัดการบริษัทฯ ขณะนั้นเขามีอายุ 24 ปี นายกรณ์สามารถนำองค์กรขึ้นเป็นผู้นำในธุรกิจหลักทรัพย์ ครองส่วนแบ่งตลาดสูงสุด 1 ใน 3 ของบริษัทหลักทรัพย์ในประเทศไทย ฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจ หรือวิกฤตต้มยำกุ้งปี 2540 ภายหลังขายหุ้นให้กับบริษัท เจพีมอร์แกนเชส และนั่งประธานบริษัท หลักทรัพย์ เจพีมอร์แกน (ประจำประเทศไทย) จำกัด

 

 

เข้าสนามการเมืองด้วยการร่วมงานกับ ปชป. ในปี 2547 และมีโอกาสดำรงตำแหน่ง รมว.คลัง ในรัฐบาล "นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" เขาได้รับการยกย่องจากนิตยสาร เดอะ แบงค์เกอร์ ของอังกฤษ เป็นรัฐมนตรีคลังโลกและเอเชีย-แปซิฟิก กับผลงานโดดเด่นช่วง 1 ปี สามารถแก้ปัญหาเศรษฐกิจอย่างได้ผล ทำให้เศรษฐกิจไทยที่ตกต่ำกลับมาฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว หลังต้องเผชิญกับวิกฤตเศรษฐกิจโลกหรือวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ ในปี 2551 เช่น นโยบายประกันรายได้เกษตรกร เช็กช่วยชาติ กองทุนไทยเข้มแข็ง เป็นต้น

 

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ