ข่าว

'เลือกตั้ง 66' อย่าโดนตกเพราะคลิป 3 นาที โค้งสุดท้ายให้นโยบายเป็นโจทย์

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

'เลือกตั้ง 66' อย่าให้คลิป 3 นาทีของใครมาตกคะแนนไป โค้งสุดท้ายให้นโยบายเป็นตัวตัดสินใจ เพราะเลือกแบบไหนนโยบายแบบนั้นจะอยู่ไปอีก 4 ปี

ใกล้เข้ามาทุกทีสำหรับการ "เลือกตั้ง 66" เรียกว่าเป็นโค้งสุดท้ายที่หายใจรดต้นคอกันเลยทีเดียว พรรคไหนมีไม้เด็ดอะไรก็งัดออกมาใช้ทุกวิถีทาง เพื่อโกยคะแนนจากประชาชนก่อนที่จะเดินทางไปจรดปากกากันในวันที่ 14 พ.ค. 2566 นี้ 

 

 

สำหรับการ "เลือกตั้ง 66"ในครั้งนี้หลายคนคงได้เห็นการปล่อยคลิปโฆษณา นโยบายพรรคากรเมือง หรือบางพรรคมีการปล่อยสารคดีสั้นๆ ออกมาเพื่อเรียกคะแนน และเพื่อพรีเซ็นว่าพรรคเราทำอะไรไปบ้างตลอดระยะเวลาในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา แต่ละคลิปก็มีทั้งการดึงดราม่า เรียกคะแนนเห็นใจในความพยายาม แม้กระทั้งยอมเสนอเรื่องราวที่บิดเบี้ยวจากความเป็นจริงก็ต้องยอมทำ เพื่อรักษาคะแนนและฐานเสียงกันเอาไว้ในช่วงสุดท้าย เพราะช่วงนี้ถือว่าเป็นช่วงการตัดสินใจ หากรักษาคะแนนไว้ไม่ได้อาจจะโดนดูดไปด้วยนโยบายดีๆ หรือคลิปไวรัลที่ปล่อยกันออกมาดึงอารมณ์กันเป็นซีรีย์

แม้ว่าคลิปวีดีโอที่แต่ละพรรคปล่อยออกมาจะเรียกคะแนนความเห็นใจ หรือดึงดราม่าแค่ไหนแต่สิ่งที่ประชาชนจำเป็นจะต้องโฟกัสนับจากนี้ อาจจะไม่ใช่แค่คลิปเพียง 3 นาทีที่เราได้เห็นกันผ่านโซเชียลเท่านั้น เพราะนโยบายของแต่ละพรรคต่างหากที่จะเป็นสิ่งที่อยู่กับเราไปตลอด 4 ปี เฉพาะฉะนั้นหากเราอยากได้นโยบายอะไรก็จงไตร่ตรองและเลือกตามความเป็นจริงมากกว่าแต่การตัดสินใจผ่านคลิปวีดีโอสั้น ๆ เท่านั้น โดยเฉพาะนโยบายจาก 4 พรรคการเมืองหลักที่ต้องยอมรับว่าห่ำหั่นกันสุดๆ ขนทั้งนโยบายระดับชาติ และระดับรากหญ้า ประชานิยม  วันนี้ก่อนจะตัดสินใจเดินเข้าคูหา "เลือกตั้ง 66" อยากให้ประชาชนลองมาเลือกนโยบายที่ใช่ และรวมมองประเทศไทยในแบบที่เราอยากให้เป็นมากที่สุด 

พรรคเพื่อไทย เป็นพรรคการเมืองพรรคใหญ่ที่ต้องบอกว่าแค่เปิดนโยบายออกมาในวันแรก ๆก็เสียงฮือฮาไม่ว่าจะเป็นทั้งเสียงชอบใจ และเสียงคอมเมนท์จำนวนมาก โดยเฉพาะนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างกระเป๋าเงินดิจิทัล แต่ที่ผ่านมาพรรคเพื่อไทยก็เป็นอีกหนึ่งพรรคที่มีความโดดเด่นด้านนโยบายเศรษฐกิจ และนโยบายประชานิยมค่อยข้างมากโดยพรรคนี้มีคำสั้นๆ ที่เรียกว่าครอบคลุมนโยบายทั้งหมดคือ “คนไทยไร้จน” ซึ่งโดยรวมแล้วมีนโยบายที่โด่ดเด่น ดังนี้   

เศรษฐกิจดีขึ้น

แก้ปัญหามลพิษ

เติมรายได้ให้ทุกครอบครัว 

เป็นศูนย์เทคโนโลยีการเงิน

เกณฑ์ทหารแบบสมัครใจ 

 

 

พรรคก้าวไกล อีกหนึ่งพรรคที่มีนโยบายโด่ดเด่นไม่แพ้พรรคเก่าแก่โดยเฉพาะการสร้างสังคมแห่งความเท่าเทียม เพิ่มสิทธิและเสรีภาพให้ทุกคนมีสิทธิแสดงออกทางความคิดเห็น รวมไปถึงนโยบายที่สร้างประเทศให้กลายเป็นประเทศรัฐสวัสดิการถ้วนหน้าอย่างแท้จริง นอกจากนี้พรรคจะมีนโยบายต้องการจะขับเคลื่อนนั้นคือการปฏิรูปกองทัพ ยกเลิกบังเกณฑ์ทหารซึ่งเป็นเรื่องที่ถูกหยิบยกมาพูดถึงบ่อยครั้ง โดยนโยบายที่น่าในของพรรคก้าวไกลมีดังนี้  

 

นโยบายสุราก้าวหน้า

สมรสเท่าเทียม

ยกเลิกบังคับเกณฑ์ทหาร

รัฐสวัสดิการถ้วนหน้า 

ข้อแก้ ม.112 

 

 

พรรครวมไทยสร้างชาติ ที่มาพร้อมกับสโลแกนง่าย ๆ ทำแล้ว ทำอยู่ ทำต่อ  เพราะในช่วงที่เป็นรัฐบาลยังมีบางโครงการที่ยังทำไม่เสร็จ เพราะระหว่างทางก็เจอปัญหาอุปสรรคไปบ้าง ส่วนนโยบายที่โดดเด่นของพรรค จะเน้นไปที่การพัฒนาระดับมหาภาค การเพิ่มรายได้ให้แก่ประเทศ และการลดภาระค่าครองชีพให้ต่ำลงกว่าตอนนี้ โดยนโยบายของพรรครวมไทยสร้างชาติที่พอจะไปวัดกับพรรคอื่นได้มีดังนี้ 

 

เพิ่มรายได้ประเทศปีละ 4 ล้านล้านบาท

พัฒนาโครงข่ายที่ทันสมัย

ลดค่าครองชีพ น้ำมัน ไฟฟ้า

ประกันสังคมทั่วหน้าทุกอาชีพ

กองทุนฉุกเฉินประชาชน 

 

 

พรรคพลังประชารัฐ เป็นอีกหนึ่งพรรคที่ขนอาวุธลับกันออกมาสู้ศึกเลือกตั้งครั้งนี้ สำหรับพรรคพลังประชารัฐครั้งนี้มีการขับเคลื่อนภายใต้ 3 นโยบายหลักคือ สวัสดิการประชารัฐ สังคมประชารัฐ และเศรษฐกิจประชาชน และยังคงสานต่อโครงการประชานิยมอย่างบัตรสวัสดิการแห่งรัฐแต่รอบนี้มาในเวอร์ชันที่ให้เงินมากขึ้นมาอีกนิด โดยนโยบายที่น่าสนใจของ พรรคพลังประชาชนมีดังนี้  

 

แก้ปัญหาความยากจน

ลดความเหลื่อมล้ำ 

นโยบายน้ำมันประชาชน 

บริหารจัดการน้ำและที่ดินทำกิน 

สานต่อบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

สวัสดิการคุณแม่และผู้สูงอายุ  

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ