"กำนันไกรสร"อดีตส.ส.แปดริ้วสิ้นลม

(26พ.ย.) เวลา 00.30 น. ที่บ้านเลขที่ 151 บ้านปากคลองม่วง ถนนสายพนมสาคาม-สนามชัยเขต ตำบลเกาะขนุน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นบ้านเกิดของ“กำนันไกรสร นันทมานพ” ผู้ล่วงลับ อดีตส.ส.ฉะเชิงเทรา 4 สมัย ได้เตรียมสถานที่ภายในบ้านไว้คอยรอรับศพของอดีตส.ส.ยุคเก่า ผู้สร้างตำนานการเมืองระดับเจ้าพ่อ ที่ยังไม่เคยถูกลืมเลือนไปง่าย จากผู้คนในจังหวัดฉะเชิงเทรา ที่เสียชีวิตลงอย่างสงบภายในห้องไอซียู.โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ เขต กรุงเทพมหานคร

 ช่วงบ่ายวานนี้ (25พ.ย.) จากอาการป่วย ด้วยหลายโรครุมเร้า ทั้งโรคไต ความดัน เบาหวาน ขณะวัย 79 ปี โดยญาติได้เตรียมพร้อมที่จะเคลื่อนย้ายศพ ออกจาก รพ. ช่วงสายวันนี้ เพื่อนำมาตั้งบำเพ็ญกุศล ประกอบพิธีทางศาสนายังที่บ้านเกิดต่อไป โดยจะมีพิธีรดน้ำศพในช่วงเวลา 15.00 น.วันเดียวกัน

 สำหรับอาการป่วยที่ผ่านมานั้น นายไกรสร ได้เดินทาง เข้า-ออก รพ.บ่อยครั้ง เพื่อผ่าตัดล้างไต ในช่วง 2-3 ปี ที่ผ่านมา และล่าสุดเข้าไปรับการรักษาตัวยังที่โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ เป็นเวลากว่า 1 เดือนเศษแล้ว ก่อนที่จะเสียชีวิตลงในที่สุด

 ส่วนประวัติของกำนันไกรสร เกิดวันที่ 2 ก.ค.2474 เคยเป็นกำนันตำบลเกาะขนุน จนได้รับรางวัล“กำนันแหนบทอง” ในปี พ.ศ.2514 จากกระทรวงมหาดไทย ต่อมาปีพ.ศ. 2522-2526 ได้รับเลือกเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จ.ฉะเชิงเทรา สมัยที่ 1 พรรคชาติประชาธิปไตย และดำรงตำแหน่งกรรมาธิการการปกครอง สภาผู้แทนราษฎร ในปี พ.ศ. 2526 ได้รับเลือกเป็น ส.ส.ฉะเชิงเทรา สมัยที่ 2 พรรคกิจสังคม และได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเป็นผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และกระทรวงพาณิชย์ (นายอำนวย ยศสุข)

 ในปี พ.ศ. 2529 ได้รับเลือกเป็น ส.ส.ฉะเชิงเทรา สมัยที่ 3 พรรคก้าวหน้า ดำรงตำแหน่งเป็นกรรมาธิการการทหาร สภาผู้แทนราษฎร และดำรงตำแหน่งเป็นเลขาธิการพรรคก้าวหน้า ต่อมาปี พ.ศ.2539 ได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส.ฉะเชิงเทรา เขต 1 พรรคประชาธิปัตย์ เป็นสมัยที่ 4 และดำรงตำแหน่งกรรมาธิการการทหาร สภาผู้แทนราษฎร พร้อมได้รับแต่งตั้งเป็นประธานที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม (ดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์ ) จากนั้นยังได้รับการแต่งตั้งเป็นรองประธานที่ปรึกษา ดร.บุญเลิศ ไพรินทร์ สมาชิกวุฒิสภา จังหวัดฉะเชิงเทรา

 นายไกรสรนั้น เป็นบุตรของ นายเจริญ นางเชื่อม นันทมานพ เคยลงเล่นการเมือง ระดับท้องถิ่นมา ก่อนก้าวขึ้นสู่การเมืองใหญ่ระดับชาติในภายหลัง จนได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ตามลำดับชั้นดังนี้ คือ เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2522 ตริตาภรณ์มงกุฎไทย 5 ธันวาคม พ.ศ. 2524 ตริตาภรณ์ช้างเผือก 5 ธันวาคม พ.ศ. 2526 ทวิตริตาภรณ์มงกุฎไทย 5 ธันวาคม พ.ศ. 2528 ทวิตริตาภรณ์ช้างเผือก 5 ธันวาคม พ.ศ. 2530 ประถมาภรณ์มงกุฎไทย 5 ธันวาคม พ.ศ. 2539 ประถมาภรณ์ช้างเผือก 5 ธันวาคม พ.ศ. 2542 มหาวชิรมงกุฎ และเหรียญลูกเสือสดุดี เหรียญกาชาดสรรเสริญ ชั้นที่ 2

 ส่วนการทำประโยชน์ให้สังคม ได้บริจาคที่ดินกว่า 700 ไร่เศษ ให้เป็นสถานที่ก่อสร้างค่ายฝึกลูกเสือ ภาค 12 ต.เขาหินซ้อน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา บริจาคที่ดินจำนวน 10 ไร่ ให้เป็นสถานที่สร้างหน่วยปฏิบัติการพิเศษ ตำรวจภูธรฉะเชิงเทรา (นปพ.) ที่ อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา และได้ถวายที่ดิน 30 ไร่ ให้แก่วัดห้วยพลู ต.เกาะขนุน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา

 นอกจากนี้ยังเคยทูลเกล้าฯถวายที่ดิน 80 ไร่เศษ แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯในโครงการพัฒนาที่ดินทำกินห้วยน้ำใสฯ ตาม พระราชดำริ อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา และบริจาคที่ดิน 8 ไร่เศษ ให้เป็นสถานที่ก่อสร้างที่ว่าการอำเภอสนามชัยเขต จ. ฉะเชิงเทรา เคยบริจาคที่ดินริมทะเลขนาดกว้าง 6 เมตร ลึก 40 เมตรรวมเนื้อ 60 ตารางวา ให้แก่ประชาชนที่อยู่ในหมู่บ้านริมทะเล ต. พลา อ.บ้านฉาง จ.ระยอง ใช้เป็นทางสาธารณะ

 ขณะนั้นไม่มีทางเข้าออกหมู่บ้านใช้เป็นทางเข้าออกสู่ถนนใหญ่ หลังได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านว่าได้รับความเดือดร้อนเหตุเพราะไม่มีทางเข้าออกหมู่บ้าน หลังเคยไปขอที่ดินจากเจ้าของที่รายอื่นๆ ที่เคยรับปากว่าจะให้ แล้วกลับถูกปฏิเสธ เนื่องจากราคาที่ดินขยับสูงขึ้นเรื่อยๆ เป็นลำดับ จนกระทั่งได้มาพบกับนายไกรสร ชาวบ้านจึงได้มีถนนใช้เป็นทางเข้าออกหมู่บ้านอย่างถาวร รวมทั้งยังได้บริจาคทรัพย์สินส่วนตัวเพื่อการอื่นๆ ให้เป็นสมบัติแก่สาธารณะอีกมากมาย จนมาจบชีวิตลงในที่สุด