"เสรีพิศุทธ์" ตั้งเรื่องสอบ "ธรรมนัส" 2 ประเด็น ให้ 2 อนุฯ บินค้นข้อมูลต่างประเทศ ระบุพร้อมยุติเรื่องสอบ หาก "บิ๊กตู่" ปรับออกครม. ยันกรธไม่ปาหี่
เมื่อวันที่ 17 ก.ย. 62 - พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย ฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ป้องกันและปราบปรามการทุจริต ประพฤติมิชอบ แถลงผลประชุมว่า กมธ. ตั้งอนุกมธ. จำนวน 2 ชุด เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อกรณีของร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา พรรคพลังประชารัฐ และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในประเด็นการยืนวุฒิการศึกษาระดับปริญญาเอกที่ไม่มีแหล่งที่มาและคาดว่าจะเป็นวุฒิการศึกษาปลอม โดย น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ฐานะที่ปรึกษากมธ. เป็นประธานอนุกมธ.ฯ และประเด็นที่เกี่ยวข้องกับคดียาเสพติด ซึ่งศาลประเทศออสเตรเลียตัดสินในคดีดังกล่าว โดยมี นายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ฐานะกมธ.เป็นประธานอนุกมธ. ซึ่งอนุกมธ.ฯ ทั้ง 2 คณะจะลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบ หาข้อเท็จจริง ทั้งพยานเอกสารและพยานบุคคลที่ต่างประเทศ โดยมีกรอบเวลาตรวจสอบ และหาพยาน ใน 30 วัน
อย่างไรก็ตามการใช้งบประมาณที่จะเดินทางไปยังต่างประเทศนั้น กมธ.ฯเตรียมเสนอให้นายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ อนุมัติ โดยระหว่างรออนุมัติงบประมาณนั้น จะดำเนินการติดต่อไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของต่างประเทศไปพรางก่อนการเดินทาง
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวด้วยว่า หลังจากที่อนุกมธ.ฯ ตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว แนวทางต่อไปคือการพิจารณาเรียกบุคคลที่เกี่ยวข้อง อาทิ ร.อ.ธรรมนัส และบุคคลที่แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีมาชี้แจงต่อที่ประชุมด้วย อย่างไรก็ตามการตรวจสอบดังกล่าวกมธ.ฯ ไม่ตั้งใจที่จะให้ศาลประเทศออสเตรเลียนำตัว พล.อ.ธรรมนัส กลับไปจำคุก แต่ประเด็นที่เกิดขึ้นตนมองว่าเข้าข่ายขาดคุณสมบัติการเป็นรัฐมนตรี ทั้งนี้กมธ. พร้อมยุติการตรวจสอบเรื่องดังกล่าวหาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ปรับรัฐมนตรีที่มีปัญหาออก และนำคนดีมาทำงานรับใช้ประชาชนแทน
"ผมยืนยันว่าการทำงานของกมธ.ไม่มีปาหี่ และไม่เกรงกลัวใคร ทั้งนี้กมธ.ปราบทุจริตที่มีกมธ.มาจากหลายพรรคการเมืองรวมถึงพรรคร่วมรัฐบาลด้วยนั้น หากจะนำข้อมูลไปแจ้งกับฝ่ายรัฐบาล ไม่มีปัญหาเพราะสิ่งที่กมธ.ฯ พิจารณานั้นไม่มีประเด็นใดเป็นความลับ ทั้งนี้ผมยอมรับว่าเรื่องดังกล่าว ผมเป็นผู้เสนอให้ที่ประชุมพิจารณาเรื่องนี้เอง" พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าว.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง