ข่าว

"บิ๊กตู่"หลุดนึกว่าตัวเองเป็น"ปธ.สภา"เชิญฝ่ายค้านประท้วง

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"บิ๊กตู่"แจงฝ่ายค้าน"บัตรคนจน"ซื้อกล้วยแขกได้ ถ้ามีเครื่องอ่านบัตร ลั่นแก้ไฟใต้ การเมืองนำหน้าพัฒนา หลุดนึกว่าตัวเองเป็นปธ.ให้ฝ่ายค้าน ลุกประท้วง


25 กรกฎาคม 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ลุกขึ้นชี้แจงฝ่ายค้านด้วยเสียงดุดัน โดยเฉพาะประเด็นการแก้ปัญหาภัยแล้ง ปัญหาเศรษฐกิจ หนี้สินครัวเรือน รวมถึงการเกิดขึ้นของโครงการอีอีซี พร้อมกล่าวถึงเรื่องการลงทุนที่เดิมมีแต่การลงทุนภาครัฐเพียงอย่างเดียว 

 

วันนี้เอกชนมีส่วนร่วมด้วย และมีความเสี่ยงเอง รัฐบาลก็ดูแลสิทธิประโยชน์ให้ ถ้าคิดแบบเดิมไม่มีอะไรเกิดขึ้นได้เลย และการที่ประเทศไทยจีดีพีเติบโตน้อย ต้องดูว่าฐานเศรษฐกิจประเทศไทยกว้างแค่ไหน อุตสาหกรรมใหญ่แค่ไหน เมื่อเทียบกับประเทศที่โตเอาๆ พร้อมระบุว่า ต่างชาติเขารักประเทศไทย ทำไมมีบางคนไม่รักประเทศ ซึ่งช่วงหนึ่ง นายกฯ กล่าวขึ้นมาว่า “คดีค้างอีกเป็นพันกว่าคดี เตรียมตัวไว้แล้วกัน” ก่อนจะกล่าวต่อว่า บางประเทศที่อยากจะเป็นอย่างเขา เขามีกฎหมายทุกตัว ทิ้งขยะ เคี้ยวหมากฝรั่ง ยังโดนเคี่ยนเลย อย่างไรก็ตาม ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงนั้น ไม่ได้สอนให้ยากจน ใครพูดไม่รู้ จำตัวเองให้ได้แล้วกัน ซึ่งปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงนั้น คือ มีมากใช้มาก มีน้อยใช้น้อย มีเหตุมีผล พอประมาณ มีภูมิคุ้มกันที่ดี 


พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องบัตรประชารัฐ สามารถซื้อสินค้าที่ร้านไหนก็ได้ที่มีเครื่องอ่านบัตร ไม่ใช่ซื้อได้เฉพาะที่ร้านธงฟ้า ถ้าร้านขายกล้วยแขกมีเครื่องอ่านบัตรก็ซื้อได้เหมือนกัน กรุณาตามสิ่งที่ทำมาด้วย และกล่าวด้วยว่า สิ่งที่พูดนั้นไม่ได้โมโหใคร


นอกจากนั้น นายกฯ ยังได้ชี้แจง ประเด็นความมั่นคง โดยเฉพาะการแก้ปัญหาชายแดนใต้ว่า เรื่องนี้อันตรายที่จะพูดและไม่เข้าใจกันต่อไปข้างนอก การแก้ปัญหาภาคใต้มีมายาวนานแล้ว ไม่เหมือนกับต่างประเทศ หลักการบางอย่างใช้ไม่ได้ การใช้หลักสิทธิมนุษยชนจนมากเกินไปจนไม่เข้าใจทำให้เกิดปัญหา คำว่าสิทธิมนุษยชนกับการละเมิดกฎหมายอาญา ฆ่าคนตายเหล่านี้มันเส้นเดียวกันทั้งสิ้น เมื่อมีการจับกุมก็ให้ความเป็นธรรมดูแล เจ้าหน้าที่คนไหนผิดก็ไล่ออก ลงโทษ เข้าคุก เพราะฉะนั้น ที่ทำงานวันนี้คือนำหน้าด้วยการเมือง คือการพัฒนา สถิติการลงทุนในภาคใต้เพิ่มขึ้น แต่ถ้าปลอดภัยศักยภาพจะเยอะกว่านี้ ต้องแก้ตรงนี้ให้ได้


ปัญหาวันนี้ไม่ได้เกิดขึ้นที่รัฐ รัฐไม่ได้ไปเริ่มยิงใครก่อน จำเอาไว้ รัฐบาลอยู่ดีๆ ไม่ได้ไปยิงใครก่อน ทหารของเราไม่มีใครอยากยิงใคร ถ้ามันไม่ถูกยิงก่อน ถ้าประชาชนไม่ถูกยิงเขาก็ไม่ยิง จะยิงทำไมก็คนไทยด้วยกัน เวลาเจ้าหน้าที่ถูกยิง ถูกระเบิดตาย ไม่มีใครร้องเรียนให้เขา ทำไมไม่มีคนร้องเรียนให้เขา เขาลาดตระเวนไปกับครูไปกับเด็กนักเรียน ดูแลพระ วัด ถูกยิง เงียบ แต่ถึงเวลาถูกจับมาก็ละเมิดสิทธิมนุษยชน

 

ต้องไปดูให้ดีกฎหมายของเรามีอยู่แล้ว เปิดหลายช่องทาง มีตั้ง 9 ยุทธศาสตร์ มีการพูดคุยสันติสุข เพื่อนำสู่การแก้ปัญหา แตกต่างจากฟิลิปปินส์อย่างไร ไม่มีผู้ก่อเหตุรุนแรงใดๆ ยึดพื้นที่ไหนได้ซักตารางนิดนึง ไม่มี เจ้าหน้าที่รัฐลงได้ทุกพื้นที่ หลายประเทศก็พอใจการแก้ปัญหาของประเทศไทย มีแต่ประเทศไทยกันเองนี่แหละ ไม่พอใจ ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน ดูแลผู้ร้ายตลอด ถ้าเจ้าหน้าที่ผิดก็ผิดผมยอมรับ ไปหาหลักฐานมา อย่าพูดลอยๆ วันก่อนก็บอกมีการซ้อม หมอก็ตรวจสอบ ไม่มีร่องรอยซักอัน เป็นลมหน้ามืด แล้วบอกไปซ้อม ดูหนังมากไปหรือเปล่า” ” นายกฯ กล่าว

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงหนึ่งฝ่ายค้านลุกขึ้นประท้วงนายกฯ ห้ามแสดงกิริยา วาจาไม่สุภาพ หรือเสียดสีบุคคลใด โดยพล.อ.ประยุทธ์ ได้กล่าวขอบคุณประธานรัฐสภา ที่วินิจฉัยว่าไม่ผิดข้อบังคับ ก่อนกล่าวกับผู้ที่ลุกขึ้นประท้วงว่า ตนให้เกียรติผู้แทนที่ประชาชนเลือกมา แต่กรุณาให้เกียรติตนด้วย ตนไม่เคยมองท่านเป็นทหาร ถ้าเป็นทหารก็ไม่เป็นแบบนี้ ไม่เช่นนั้นตนก็อยู่กับทหารไม่ได้ แต่นี่ตนให้เกียรติท่านที่เป็นผู้แทนประชาชน บางทีตนพูดเสียงดังบ้าง บางทีกดดันมาก ก็บอกให้ตนรักษากิริยา บางครั้งตนฟังท่านพูด ท่านไม่มีกิริยาให้ตน แต่ตนไม่ได้อาฆาต 

 

โดยระหว่างนั้น มีผู้ยกมือประท้วง จนนายกฯ เผลอหลุดพูดไปว่า “เชิญครับ” แต่เมื่อนึกขึ้นได้ว่าเป็นหน้าที่ของประธานฯ ที่จะเป็นผู้อนุญาต นายกฯ ก็ได้พูดเขินๆ ว่า ขอโทษท่านประธาน สร้างเสียงหัวเราะให้บรรดาสื่อมวลชนที่ติดตามทำข่าว

 

นายกฯ กล่าวอีกว่า ส่วนการจัดซื้ออาวุธ ซื้ออย่างเพียงพอมีประสิทธิภาพ  ถ้าบอกว่ามีทุจริตก็ไปหาหลักฐานมา ซึ่งเรือดำน้ำนั้น 6 ปี กว่าจะได้สักลำ และต้องซื้อเป็นแพ็กเกจ

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ