ศาลรธน.รับวินิจฉัยคุณสมบัติ บิ๊กตู่–ร้อง ธนาธร ล้มล้างปกครอง

       ศาลรัฐธรรมนูญ – 19 ก.ค.62 ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญได้ประชุมพิจาณาคำร้องที่ประธานสภาผู้แทนราษฎรส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า ความเป็นรัฐมนตรีของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ ม. 170 วรรคหนึ่ง (4)  ประกอบ ม. 160 (6) และม. 98 (15) หรือไม่ 

       โดยศาลพิจารณาแล้วเห็นว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จำนวน 110 คน ซึ่งเป็นจำนวนไม่น้อยกว่า 1 ใน 10 ของจำนวนส.ส.ทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของสภาฯ เข้าชื่อร้องต่อประธานสภาฯขอให้ส่งคำร้องมายังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อวินิจฉัยความเป็นรัฐมนตรีของพล.อ.ประยุทธ์ เนื่องจากเป็นบุคคลต้องห้ามในการดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีเพราะเป็นเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ จึงเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ ศาลรัฐธรรมนูญจึงสั่งรับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัย และแจ้งให้ผู้ร้องทราบ พร้อมส่งสำเนาคำร้องให้ผู้ถูกร้องยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาต่อศาลรัฐธรรมนูญ ภายใน15 วัน นับแต่วันที่ได้รับสำเนาคำร้อง

       สำหรับการพิจารณากรณีให้ผู้ถูกร้องหยุดปฏิบัติหน้าที่หรือไม่นั้น เห็นว่ารัฐธรรมนูญ ม.82 วรรคสอง บัญญัติเงื่อนไขไว้ว่า จะต้องปรากฏเหตุอันควรสงสัยว่ามีกรณีตามที่ถูกร้อง ซึ่งในคำร้องและเอกสารประกอบไม่ปรากฏเหตุอันควรสงสัยว่ามีกรณีที่จะทำให้เกิดความเสียหายแต่ประการใด ประกอบกับผู้ร้องไม่ได้มีคำขอในส่วนนี้ จึงยังไม่เข้าเงื่อนไขที่จะสั่งให้ผู้ถูกร้องหยุดปฏิบัติหน้าที่

       ส่วนคำร้องที่ 2 ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณากรณีนายณฐพร โตประยูร ยื่นคำร้องให้ศาลวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ ม.49 ว่าการกระทำของพรรคอนาคตใหม่ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรค และกรรมการบริหารพรรค ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขหรือไม่ ศาลรัฐธรรมนูญเสียงข้างมาก 5 ต่อ 4 เห็นว่า ผู้ร้องใช้สิทธิยื่นต่ออัยการสูงสุดเพื่อร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสั่งการตามรัฐธรรมนูญ ม.49 วรรคสองแล้ว แต่อัยการสูงสุดไม่ได้ดำเนินการภายใน 15 วันนับแต่วันที่รับคำร้อง กรณีจึงเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ ม.49 วรรคสาม ที่ผู้ร้องจะยื่นคำร้องโดยตรงต่อศาลรัฐธรรมนูญได้ จึงมีคำสั่งรับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัย พร้อมส่งสำเนาให้ผู้ถูกร้องทั้ง 4 ยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับสำเนาคำร้อง

       สำหรับคำร้องที่ 3 กรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าความเป็นรัฐมนตรีของมล.ปนัดดา ดิศกุล นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร และนายธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ ม.170 วรรคหนึ่ง (5) หรือไม่ ศาลรัฐธรรมนูญได้อภิปรายเพื่อนำไปสู่การวินิจฉัยแล้วเห็นว่า คดีมีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะพิจารณาวินิจฉัยได้ จึงไม่ทำการไต่สวน และนัดอ่านคำวินิจฉัยให้คู่กรณีฟังในวันที่ 27 ส.ค.นี้ เวลา 14.00 น. หากคู่กรณีประสงค์จะยื่นคำแถลงการณ์ปิดคดีเป็นหนังสือ ให้ยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญภายในเวลา 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือแจ้ง