ป.ป.ช.เตือนครม.อย่าลืมยื่นบัญชีทรัพย์สิน

19 กรกฎษคม 2562  ที่สำนักงานคณะกรรมการป.ป.ช. พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานคณะกรรมการป.ป.ช. ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่ ต้องยื่นแสดงรายการบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อคณะกรรมการป.ป.ช. 

โดยบอกว่า ตามกฎหมายระบุให้ครม. ยื่นบัญชีทรัพย์สิน ภายใน 60 วัน โดยยังคงใช้แบบฟอร์มเดิม แต่ในอนาคตจะพยายามปรับปรุงเพื่อให้สามารถยื่นทางอิเล็คทรอนิกส์ได้ ขณะนี้ได้ประชุมจัดทำรายละเอียดลงในคู่มือ ก่อนแจกจ่ายให้ทราบ อย่างไรก็ตาม กฏหมายใหม่กำหนดว่า ผู้ที่เคยดำรงตำแหน่งทางการเมืองต่อเนื่อง ไม่ต้องยื่นกรณีพ้นตำแหน่งเดิมและไม่ต้องยื่นกรณีเข้ารับตำแหน่งใหม่ เพื่อลดกระบวนการลงได้ เชื่อว่าความคล่องตัวน่าจะดีขึ้น ครบถ้วนตามขั้นตอนกฎหมาย และเปิดเผยต่อสาธารณะในตำแหน่งที่กำหนดให้เปิดเผยได้ เพื่อให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการตรวจสอบ  

พล.ต.อ.วัชรพล กล่าวว่า ส่วนกรณีนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา ที่คู่สมรสคือ นางนาที รัชกิจประการ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ถูกพิพากษากรณียื่นทรัพย์สินอันเป็นเท็จและถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองนั้น รัฐมนตรีและคู่สมรส รวมถึงบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ ก็ต้องยื่นมาตามกฏหมาย แล้วป.ป.ช.ก็ต้องตรวจไปตามขั้นตอนปกติ แต่หากมีข้อสงสัยในบางกรณี ก็ต้องให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบเพื่อยืนยันอีกครั้ง แต่ถ้าจำเป็นจะต้องตรวจในเชิงลึก ก็ถือว่าเป็นไปตามระบบขั้นตอน แต่จะต้องเป็นในกรณีที่มีข้อสงสัย ยืนยันว่าตรวจสอบไปตามขั้นตอนตามปกติ 

เมื่อถามว่า หากเป็นกรณี ที่เคยมีประเด็นปัญหาเช่นนี้ทางป.ป.ช. จะต้องตรวจสอบเชิงลึกเป็นพิเศษหรือไม่ ประธานป.ป.ช. กล่าวว่า “เมื่อใครเข้ามาเป็นรัฐมนตรี ก็ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินตามกฎหมาย ภายใน 60 วันรวมทั้งคู่สมรสและบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะแล้วป.ป.ช. ก็ตรวจสอบไปตามขั้นตอนของกฎหมาย แต่อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าหลายคนเคยยื่นแล้ว คงละเอียดรอบคอบ ไม่ลืม ไม่ตกหล่น คน การเมืองเข้าใจระบบดีอยู่แล้ว“

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่รัฐมนตรีใหม่บางคนอาจมีชื่อตกเป็นผู้ถูกกล่าวหาในคดีที่ค้างอยู่ในป.ป.ช. พล.ต.อ.วัชรพล กล่าวว่า ต้องดำเนินการไปตามพยานหลักฐานและข้อเท็จจริง ตามข้อกฎหมาย และเป็นเรื่องที่ถือว่าเจ้าหน้าที่ต้องรีบดำเนินการ และทำให้โปร่งใส อาจเป็นเรื่องที่ค้างอยู่แล้วเกี่ยวข้องกับบุคคลสำคัญ ที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับการบริหารประเทศก็ถือเป็นอัตโนมัติที่จะต้องรีบทำให้ชัดเจนตามพยานหลักฐาน วินิจฉัยไปตามกฏหมาย เพราะงานของป.ป.ช. ถือเป็นกระบวนการเบื้องต้นของกระบวนการยุติธรรม ก่อนที่จะไปถึงอัยการหรือศาล ระหว่างไต่สวนนี้จะต้องถือว่าทุกคนยังเป็นผู้บริสุทธิ์ ตนมอบ นโยบายไปแล้วว่าบุคคลเหล่านี้เราต้องรีบเร่งดำเนินการเพื่อสร้างความโปร่งใส ถ้าผู้ถูกกล่าวหาไม่ผิดก็คือไม่ผิด 

ส่วนที่ป.ป.ช.ก็มีการเรียกอัพเดตรายชื่อเมื่อเห็นชื่อคณะรัฐมนตรีชุดใหม่แล้ว ประธานป.ป.ช.กล่าวว่า ถือเป็นหน้าที่ของเราอยู่แล้วที่ต้องทำ เพราะทุกเรื่องเราต้องดูลำดับความสำคัญและถือประโยชน์ที่ประเทศชาติจะได้รับ อยากไปกลั่นแกล้งใครแต่ก็ต้องทำ ไม่ใช่ว่าพอมีชื่อแล้วเราจะเก็บเรื่องไว้ยาว อย่างนั้นไม่ใช่แน่ แต่ต้องทำตามขั้นตอน เนื่องจากบุคคลเหล่านั้นเป็นบุคคลสาธารณะ เชื่อว่าผู้ถูกกล่าวหานั้นยังเป็นผู้บริสุทธิ์ เขาเองก็ต้องการพิสูจน์ตัวเอง และป.ป.ช. ก็ต้องให้ความชัดเจน สังคมจะได้โปร่งใสชัดเจน