ไร้ศึกซัดกันเอง พปชร. ชื่นมื่นดินเนอร์กระชับมิตร

 

               เมื่อวันที่ 2 ก.ค. 62 เวลา 15.00 น. ที่ พรรคพลังประชารัฐ มีการประชุม ส.ส. พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) โดยมี นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค เป็นประธานการประชุม มี ส.ส. ทุกกลุ่มเข้าร่วม อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ส.ส. บัญชีรายชื่อ แกนนำกลุ่มสามมิตร นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ส.ส. บัญชีรายชื่อ แกนนำกลุ่ม กทม. ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส. พะเยา ประธานยุทธศาสตร์ภาคเหนือ นายสุชาติ ชมกลิ่น ส.ส. ชลบุรี แกนนำภาคกลาง นายวิรัช รัตนเศรษฐ ประธานวิปรัฐบาล ขณะที่ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค ไม่ได้ร่วมประชุม เนื่องจากติดภารกิจอยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา รวมถึง นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ส.ส. บัญชีรายชื่อ นายอนุชา นาคาศัย ส.ส. ชัยนาท กลุ่มสามมิตร ไม่ได้เข้าประชุม

 

 

 

               โดยการประชุมช่วงแรกมีเพียงนายอุตตมและนายณัฏฐพลนั่งเป็นประธานประชุมบนเวที ทำให้นายวิรัชได้เดินมาเชิญนายสุริยะที่นั่งอยู่ข้างล่างขึ้นมาร่วมเวทีด้วย ท่ามกลางการจับจ้องของบรรดา ส.ส. พรรค

               นายอุตตม กล่าวตอนหนึ่งว่า เรื่องที่จะแจ้งต่อสมาชิก คือ เมื่อมีการตั้ง ครม. แล้ว รัฐมนตรีของพรรคจะต้องมาพบปะกับ ส.ส. เพื่อรับฟังปัญหา รวมทั้งถ่ายทอดการทำงานของรัฐบาลให้ ส.ส. ได้รับทราบ ส่วนที่มีข่าวเกี่ยวกับความขัดแย้งภายในพรรค พวกเราเป็นพรรคใหม่ มากันจากหลากหลายที่ และไม่ใช่ระบบที่คุ้นเคย นี่คือสภาพข้อเท็จจริง แต่เราก็เดินของเรามาได้ และเชื่อว่าพวกเราจะเดินต่อไปอย่างมั่นคงขึ้นเรื่อยๆ เรากำลังเข้าสู่บริบทของสภา ทุกคนต้องทำงานในบทบาทของ ส.ส. ในสภา อย่างเต็มรูปแบบ ที่จะต้องสอดรับกับรัฐบาลใหม่ให้มากที่สุด

               ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังการประชุม ส.ส. พรรคพลังประชารัฐ ที่ใช้เวลาประมาณ 1 ชม. จากนั้น ส.ส. ทั้งพรรคได้ลงมาถ่ายภาพหมู่เพื่อแสดงความสามัคคี สยบข่าวความขัดแย้งจนเป็นรอยร้าวภายในพรรค บรรยากาศเป็นไปอย่างชื่นมื่น จากนั้นนายอุตตมได้นำ ส.ส. ไปรับประทานอาหารค่ำเพื่อกระชับความสัมพันธ์ที่ร้านอาหารเพลิน

               รายงานงานข่าวแจ้งว่า สำหรับบรรยากาศในที่ประชุม ส.ส. ถึงแม้ว่าจะพยายามทำให้บรรยากาศไปในทางที่ดี โดยทันทีที่เริ่มประชุม นายสุริยะได้ลุกขึ้นกล่าวขอโทษต่อที่ประชุมในเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น ตามที่มีการแถลงข่าวเมื่อวันที่ 1 มิ.ย. ที่ผ่านมา ขณะที่กลุ่ม กปปส. ไม่ได้มีท่าทีใดๆ รวมถึงไม่ได้แสดงความเห็นต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น